ลักษณะภูมิวิปัสนาและสมาถะ

Описание к видео ลักษณะภูมิวิปัสนาและสมาถะ

เป็นแนวทางการปฏิบ้ติเพือแสวงหาหนทางพ้นการเวียนวายตายเกิด พ้นจาทุกข์พบทางพระนิพาน การปฏิบัติด้วยการบริกรรมภาวนาก็ดี การปฏิบัติด้วยการยกจิตขึ้นพิจารณาอะไรก็ดี เช่นพิจารณากายคตาสติ พิจารณารูปนามก็ดี หรือกำหนดจิตทำสติตามรู้ความคิดก็ดี การปฏิบัติตามแบบดังที่กล่าวมาจุดมุ่ง ก็เพื่อทำจิตให้เป็นสมาธิขั้นสมถะ เมื่อสมาธิขั้นสมถะไม่มี สมาธิไม่มี ฌานก็มีไม่ได้ ในเมื่อไม่มีฌานคือการเพ่งดูจิตและอารมณ์ ปัญญาก็มีไม่ได้ ปัญญาก็คือความคิด ถ้าเมื่อความคิดไม่มี สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ วิชชาความรู้แจ้งก็มีไม่ได้ หรือวิปัสสนาก็มีไม่ได้

เพราะฉะนั้นความสงบของจิตในขั้นสมถะกรรมฐาน จึงเป็นพื้นฐานให้เกิดวิปัสสนาปัญญา ความคิด หรือสติปัญญาที่เราตั้งใจคิด ที่เราเรียนรู้มาจากตำรับตำรา รู้มาจากการได้ยินได้ฟัง รู้มาจากการค้นการคิด อันนี้เป็นสติปัญญาธรรมดา แต่เมื่อจิตสงบลงแล้วจิตผุดเป็นความรู้ขึ้นมาจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้อันนั้นเรียกว่า สมาธิปัญญา

แต่นักปฏิบัติทั้งหลาย อย่าไปตั้งใจปฏิบัติเฉพาะเวลาเรานั่งหลับตาสมาธิหรือเดินจงกรม ให้พยายามทำสติกำหนดตามรู้ การยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ทุกลมหายใจ อันนี้เป็นจุดยืนของนักปฏิบัติ ถ้าหากเราเอาแต่เวลานั่งสมาธิเดินจงกรม เป็นการสำรวมจิต หรือเป็นการภาวนาเท่านั้น เราอาจจะนั่งสมาธิภาวนาวันละ 3-4 ชั่วโมง แต่หากเวลาที่เราปล่อยจิตปล่อยใจให้เป็นไปตามกิเลสและอารมณ์มากกว่านั้น จิตของเราจะไม่สามารถสร้างพลังขึ้นมาต่อต้านกับความรู้สึกฝ่ายข้างต่ำคือกิเลส

แต่ถ้าเราทำสติตามรู้การยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด อยู่ตลอดเวลา หรือทุกลมหายใจ เราจะได้ปฏิบัติธรรมอยู่ทุกลมหายใจ ทำสมาธิอยู่ทุกลมหายใจ ปฏิบัติสมถะวิปัสสนาอยู่ทุกลมหายใจ เราจะมีศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ทุกลมหายใจ การทำสติสังวรณ์ระวังคอยดูอยู่นั่นแหละคือวินัย ความมั่นใจต่อการที่จะกำหนดรู้กิเลสและอารมณ์ของตัวเองนั่น คือสมาธิ ความรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเกิดขึ้น ดับไป ในขณะที่กำหนดอยู่ นั่นคือตัวปัญญา ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นได้ด้วยการทำสติ ตามรู้การยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม ทำ พูด คิด

Комментарии

Информация по комментариям в разработке