Скачать или смотреть คนเกิดวันพุธ - วันกาลกิณี(ห้ามทำการมงคล) ดูฤกษ์ด้วยตัวเองตอนที่ 10

วันกาลกิณี ในทักษา
ทักษา เป็นอีกหนึ่งวิชาที่ใช้ดูฤกษ์ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลักวิชาอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น
ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่
ฤกษ์แต่งงาน
ฤกษ์ออกรถใหม่
ฤกษ์เปิดกิจการร้านค้า
ฤกษ์บวงสรวงทำพิธีกรรมต่างๆ
ฤกษ์ออกศึก
ฤกษ์ออกเดินทาง
ฤกษ์การวางศิลาฤกษ์
ฤกษ์ลาสิกขา
ฤกษ์สู่ขอ
ฤกษ์หมั้นหมาย
ฤกษ์ทำ-ถอดถอนคุณไสย์
ฤกษ์เสี่ยงโชค
ฤกษ์ปราบปรามศัตรู
ฤกษ์ไหว้ครู
ฤกษ์เริ่มศึกษาวิชาความรู้
ฯลฯ
บูรพาจารย์ทางโหราศาสตร์ท่านได้ร้อยเรียงองค์ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการหาฤกษ์
ทั้งเพื่อการศึกษาของโหรอย่างละเอียด และเพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปที่พอจะรู้เรื่องวัน เวลา ได้ใช้อย่างสะดวก แท้จริงคำว่า ฤกษ์ ที่เราเรียกติดปากว่าเป็นเวลาที่เป็นมงคล
มาจากดาวฤกษ์ ที่อยู่นอกระบบสุริยะจักรวาลของเรา
ถูกแบ่งออกเป็น 27 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1. อัศวินี
2. ภรณี
3. กฤติกา
4. โรหิณี
5. มฤคศิร
6. อารทรา
7. ปุนัพสุ
8. บุษยะ
9. อาศเลษา
1๐. มฆ
11. บุรพผลคุนี
12. อุตรผลคุนี
13. หัสตดวง
14. จิตระ
15. สวาดิ
16. วิศาขา
17. อนุราธ๑๔ ดวง
18. เชฏฐะ
19. มูล
20. ปุรพษาฒ
21. อุตราษาฒ
22. ศรวณะ
23. ธนิษฐะ
24. ศตภิษัช
25. บุรพภัทรบท
26. อุตรภัทรบท
27. เรวดี
ฤกษ์ทั้ง 27 เรียงรายริ่มตั้งแต่ราศีเมษ ไปจนกระทั่งถึงราศีมีน
และได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มๆละ 9 ฤกษ์
ใน 9 ฤกษ์ ของแต่ละกลุ่ม มีชื่อเรียกเหมือนกัน ดังนี้
ทลิทโท แปลว่า ผู้ขอ
มหัธโน แปลว่า เศรษฐี
โจโร แปลว่า โจร
ภูมิปาโล แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน
เทศาตรี แปลว่า ต่างถิ่น
เทวี แปลว่า นางพญา
เพชฌฆาต แปลว่า ผู้ฆ่า
ราชา แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
สมโณ แปลว่า นักบวช
ฤกษ์ทั้ง 9 นี้ เรียกว่า ฤกษ์บน เพราะอาศัยกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า เป็นหลักพิจารณา
ส่วนหลักในการพิจารณาอื่นที่ไม่ใช้ดาวฤกษ์ หรือดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่บนท้องฟ้า(ส่วนใหญ่ใช้ดาวจันทร์) ก็ถือว่าเป็นฤกษ์ล่าง
การหาฤกษ์นิยมใช้ ทั้ง 2 ส่วนเข้าประกอบกัน รวมทั้งพิจารณาดวงชะตาของเจ้าของกิจกรรมที่จะกระทำให้โอกาสนั้นเข้าร่วมด้วย
การดูฤกษ์หรือหาฤกษ์ อาจารย์มักจะได้ยินนักวิชาการทางศาสนาโจมตี เอาพุทธพจน์ มากล่าวอ้างว่า นี้คืออวิชชา การทำความดี จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องรอเวลา
อาจารย์มีความเห็นว่า ท่านที่มัีกยกพุทธพจน์นี้ขึ้นมาอ้าง อาจจะตีความพุทธพจน์ในข้อนี้ผิดไปจากสาระความจริง
ด้วยประเด็นหลักใหญ่ใจความนั้น พระพุทธองค์ ได้ตรัสถึงการสร้างความดี ไม่ควรเลือกหรือรอเวลา
แต่ท่านที่ยกพุทธพจน์นี้ขึ้นมาเอ่ย มักตีรวมเอาว่า กิจกรรมทุกชนิดไม่ต้องดูฤกษ์ยาม
ในความเป็นจริง อาจารย์ขอยกตัวอย่างในชีวิตประจำวันง่ายๆ
....ผลไม้ที่ยังไม่สุก จะเด็ดมารับประทานได้อย่างไร จำเป็นต้อง "รอ" เวลา ด้วยสังเกตจากฤดูกาล หรือจากการสังเกตทางกายภาพของผลไม้นั้นๆว่า ถึงเวลาแล้วหรือยัง....
...แม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ เช่น การทอดไข่ดาว เมื่อตั้งกระทะ ตั้งไฟ เทน้ำมันลงกะทะ ท่านควรจะ "รอ" ด้วยการสังเกตเห็นน้ำมันเริ่มร้อน แล้วจึงตอกไข่ใส่กะทะหรือไม่.....
ไม่ต่างจากการหาเวลาที่เหมาะสมแล้ว "รอ" ช่วงจังหวะที่ธรรมชาติ เอื้ออำนวย ให้ประกอบกิจกรรม กิจการต่างๆ ให้สัมฤทธิ์ผล
ด้วยการใช้ดวงดาว ที่ในทางโหราศาสตร์ทุกแขนงระบุไว้ชัดเจนว่ามีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งพระเคราะห์แต่ละดวง ก็มีหน้าที่ควบคุมความเป็นไปในด้านต่างๆ
ตัวอย่างที่ยกมา เป็นกิจกรรมกลางๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับความดีความชั่ว แต่เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อหวังผลให้ออกมาตามเป้าประสงค์
แต่ถ้าหากจะทำความดี ก็เป็นจริงดั่งคำพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า ไม่ควรรอฤกษ์ อย่างแท้จริง
ในตอนนี้จะได้กล่าวถึง
วันที่ห้ามใช้ในการมงคล คือ
วันกาลกิณี
ตามหลักทักษาคู่ธาตุ
ถือเป็นสูตรการพยากรณ์ที่ใช้ควบคู่ไปกับการอ่านดวงชะตา
ในขณะที่ตัวทักษาเอง
ก็สามารถใช้พยากรณ์ทั้งดวงกำเนิดและดวงจรได้เป็นอย่างดี
โดยมีวิธีการนับเริ่มภูมิแรกที่ดาววันเกิดของเจ้าชะตา
โดยดูจากเลขไทยที่ร้อยเรียงอยู่ภายในภูมิต่างๆทั้ง 8 ภูมิ(9ภูมิเมื่อรวมตากลางคือพระเกตุ)
ดังนี้
๑ แทนอาทิตย์
๒ แทนจันทร์
๓ แทนอังคาร
๔ แทนพุธ
๕ แทนพฤหัสบดี
๖ แทนศุกร์
๗ แทนเสาร์
๘ แทนราหู
หากนับเรียงตามตำแหน่งทักษา เวียนไปทางขวา หรือตามเข็มนาฬิกา
จะมีตำแหน่งพระเคราะห์ที่ถูกวางลงในตาราง(ภูมิ)ทักษา ดังนี้
๑ ๒ ๓ ๔ ๗ ๕ ๘ ๖ ตามภาพประกอบในคลิปวิดีโอ
การที่ทักษา เรียงตัวกันแบบนี้ มีที่มาจาก
การกำเนิดจักรวาลตามหลักคติของโหราศาสตร์
กล่าวคือ ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นจากน้ำทางทิศใต้
นับเวียนขวาหรือตามเข็มนาฬิกา ไป 6 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวอาทิตย์
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 15 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวจันทร์
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 8 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวอังคาร
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 17 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวพุธ
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 10 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวเสาร์
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 19 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวพฤหัสบดี
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 12 ภูมิ บังเกิดเป็นพระราหู
นับเริ่มจากจุดเดิม เวียนขวาไปอีก 21 ภูมิ บังเกิดเป็นดาวศุกร์
การนับภูมิทักษานี้
เริ่มนับจากวันเกิดของเจ้าชะตา
น
เรียกว่าภูมิบริวาร
นับภูมิถัดไปโดยเวียนไปทางขวา หรือตามเข็มนาฬิกา เป็น
อายุ
เดช
ศรี
มูละ
อุตสาหะ
มนตรี
กาลกิณี ตามที่แสดงไว้ในคลิป
เมื่อตกภูมิกาลกิณี เป็นพระเคราะห์องค์ใด
ก็ให้ถือพระเคราะห์องค์นั้นเป็นดาว(วัน)กาลกิณี
หมายถึง วันนั้นเป็นวันที่ห้ามทำการมงคลทั้งปวง
ยกตัวอย่างเช่น คนที่เกิดในวันอาทิตย์
นับเริ่ม บริวาร ที่เลข๑ เวียนขวาไปเรื่อยๆตามหลักการที่ให้ไว้
จะไปจบลงที่ พระศุกร์(๖) กาลกิณี
เท่ากับว่า คนที่เกิดในวันอาทิตย์ ห้ามประกอบพิธีการมงคลทุกชนิดในวันศุกร์(กาลกิณี) นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาสาระดีๆ มีประโยชน์ เคล็ดความรู้ในทางวิฃาโหราศาสตร์ไทย เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ได้ที่
อ.ณกรณ์ สอนโหราศาสตร์ Nagon168 https://www.youtube.com/channel/UC51N...
Tiktok https://vt.tiktok.com/ZSvSQpT9/
facebook   / nagon168