ลักษณะของคริสเตียนปลอม ยูดา1:8-19

Описание к видео ลักษณะของคริสเตียนปลอม ยูดา1:8-19

ยูดา1:8-19

ลักษณะของคริสเตียนปลอม

8เช่นเดียวกัน เขาเหล่านั้นก็ยังเพ้อฝันกระทำให้เนื้อหนังเป็นมลทิน และประมาทต่อผู้มีอำนาจ และพูดจาก้าวร้าวต่อผู้มีบรรดาศักดิ์ด้วย
*** เป็นพวกที่ท่านยูดาสเอ่ยถึงในข้อที่สี่ คือใช้ชื่อว่าเป็นคริสเตียน แต่ไม่เชื่อว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าพระบุตร พวกเขายังประมาทผู้มีอำนาจ(พระเยซู) และพูดจาก้าวร้าวต่อผู้มีบรรดาศักดิ์ (ทูตสวรรค์และผู้รับใช้ทั้งหลายที่ถูกเจิมหรือเลือกเอาไว้)ด้วย


9ฝ่ายอัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ครั้นเมื่อท่านโต้เถียงกับพญามารเรื่องศพของโมเสส ท่านเองก็ยังไม่บังอาจกล่าวก้าวร้าวต่อมารเลย เป็นแต่เพียงกล่าวว่า "ให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงห้ามเจ้าเถิด"
*** ทูตสวรรค์ไม่กล้าที่จะตัดสินใครมีแต่พระเยซูเท่านั้นที่ได้รับสิทธิอำนาจ เราที่เป็นมนุษย์ก็ไม่ควรตัดสินใครนอกเสียจากว่าจะได้รับสิทธิจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเสียก่อน
*** และร่างกายของโมเสสถูกฝังซ่อนไว้โดยพระเจ้า เพื่อไม่ให้ซาตานมาทำมิดีมิร้ายต่อร่างกายของท่าน ซึ่งเชื่อว่าโมเสสได้สวมใส่ร่างกายของท่านอีกครั้งหนึ่งตอนที่มาหาพระเยซูพร้อมกับเอลียาห์ แต่ร่างกายนี้ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนเป็นกายวิญญาณจนกว่าจะถึงวันพิพากษาที่พระที่นั่งของพระคริสต์

10แต่ว่าคนเหล่านี้พูดก้าวร้าวถึงสิ่งที่เขาเองไม่รู้จัก และการซึ่งเขารู้จักตามสัญชาตญาณ เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ไม่มีความคิด เขาก็ต้องถึงหายนะด้วยการนั้น
*** คริสเตียนปลอมเหล่านี้พูดในสิ่งที่เขาไม่รู้ ไม่เห็นและไม่เข้าใจ เนื่องจากว่าเรื่องของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ และผู้ที่บังเกิดใหม่และรับการเปิดเผยจากพระวิญญาณเท่านั้นจึงจะรู้และเข้าใจได้ และจะไม่พูดจากร้าวร้าวและหมิ่นประมาทองค์พระเยซูคริสต์และผู้รับใช้ทั้งทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระองค์

11วิบัติจงมีแก่เขา เพราะเขาได้ประพฤติตามอย่างคาอิน และได้พล่านไปตามความผิดพลาดของบาลาอัมเพราะเห็นแก่สินจ้าง และได้พินาศไปในการกบฏอย่างโคราห์
*** ผลตอบแทนของพวกครูสอนปลอมคือการถูกพิพากษาสู่บึงไฟเหมือนดั่งคาอินและบาลาอัม
*** ประพฤติตามอย่างคาอิน คือคาอิน ถวายเครื่องบูชาเหมือนทำพิธีศาสนาเหมือนคนทั่วไปในสมัยนั้น ทั้งยังไม่มีความเชื่อ ไม่เคารพรักต่อพระเยโฮวาห์ และไม่นำเลือดสัตว์มาถวายตามแบบที่พระเจ้าต้องการ
*** บาลาอัม เป็นผู้เผยพระวจนะของศาสนาอื่นก็จริงแต่ท่านมีความเคารพและยำเกรงพระเจ้า ปัญหาก็คือท่านรับเงินจากศัตรูของชนชาติอิสราเอลและสาปแช่งประชากรของพระองค์แต่พระเจ้าให้เปลี่ยนคำสาปแช่งเป็นอวยพร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นท่านก็จะต้องถูกลงโทษเนื่องจากการรับเงินอธรรมจากศัตรูของชนชาติของพระเจ้า


12คนเหล่านี้เป็นหินโสโครกในการประชุมเลี้ยงผูกรักของท่านทั้งหลาย ขณะเขาร่วมการเลี้ยงกับท่าน เขาเลี้ยงแต่ตนเองโดยไม่เกรงกลัวเลย เป็นเมฆที่ไม่มีน้ำที่ถูกพัดลอยไปตามลม เป็นต้นไม้ที่ไร้ผล คือไร้ผลในฤดูที่ออกผล และตายมาสองหนแล้ว เพราะถูกถอนออกทั้งราก
*** การประชุมเลี้ยงผูกรัก คือการรับประทานอาหารร่วมกันเพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อกันในพระกาย ทุกครั้งที่ผู้เชื่อมาร่วมสามัคคีธรรมควรทำเหมือนสาวกในสมัยแรกซึ่งเป็นสิ่งที่มาจากพระเจ้า เพื่อสำแดงความรักและแสวงหาความผูกพันที่ดีต่อกัน
*** เขาเลี้ยงแต่ตนเองโดยไม่เกรงกลัวเลย คือการกินดื่มที่ไม่สนใจใส่ใจใคร ไม่มีความรักให้ใครในท่ามกลางพี่น้องขณะที่พวกเขาพูดว่าเป็นผู้เลี้ยงที่ดีที่พระเจ้าส่งมา
*** เป็นเมฆที่ไม่มีน้ำที่ถูกพัดลอยไปตามลม คือการกระทำและคำพูดที่ออกมาจากเขาโดยไม่มีชีวิตและไม่ให้ชีวิตกับใครได้เลย

13เป็นคลื่นอันร้ายแรงในมหาสมุทร ที่ซัดฟองของความบัดสีของตนเองขึ้นมา เขาเป็นดาวที่ลอยลับไป เป็นผู้ที่ตกอยู่ในความมืดทึบตลอดกาล
***
1. ต้นไม้ที่ไม่มีผล
2. หินโสโครก(ที่เป็นที่เกาะของประการัง)
3. คลื่นทะเล
4. ทะเล เล็งถึงตัวผู้เชื่อและผู้รับใช้ที่สอนผิด

ส่วน
1.เมฆที่ไม่มีน้ำ
2. ฟองน้ำที่ถูกคลื่นซัดให้เกิดสิ่งไม่ดี
3. ผลที่ไม่ดีจากต้นไม้ไม่ดี
4. ประการัง
5. ดวงดาวที่ลอยลับหายไป คือผลแห่งการกระทำของพวกผู้สอนทั้งหลายที่นำคนของพระเจ้าออกไปจากพระคำแห่งความจริง

14เอโนคคนที่เจ็ดนับแต่อาดัมได้พยากรณ์ถึงคนเหล่านั้นด้วยว่า "ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าได้เสด็จมาพร้อมกับพวกวิสุทธิชนของพระองค์หลายหมื่น
*** 1. อาเบล 2. เสท 3. เอโนช 4. เคนัน 5. มาหะลาเลล 6. ยาเรด 7. เอโนค (คาอินไม่ได้ถูกนับเนื่องจากว่าเขาเป็นคนฆ่าน้องชายของเขา)
*** เอโนค เดินไปกับพระเจ้า คือท่านเชื่อและดำเนินชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้า นมัสการพระเจ้า ถวายเครื่องบูชาตามอย่างของอาเบลที่เป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า
*** พวกวิสุทธิชนของพระองค์หลายหมื่น คือผู้ชนะที่ถูกรับขึ้นเมื่อเขาสุกงอม พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับพระเยซูเพื่อพิพากษาผู้เชื่อที่พระที่นั่งของพระคริสต์และต่อมาก็คือพระบัลลังก์ใหญ่สีขาว

15เพื่อทรงพิพากษาปรับโทษคนทั้งปวง และทรงกระทำให้ทุรชนทั้งปวงรู้สึกตัวถึงการอธรรมที่เขาได้กระทำด้วยใจชั่ว และรู้สึกตัวถึงการหยาบช้าทั้งหมดที่ทุรชนคนบาปเหล่านั้นได้กล่าวร้ายต่อพระองค์"

16คนเหล่านั้นมักเป็นคนบ่น เป็นคนโพนทะนา เป็นคนประพฤติตามตัณหาอันชั่วของตัว และปากเขากล่าวคำโอ้อวดต่างๆ เป็นคนยกยอผู้อื่นเพื่อหวังประโยชน์ของตน

17แต่ว่าท่านที่รักทั้งหลาย ท่านจงระลึกถึงคำพยากรณ์เมื่อก่อนของเหล่าอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราที่ได้กล่าวไว้

18คือว่า พวกอัครสาวกนั้นได้บอกท่านทั้งหลายว่า "ในสมัยสุดท้ายจะมีคนเย้ยหยันบังเกิดขึ้น ที่จะประพฤติตามตัณหาอันชั่วของตัว"

19คนเหล่านี้คือคนที่แยกออกและประพฤติตัวตามโลกียวิสัย และปราศจากพระวิญญาณ
*** จะมีผู้เชื่อหลายคนที่แยกออกจากคนที่เชื่อและไม่เชื่อที่ดำเนินชีวิตตามทางแห่งโลกนี้ พวกเขาจะเดินไปกับพระเจ้าเหมือนดั่งเอโนค คือมีชีวิตเป็นอยู่ในพระวิญญาณและเดินในพระวิญญาณซึ่งก็คือการสนิทในพระเยซูในแต่ละวันนั่นเอง
*** ปราศจากพระวิญญาณ ก็คือคนที่ไม่เชื่อที่ไม่มีพระเจ้า และผู้เชื่อที่ไม่มีพระวิญญาณนั่นเอง

Комментарии

Информация по комментариям в разработке