เพลงแหล่ประวัติหลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต

แหล่ประวัติหลวงปู่เขียนธัมมรักขิโต
(ช)จะขอสาธกยกประวัติ ฟังกันชัดชัดณ.วัดวังตะกู
สามสิบกว่าไร่กว้างใหญ่น่าดู ตำบลวังตะกูนั้นอยู่ไม่ไกล
อยู่บางมูลนาก.เออ.อยู่บางมูลนากขึ้นเหนือมานิด จังหวัดพิจิตรจำให้ขึ้นใจ
เกจิอาจารย์ตำนานยิ่งใหญ่ ผู้คนเลื่อมใสท่านเป็นร่มโพธิ์
(ญ)มีเจ้าอาวาสนามว่าเสถียร คือหลวงปู่เขียนธัมมรักขิโต
วัดวังตะกูอยู่มานานโข ท่านคือร่มโพธิ์เปี่ยมบารมี
มารดาชื่อปลิดบิดาชื่อทอง ท่านมีพี่น้องห้าคนพอดี
ผู้ชายมีสามสองคนสตรี รักใคร่กันดีพ่อแม่ชื่นใจ
(ช)ท่านเกิดวันเสาร์.เออ.ท่านเกิดวันเสาร์เดือนสี่ปีขาล บ้านตลิ่งชันตำบลชอนไพร
เมืองเพชรบูรณ์วัดทุ่งเรไร ทำนาทำไร่อยู่กับมารดา
อายุสิบสองท่านอยากบวชเณร พ่อแม่ก็เห็นดีกับลูกยา
ท่านก็ตามใจไม่ขัดศรัทธา อนุโมทนาจึงบวชเรียนไป
(ญ)เป็นสามเณรอยู่หลายพรรษา เล่าเรียนวิชาขอมคู่กับไทย
บวชอยู่ใกล้บ้านวัดทุ่งเรไร อักษรสมัยเรียนครบตำรา
มาจนกระทั่งอายุใกล้บวช ปล่อยผมไว้หนวดเมื่อสึกเณรมา
ครบอายุบวชบิดรมารดา จึงได้ปรึกษาหารือไม่รอ
(ช)ท่านนั่งติดกับพี่ชื่อทองใบ ที่แต่งงานไปมีลูกเคลียคลอ อยากรู้นมหญิงเป็นอย่างไรหนอ ก่อนบวชจึงขอจับนมพี่ใบ
พี่สาวได้ยิน.เออ.พี่สาวได้ยินก็อนุญาต ไม่ได้ข้องขัดให้น้องจับไป
พอจับดูแล้วก็เอ่ยทันใด มันก็คล้ายๆกับน่องนี่นา
(ญ)เมื่อครั้งพ.ศ.สองสี่สองศูนย์ ยี่สิบบริบูรณ์จึงบรรพชา
วัดภูเขาดินด้วยใจศรัทธา บางคนเรียกว่าวัดภูกระดึง
อยู่อำเภอเมืองที่เพชรบูรณ์ พระธรรมค้ำจุนจิตใจตราตรึง
เคร่งครัดวินัยครองไตรสุดซึ้ง ครบพรรษาหนึ่งที่บรรพชา
(ช)บิดรมารดา.เออ.บิดรมารดารบเร้าให้สึก ท่านไม่เคยนึกจะสึกออกมา
พ่อแม่ตั้งใจจะให้วิวาห์ หลวงปู่อำลาหนีหน้าจากไกล
ท่านไม่ยอมสึกลาโยมบิดา และโยมมารดาด้วยความตั้งใจ
ไม่ยอมแต่งงานกับหญิงบ้านใกล้ ท่านไม่เต็มใจจะมีคู่ครอง
(ญ)จึงไปเยี่ยมญาติที่ชื่อบุญมา มีศักดิ์นั้นหนาลูกพี่ลูกน้อง
ที่วังตะกูแต่งงานกินดอง ได้มีคู่ครองชื่ออินทร์นานมา
กำนันขุนพลสกุลสุขขำ นิมนต์น้อมนำให้จำพรรษา
อยู่วังตะกูไม่กี่เพลา เพียงหนึ่งพรรษาต้องลาจากไกล
(ช)ร่ำลาอาจารย์เพื่อไปเมืองกรุง ด้วยใจหมายมุ่งธรรมะวินัย
ที่วัดรังสีด้วยความตั้งใจ ศึกษายาวไกลนานสิบหกปี
ณ.เวลานั้น.เออ.ณ.เวลานั้นมหานิกาย มีการโอนย้ายที่วัดรังสี
เป็นธรรมยุตเปลี่ยนแปลงทันที ท่านไม่ยินดีกับพระเก้าองค์
(ญ)วัดเสาธงทองเมืองลพบุรี กลับมาอีกทีด้วยเจตน์จำนง
อยู่เก้าพรรษาที่วัดเสาธง ผลบุญหนุนส่งบวชเรียนยาวไกล
สองสี่สี่สองกำนันขุนพล นายอินทร์อีกคนร่วมเดินทางไป
นิมนต์ปู่เขียนด้วยความตั้งใจ กลับมาอยู่ใหม่วัดวังตะกู
(ช)ในปีพ.ศ.สองสี่ห้าเก้า วังตะกูเก่าร่มเย็นน่าดู
ญาติโยมศรัทธาเกจิชั้นครู ท่านนั้นหยั่งรู้ถึงเหตุเภทภัย
ท่านมีเมตตา.เออ.ท่านมีเมตตาโอบอ้อมอารีย์ ปู่เขียนใจดีไม่มีขัดใจ
มีผู้ใหญ่บ้านอยู่ห้วยเรียงใต้ นำม้าถวายเพศเมียให้มา
(ญ)และมีนายทองบ้านวังอีแร้ง นำม้าสูงแกร่งตัวผู้สง่า
ถวายหลวงปู่เขียนไม่ขัดศรัทธา ญาติโยมนำมาท่านก็จำใจ
เพียงยี่สิบปีจำนวนของม้า ขยายพันธุ์มาเติบโตมากมาย
มีผู้นำฝูงชื่อเจ้าเขียวใหญ่ เช้าพากันไปเย็นก็กลับมา
(ช)ฝูงม้ามากมาย.เออ.ฝูงม้ามากมายกวนใจชาวบ้าน โดนยิงโดนฟันย่ำข้าวชาวนา
แต่ไม่สามารถบังอาจเข่นฆ่า มีดหอกปืนผาไม่อาจระคาย
มีลิงมีค่างมีกวางชะนี วัวแดงและหมีตะเข้ตัวใหญ่
ตั้งชื่อว่าสีนั้นอยู่ไม่ไกล สร้างเป็นอ่างใหญ่ถ้ำชาละวัน
(ญ)อยู่วัดเมืองเก่าจังหวัดพิจิตร ครั้งในอดีตถึงปัจจุบัน
สัตว์มีมากมายคล้ายวัดบางคลาน นี่คือตำนานวัดวังตะกู
ท่านสร้างโรงเรียนอ่านเขียนวิชา ให้การศึกษาลูกศิษย์กับครู
สร้างโบสถ์กุฏิเป็นที่เชิดชู ชาววังตะกูศรัทธาพร้อมใจ
(ช)คือเทพเจ้าวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ชื่อดังก้องไกล
ผ่านไปผ่านมาแวะชมกราบไหว้ เดินทางสบายไม่กี่กิโล
พระครูโสภณ.เออ.พระครูโสภณรัตนโชติ ท่านทำประโยชน์สร้างบุญใหญ่โต
สร้างหลวงปู่เขียนธัมมรักขิโต ให้เป็นร่มโพธิ์ที่พึ่งทางใจ
(ญ)เชิญชวนทุกท่านนมัสการ หนึ่งในตำนานปู่เขียนองค์ใหญ่
หน้าตักเก้าเมตรร่วมบุญกันได้ (ร้องรวม)กุศลยิ่งใหญ่ร่วมใจร่วมบุญ


#หลวงพ่อเขียน #พิจิตร #วาจาสิทธิ์