ตายายใจบุญสุดเศร้า ถูกฟ้อง 5 ล้าน เหตุทวงเงิน 1 ล้านบริจาคสร้างโบสถ์ แต่ได้โบสถ์ทิพย์

Описание к видео ตายายใจบุญสุดเศร้า ถูกฟ้อง 5 ล้าน เหตุทวงเงิน 1 ล้านบริจาคสร้างโบสถ์ แต่ได้โบสถ์ทิพย์

ตายายใจบุญน้ำตาคลอ บริจาคเงิน 1 ล้าน สร้างอุโบสถ ผ่านไปเป็นปียังไม่เห็นวี่แวว จึงทวงเงินคืนจนเป็นข่าว กลับถูกไวยาวัจกรวัดฟ้อง ละเมิด - หมิ่นประมาทเรียก 5 ล้าน

ช็อตเด็ด นาทีเดือด!

00:00 ตายายช้ำ ทวงเงินบริจาค ถูกฟ้อง 5 ล้าน!
02:38 เรื่องราวเป็นอย่างไร?
06:20 2 ปีไม่สร้าง พอทวงเงินกลับถูกฟ้อง!
08:24 ตายายเปิดใจ อายุ 80 แล้ว ต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาล
09:29 อยากได้เงินคืนก็ไปฟ้องเอา!
10:24 เปิดคลิปมัดตัว ไวยาวัจกร ประกาศคืนเงิน!
16:40 จะสร้างเมื่อไหร่? พูดมาได้ "รอฟ้าประทาน"
21:50 ผู้ใหญ่บ้านท้า ออกข่าวไปเลย
24:40 เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ก็ฟ้องเจ้าอาวาสไปเลยสิคะ!
25:35 ต่อสาย พยานที่อยู่ในเหตุการณ์
34:03 ฟังชัดจากปากไวยาวัจกรคนปัจจุบัน
38:51 โฟนอินผู้ใหญ่บ้าน ฟ้องตา ยาย ทำไม?
40:03 ทนายตอบเรื่องนี้จะจบอย่างไร?
44:53 คู่กรณีตอบชัด ก็มาดิค้าบบบ!

วันที่ 18 พ.ย.64 นางอำไพ จิตรรักมั่น และ นายนพ จิตรรักมั่น ตายายชาวสวนใจบุญ พร้อมด้วย ภคมน จิตรรักมั่น ลูกสาว ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ปกติเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว และเมื่อปี 2562 มีไวยาวัจกร วัดแห่งหนึ่งมาหาที่บ้าน ชวนให้ทำบุญสร้างอุโบสถ ด้วยความที่รู้จักกันมานาน เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก เลยไปธนาคารโอนเงินเข้าบัญชีวัดไป ซึ่งบัญชีนี้มีชื่อ 5 คน เป็นพระ 2 คน และบุคคลทั่วไป 3 คน ซึ่งการจะเบิกต้องใช้ชื่อ 3 คนในการเบิกเงิน เราโอนเงินไปตั้งแต่ปี 62 ก็ยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะสร้างอะไรเลย จนกระทั่งปี 64 เลยไปทวงถาม เขาบอกยังสร้างไม่ได้ เพราะติดปัญหาโควิด-19 ถัดไปอีกวันจึงชวนลูกสาวไปทวงถามอีก เพื่อบอกเขาว่าถ้าสร้างไม่ได้ก็จะขอเงินคืน และจะนำเงินไปทำบุญอย่างอื่น โดยเราไปขอเงินคืนจากเขาหลายครั้ง เขาไม่คืนเงินให้ จนวันหนึ่งเขาได้มีการประกาศว่าจะยุติการก่อสร้างและคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้ ซึ่งเราก็มีคลิปที่เขาประกาศคืนเงิน ยอดเงินบริจาคทั้งหมดราว 6.5 ล้านบาท ซึ่งมีเงินของเราอยู่ 1 ล้านบาท พอเขาประกาศเราก็สบายใจเลยไปทวงถามเงิน แต่เขาไม่คืนเงินให้ บอกเราว่าถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา จริงๆก่อนหน้านั้นที่ไปทวงถามเขาว่าในเมื่อไม่ได้สร้างอุโบสถแล้วจะขอเงินคืนได้ไหม เขาอ้างว่าเจ้าอาวาสยังไม่ให้คืน เราเลยไปวัดราษฎร์ประคองธรรม ถามเจ้าคณะตำบล ถามเขาว่าขอเงินคืนไม่ได้เหรอ ท่านก็บอกว่าคืนได้สิโยม ถ้าเงินมันไม่ได้ถูกนำไปทำอะไร เราเลยไปทวงถามเงินที่บ้านเขา เขาถามเรากลับมาว่าจะเอาเงินไปทำอะไร เราบอกจะเอาไปทำบุญที่อื่น เขาก็บอกว่า ไม่ได้ เงินวัดก็ต้องทำบุญที่วัดนี้ เราก็บอกว่าไม่ได้สิ เงินเรา เราจะเอาไปทำบุญที่ไหนก็ได้ นำไปสู่ประโยคที่เขาบอกว่า ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอา เราเห็นว่าเขาบ่ายเบี่ยงตลอด ก่อนไปแจ้งความก็มีนักข่าวมาช่วยไกล่เกลี่ย พาไปที่บ้านเขา บอกว่าอย่าให้มันเป็นข่าวเลย คืนเงินเขาไปเถอะ เขาก็ยังยืนยันว่าจะเอาไปสร้างอุโบสถแน่นอน พอถามว่าจะสร้างเมื่อไหร่ เขากลับบอกว่า "ก็รอฟ้าประทาน" เราเลยไปแจ้งความ โดยตำรวจแนะนำให้แจ้งข้อหาฉ้อโกงเงิน

สุดท้ายนักข่าวช่วยไกล่เกลี่ยให้ เขาบอกว่าคืนให้ก็ได้ แต่ต้องให้สื่อออกข่าวก่อน 7 วัน แล้วจะคืนให้ เราก็ตกใจเหมือนกันว่าจะให้ออกข่าวทำไม ไม่อายเขาเหรอ เขาบอกว่าเขาอยากดัง ถ้าออกข่าวเมื่อไหร่ก็จะนัดกันไปคืนเงินที่ สภ.บางใหญ่ แล้วให้นักข่าวไปทำข่าวคืนเงินด้วย ซึ่งวันนั้นเขาก็คืนเงินให้ เหมือนจบกันด้วยดี เราถามว่าเลิกแล้วต่อกันนะ เขาก็ไม่ตอบ เดินออกไปเลย นักข่าวถามว่าจบไหม เขาบอกว่าทางนี้จบ แต่เจ้าอาวาสไม่แน่ แล้วเราก็มารู้ทีหลังว่ามีการฟ้องเจ้าอาวาสด้วย และอยู่ๆ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 เรากลับได้รับหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ถูกยื่นฟ้อง ศาลในฐานความผิด "ละเมิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ให้ชดใช้ค่าเสื่อมเสียชื่อเสียง" เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ทำให้ตอนนี้ก็มีอาการเครียดบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาขึ้นศาลตอนแก่

ด้าน นายบุญปลอด ยมยะมาลี อดีตผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น เล่าว่า วันที่ 14 มี.ค.ได้มีการประชุมกันว่าจะทำยังไง และมีการประกาศขอโทษที่ไม่สามารถสร้างอุโบสถได้ และจะขอคืนเงินทุกบาททุกสตางค์กับเจ้าของเงินทุกคน แต่ระยะเวลาดำเนินมานานมาก ตายายก็ยังไม่ได้เงินคืน เลยไปปรึกษาเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสก็ได้ปรึกษาเจ้าคณะตำบล และมีการโทรแจ้งผู้ใหญ่ให้ ตายายก็ได้มีการไปทวงถามเรื่อยๆ แต่เขามีการท้าทายให้ไปแจ้งความถ้าอยากได้เงินคืน สำหรับเหตุการณ์นี้บอกตรงๆว่าเสียใจมาก มันไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่น่าเกิดการฟ้องร้องกับบุคลลทั้ง 2 คนนี้ เพราะเขาก็เป็นคนทำบุญมาตลอด

ฟาก นายธรรมนูญ ฮังเจริญ ไวยาวัจกรวัดคนปัจจุบัน เผยว่า ตนเป็นไวยาวัจกรตัวจริง และเป็นมาตั้งแต่แรก วัดนี้มีไวยาวัจกรทั้งหมด 3 คน ซึ่งคนที่เป็นข่าวได้มีการมาบอกว่าจะขอลาออกจากวัดตั้งแต่ปี 54 ไม่ได้มีการเขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร พระอาจารย์ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น ก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้ไปคัดชื่อออก ถ้ามีโครงการอะไรของวัด เขาจะเข้ามายุ่งด้วย แต่ถ้าไม่มีโครงการอะไรเขาก็จะไม่เข้ามา ชาวบ้านแถวนั้นบางคนก็ทราบ บางคนก็ไม่ทราบว่าเขาลาออกจากตำแหน่งไวยาวัจกรแล้ว เพราะเขาไม่ได้ป่าวประกาศบอกใคร เขาเข้ามาในวัดตอนที่มีโครงการ ซึ่งเจ้าอาวาส รวมถึงเราก็ไม่สามารถห้ามเขาเข้ามาได้ เพราะเขายังมีชื่อดำรงตำแหน่งไวยาวัจกรอยู่


#ตายาย #ตา #ยาย #ชาวสวน #ใจบุญ #บริจาคเงิน #1ล้านบาท #5ล้านบาท #ฟ้องร้อง #ไวยาวัจกร #บูรณะ #อุโบสถ #โบสถ์ #คืนเงิน #ละเมิด #ทวงเงิน #ไม่ได้สร้างจริง #สร้างไม่สำเร็จ #โบสถ์ทิพย์ #นนทบุรี #ทินโชคกมลกิจ #ทินถกไม่เถียง #ถกไม่เถียงกับทิน #Ch7HD #TERODigital

Комментарии

Информация по комментариям в разработке