[ลุงอ้วนกินกะเที่ยว x กุ๊กขี้เมา] กินแกล้ม"เล่า" ลุยร้านเอี่ยวไถ่ สาขาใหม่สุดอลัง!

Описание к видео [ลุงอ้วนกินกะเที่ยว x กุ๊กขี้เมา] กินแกล้ม"เล่า" ลุยร้านเอี่ยวไถ่ สาขาใหม่สุดอลัง!

ถ้าพูดถึงสุกี้โบราณและอาหารจีน ร้านเด็ดในดวงใจที่ลุงกินมาตั้งแต่วัยรุ่นต้องร้านนี้เลย ‘เอี่ยวไถ่ 1960’
วันก่อนลุงขับรถผ่านไปตรงเส้นเกษตร-นวมินทร์ แล้วเห็นร้านเค้ามาเปิดสาขาใหม่ตรงนี้ วันนี้เลยต้องแวะมาจัดสักหน่อย งานนี้ลุงเลยถือโอกาสชวนเจ้าเพื่อนรุ่นหลานอย่าง‘กุ๊กขี้เมา’มานั่งกินอาหารจีนแกล้ม‘เล่า’ รำลึกความหลังสมัยวัยรุ่นและเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมนูอาหารจีนโบราณ ให้ได้ฟังกันแบบเจาะลึกซะเลย

อย่างร้านเอี่ยวไถ่นี่ ลุงก็มีความหลังกันมาตั้งแต่สมัยเค้าเปิดสาขาแรกที่ปื่นเกล้า ครั้งแรกที่ไปกินน่าจะ 50 ปีที่แล้วเห็นจะได้ แล้วเมนูฮิตสมัยนั้นที่วัยรุ่นต้องไปกิน ก็คือ“เจงกิสข่าน”หรือที่สมัยนี้เค้าเรียกกันว่า ปิ้งย่าง นั่นแหละ ซึ่งสมัยก่อนถ้าจะกินเมนูนี้ ก็ต้องไปที่ร้านนี้เลย

ลุงว่าหลายๆคนรวมถึง‘กุ๊กขี้เมา’คงสงสัยว่าทำไมเมนูนี้ถึงเรียกว่า“เจงกิสข่าน” ที่เค้าเรียกว่า“เจงกิสข่าน”เนี่ย มันมาจากเตาปิ้งเนื้อที่มันมีลักษณะคล้ายๆกับหมวกเกราะของเจงกิสข่านนั่นเอง ส่วนเมนูนี้จะเป็น หมูหรือเนื้อ ที่หมักมาอย่างดี เนื้อนุ่มมากๆ เอามาปิ้งบนกระทะ ซึ่งสมัยที่ลุงกินแรกๆเค้าจะเป็นกระทะอลูมิเนียมปิ้งบนเตาถ่าน กินกันทีปิ้งกันควันโขมงโฉงเฉงไปหมด

อย่าง“เป็ดปักกิ่ง”นี่ตอนที่ลุงกินครั้งแรกสมัยที่ยังไม่แต่งงานเลย ไปถึงร้านก็สั่ง“เป็ดปักกิ่ง”มาตัวนึงแล้วก็สั่งอาหารอย่างอื่นมาเพิ่ม พอเค้ามาเสิร์ฟลุงถึงกับหงายท้องเลย! คือนอกจากหนังเป็ดที่เรามาเอาห่อกินกับเครื่องเคียงแล้ว เค้าจะเอาเนื้อเป็ดมาทำเป็นเมนูให้อีก3เมนู สรุปวันนั้นล่อไป8เมนู แล้วไปกินกัน2คน แทบคลานออกจากร้านเลย

ส่วนเมนู“สุกี้โบราณ”นี่ก็จะแตกต่างจากสุกี้ยุคนี้ คือเอาหมูหรือเนื้อที่เค้าหมักซอสเต้าเจี้ยวไว้ ใส่ไข่ไก่ลงไปคนให้เข้ากัน แล้วเทพรวดลงไปทั้งจานเลย แทนที่จะเอาลงไปจุ่มแบบสมัยนี้ แล้วตัวน้ำจิ้มสูตรโบราณเค้าก็จะผสมเต้าหู้ยี้และเต้าเจี้ยวด้วย รสชาติจะเปรี้ยว ๆ หวาน ๆและออกเผ็ดนิดหน่อย ทำให้ลุงนึกถึงรสชาติดั้งเดิมที่เคยกินตอนสมัยก่อนเลย

มาถึงเมนูอาหารแต้จิ๋วโบราณที่หากินยากกันบ้าง อย่าง“ฮื่อแซ”หรือซาชิมิปลาจีน คนทำนี่ต้องมีฝีมือจริงๆ เพราะนอกจากต้องเลือกปลาเป็นแล้ว ต้องใช้ฝีมือในการแล่ด้วย เสร็จแล้วเอาไปแช่เย็นจนเซตตัว กินกับเครื่องเคียง ราดด้วยน้ำจิ้มถั่วตัด รสชาติออกเปรี้ยว หวาน บวกกับความเย็นของเนื้อปลาที่แล่บาง กินแล้วครบรสมาก

สำหรับร้านนี้ที่ลุงค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลย คือพวกเมนูอาลาคาร์ท เพราะรสชาติเค้าจัดจ้านเกือบทุกจานคือปกติถ้าไปภัตตาคารจีนทั่วไปลุงจะเห็นแต่เมนูจีนจ๋าๆเลย ไม่ค่อยมีเมนูไทยหรือซีฟู้ดรวมอยู่เหมือนที่นี่ อย่างพวก เป็ดผัดเปรี้ยวหวาน ผัดหมี่กระเฉดไฟแดง ปูก้อนผัดผงกะหรี่ ก๋วยเตี๋ยวหลอดปูโบราณ ฯลฯ พวกนี้ลุงแนะนำเลยต้องมาโดน


สำหรับใครที่อยากมาตามรอยลุงนะ ‘เอี่ยวไถ่ 1960’สาขาเกษตร เค้าอยู่ตรงถนนประเสริฐมนูกิจ ปากซอย 20 สังเกตุง่ายๆที่ตอม่อ164 เลย สาขานี้เค้าเปิดเป็น Standalone ครั้งแรกในรอบ 60 ปี ร้านใหญ่โตมากขนาดรองรับได้มากกว่า 400 ที่นั่ง มีห้องวีไอพีถึง 3 ห้อง ห้องใหญ่จุได้ถึงสูงสุดถึง 100 ที่นั่ง เรียกว่ามาจัดงานเลี้ยงหรืองานสัมมนาได้แบบสบายๆเลย แถมที่จอดรถก็กว้างขวางจอดได้มากกว่า100คัน สาขานี้เค้ามีโซนใหม่ด้วยนะ เป็นโซนคาเฟ่ ให้บริการทั้งกาแฟและเมนูของหวาน หรือใครอยากจะมานั่งชิลๆตากลมเย็นๆเค้าก็มีโซนOutdoorที่เป็นกรีนโซนและลานน้ำพุเปลี่ยนสียามค่ำ ที่สำคัญโซนนี้เค้าอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ด้วยนะ

—-—

เอี่ยวไถ่ 1960 สาขาเกษตร
เปิด 11:00–22:00
โทร. 02 023 7380
https://goo.gl/maps/2jdNM6uQPMKf788Z9

Комментарии

Информация по комментариям в разработке