จับตาอิทธิฤทธิ์ “บอสพอล” คมในฝัก โยกทรัพย์ ขยับหมาก จัดฉากหลอกใคร ? | ถกไม่เถียง

Описание к видео จับตาอิทธิฤทธิ์ “บอสพอล” คมในฝัก โยกทรัพย์ ขยับหมาก จัดฉากหลอกใคร ? | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เช้าวันนี้ ครอบครัว-คนรัก-ทนาย ตบเท้าเข้าเยี่ยมบรรดาบอสชายดิไอคอนวันแรก ด้านรองโฆษกราชทัณฑ์ เผยทุกคนเริ่มปรับตัวได้ เครียดน้อยลง

ญาติแห่เยี่ยม บอสชาย

บรรยากาศบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่คุมขังผู้ต้องหาชายในคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 11 คน ประกอบด้วย บอสพอล, บอสปีเตอร์, บอสเอก, บอสโอม, บอสวิน, บอสทอมมี่, บอสป๊อป, โคชแล็ป, บอสอ๊อฟ, บอสกันต์ และ บอสแซม โดยก่อนหน้านี้อยู่ในขบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 6 วัน และสิ้นสุดการกักโรคในวันนี้ และทางเรือนจำได้เปิดให้ญาติสามารถเดินทางเข้าเยี่ยมได้

โดยเวลา 10.50 น. มีผู้หญิงสูงอายุ 1 คน ผมสั้น สวมเสื้อสีเขียวลายดอกไม้ ถือกระเป๋าสาน ได้เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมผู้หญิงสูงอายุ สวมเสื้อสีส้ม ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำใบหน้าได้ ละม้ายคล้ายแม่ของบอสพอล จึงรีบเข้าไปสอบถามว่า ใช่คุณแม่บอสพอลหรือไม่ ปรากฏว่ามีการยกมือปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าไม่ใช่แม่บอสพอล ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์

มีรายงานว่าในตอนเข้าเยี่ยม ทางแม่ของบอสพอลไม่ได้เข้าไปเยี่ยมด้วย แต่รออยู่ด้านนอก เนื่องจากไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าไปก่อน และภายหลังการเข้าเยี่ยม ครอบครัวมีการยืนพูดคุยกัน บางคนที่เข้าไปถึงกับน้ำตาคลอออกมา ขณะที่แม่บอสพอลยืนพูดคุยกับท่านอื่น ๆ เกี่ยวกับคดีของบุตรชาย

เผย บอสดิไอคอนฯ เริ่มปรับตัวได้แล้ว

ด้าน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับอาการล่าสุดของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ การปรับตัว การรับประทานอาหารนั้น ทุกคนเริ่มปรับตัวได้ มีความเครียดน้อยลง และจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครเจ็บป่วย

ส่วนวันนี้คือวันเยี่ยมญาติเป็นวันแรกสำหรับบรรดาบอสชาย หลังครบกำหนดระยะเวลาการกักโรคไวรัสโควิด-19 แต่ไม่ขอเปิดเผยเลขแดน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่บรรดาบอสหญิงที่ครบกักโรคไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมนั้น ก็ได้ถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดีเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ข้อมูลการเยี่ยมญาติของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ตนไม่สามารถเปิดเผยได้

สอบ รองผู้การฯ ร่วมเครือข่าย

ขณะที่เพจดังยังแชร์บุคคลร่วมเครือข่ายดิไอคอนแบบต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นตำรวจยศพันตำรวจเอก ขึ้นเวทีร่วมงานดิไอคอน งัดอาชีพการันตีอะไรดี อะไรไม่ดี

เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า บอสโปลิศ...ชีวิตดี๊ดีที่ The icon เส้นทางความสำเร็จที่สำนักงานตำรวจให้ไม่ได้ โดยในคลิปเป็นการจัดงานของบริษัทดิไอคอนอย่างอลังการ มีคนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่ไฮไลต์สำคัญ คือ มีนายตำรวจระดับสูง ยศพันตำรวจเอก ขึ้นไปกล่าวแนะนำตัวเอง เรียกเสียงปรบมือจากคนที่ไปร่วมงาน

ตำรวจนายนี้ ระบุบางช่วงบางตอนว่า เขาจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รับราชการตั้งแต่ยศร้อยตำรวจตรี ในปี 2535 จนได้เป็นพนักงานสอบสวนคดีใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นฆ่าหั่นศพ ข่มขืนแล้วฆ่า เขาก็เป็นพนักงานสอบสวนชุดนั้น และทำมาโดยตลอด ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องตรวจสอบว่าอะไรดีไม่ดี อะไรถูกไม่ถูก

มีคนถามว่าผมเข้ามาธุรกิจนี้ได้อย่างไร รับราชการก็ดีอยู่แล้ว ยศพันตำรวจเอกนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มา มีอาชีพ มีความเป็นอยู่ในสังคมอย่างมีเหตุมีผล ได้เงินเดือนที่แน่นอน 1 ปี ขึ้น 2 ครั้ง ครั้งละ 400 บาท หรือ 200 บาท แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเอาจากผมไปก็คือเวลา ไปเที่ยวต่างประเทศเป็นศูนย์ ป่วยลามาขาด ลายาก ผมจึงต้องหาสิ่งที่ชดเชย หาสิ่งที่ตอบแทนในสิ่งที่ขาดหายไป

ทีมข่าวสอบถามข้อเท็จจริงจากตำรวจนายนี้ ยอมรับว่า เคยขึ้นเวทีดิไอคอนจริง เมื่อปี 2560 ที่เมืองทองธานี โดยเป็นการขึ้นพูดตามปกติ เพราะบริษัทก็จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นสมาชิกได้แค่ 2 ปี ก็เลิกทำ

ล่าสุด พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีดิไอคอนกรุ๊ป ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าตำรวจนายดังกล่าว เป็นรองผู้การฯ อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งวันนี้จะมีการเรียกตัวมาพบ เพื่อสอบสวนว่ามีความผิดหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับเจตนาและสถานที่ที่ไปพูด ว่าพูดเรื่องอะไร มีเจตนาอะไร พร้อมระบุว่า จริง ๆ ทุกอาชีพสามารถทำอาชีพเสริมได้ แต่ต้องไม่กระทบใคร

จ่อเรียก เอกภพ พร้อมพยานให้ปากคำ

ขณะที่ คุณเอกภพ สายไหมต้องรอด ส่องานเข้า หลังพาบุคคลที่อ้างว่าเป็นพยานปากสำคัญในเรื่องเส้นเงินดิจิทัลที่เอี่ยว 1 ในบอสดิไอคอนกรุ๊ป เข้าให้การกับ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ก่อนที่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ จะตรวจสอบและเปิดเผยว่า บุคคลดังกล่าวให้การเท็จ

ล่าสุด พลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า หากในช่วงบ่ายวันนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล มาแจ้งความเอาผิดกับนายเอกภพ พร้อมพยานที่มาให้ข้อมูลเรื่องสกุลเงินดิจิทัลว่าเป็นการแจ้งความเท็จ พนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาเชิญทั้ง 2 คน มาสอบปากคำภายในสัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจ กฤษอนงค์ต้านโกง ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ นางสาวกฤษอนงค์จะเข้ามาให้ข้อมูลไปก่อนแล้วก็ตาม

ดีเอสไอ รับคดีฟอกเงิน ดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ

ล่าสุด ช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงรับคดีฟอกเงิน ดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ เหตุความผิดมีมูลค่าเกิน 300 ล้านบาท

อ่านต่อเพิ่มเติม : https://teroasia.com/news/263454

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
กดติดตามช่อง CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero

#ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

Комментарии

Информация по комментариям в разработке