สอน การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย ปริญญาตรี part 2 : ตัวอย่างการทำข้อสอบกฎหมายแพ่ง

Описание к видео สอน การเขียนตอบข้อสอบกฎหมาย ปริญญาตรี part 2 : ตัวอย่างการทำข้อสอบกฎหมายแพ่ง

โจทย์
ฟ้าทำสัญญากู้ยืมเงินขาว จำนวน 50,000 บาท โดยมีแดงทำสัญญาเป็นผู้ค้ำประกันของฟ้าในสัญญากู้ยืมเงิน แต่ในสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกันนั้น ขาวไม่ได้มีการลงลายมือชื่อไว้ในสัญญาทั้งสองแต่อย่างใด ต่อมาฟ้าไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่ขาว ขาวจึงฟ้องร้องต่อศาลให้มีการบังคับชำระหนี้ แต่แดงได้มีข้อต่อสู้ว่าในสัญญาไม่มีลายมือชื่อของขาว และขอให้ศาลยกฟ้องเนื่องจากสัญญาเป็นโมฆะ ข้อต่อสู้ของแดงรับฟังได้หรือไม่

ม.149 ม.152 ม.650 ม.653 ม.680

1.ส่วนที่ 1 มาตรา
(ย่อหน้า)ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 บัญญัติไว้ว่า นิติกรรม หมายความว่า การใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะ ก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
(ย่อหน้า)ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 บัญญัติไว้ว่า การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ การนั้นเป็นโมฆะ
(ย่อหน้า)ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650 บัญญัติไว้ว่า อันว่ายืมใช้สิ้นเปลืองนั้น คือสัญญาซึ่ง ผู้ให้ยืมโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชนิดใช้ไปสิ้นไปนั้นเป็นปริมาณมีกำหนดให้ไปแก่ผู้ยืม และผู้ยืมตกลงว่า จะคืนทรัพย์สินเป็นประเภทชนิด และปริมาณเช่นเดียวกันให้แทนทรัพย์สินซึ่งให้ยืมนั้น สัญญานี้ย่อมบริบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินที่ยืม
(ย่อหน้า)ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 บัญญัติไว้ว่า การกู้ยืมเงินกว่า สองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
(ย่อหน้า)ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 บัญญัติไว้ว่า อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
(ย่อหน้า)อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

2.ส่วนที่ 2 วินิจฉัย
(ย่อหน้า)การที่ฟ้าทำสัญญากู้ยืมเงินขาวเป็นจำนวน 5 หมื่นบาทนั้น ได้มีการลงลายมือชื่อของฟ้าในสัญญาโดยมิได้มีลายมือชื่อของขาวผู้ให้กู้ด้วย สัญญาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 บัญญัติไว้ว่า การกู้ยืมเงินกว่า สองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ สัญญากู้ยืมเงินจำนวน 5 หมื่นบาทระหว่างฟ้าและขาวจึงมีผลสมบูรณ์เนื่องจากได้ทำตามแบบของกฎหมาย ที่ว่าให้มีการลงลายมือชื่อผู้ยืม ในกรณีดังกล่าวคือฟ้า เป็นสำคัญ และในการกู้ยืมดังกล่าว แดง เป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ของฟ้า โดยได้มีการทำสัญญาค้ำประกันระหว่างแดงกับขาว โดยในสัญญาค้ำประกันนั้น มีลายมือแดงแต่ผู้เดียว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 วรรคสอง ที่ได้บัญญัติไว้ว่า อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ สัญญาค้ำประกันของแดงกับขาวจึงมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย เนื่องจากในสัญญาค้ำประกันถือเป็นหนังสือสำคัญในการค้ำประกันได้มีลายมือชื่อของแดงผู้ค้ำประกัน เป็นสำคัญตามแบบที่กฎหมายได้กำหนดไว้ แม้ว่าจะไม่ได้มีลายมือชื่อของขาวก็ตาม สัญญาค้ำประกันก็มีผลสมบูรณ์
(ย่อหน้า)การที่ฟ้าไม่จ่ายหนี้แก่ขาวเมื่อถึงกำหนดชำระหนี้นั้น เมื่อขาวฟ้องบังคับให้ฟ้าและแดงชำระหนี้ แดงจะอ้างว่าสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกันเป็นโมฆะ เนื่องจากไม่มีลายมือชื่อขาวในสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 ที่ได้บัญญัติไว้ว่า การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ การนั้นเป็นโมฆะ นั้นย่อมมิได้ เนื่องเพราะสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกัน เป็นสัญญาไม่มีแบบ แต่ให้มีลายมือชื่อผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ จึงไม่จำเป็นต้องมีลายมือขาวในสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกัน จึงถือได้ว่าสัญญากู้ยืมเงินของฟ้ากับขาวอันเป็นหนี้ประธาน และสัญญาค้ำประกันของแดงกับขาวอันเป็นหนี้อุปกรณ์ เป็นสัญญาที่ทำตามแบบของกฎหมายอันมีผลสมบูรณ์ จึงถือเป็นโมฆะตามที่แดงอ้างไม่ได้

3.ส่วนที่ 3 ฟันธง
(ย่อหน้า)ข้อต่อสู้ของแดงที่ว่าสัญญากู้ยืมและสัญญาค้ำประกันเป็นโมฆะ เพราะเจ้าหนี้ไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือสัญญาทั้งสองฉบับ และขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์ รับฟังไม่ได้

Комментарии

Информация по комментариям в разработке