Скачать или смотреть ขั้นตอนการเคลือบแก้ว

คุณสมบัติของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H
1.ลักษณะของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H ใสไม่มีสี
2.ความข้นของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H 1.2 mm²/s
3.ความถ่วงจำเพาะของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H ที่ 25 องศา 0.97
4.ความเข้มข้นของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H 100%
5.ความแข็งของน้ำยาเคลือบแก้ว 9H ทดสอบด้วยดินสอ 9H
6.น้ำยาเคลือบแก้ว 9H สามารถทนความร้อนได้ 250 องศา
คุณสมบัติการใช้งาน
1.น้ำยา 1 ขวด 50 ml สามารถเคลือบรถได้ตั้งแต่ 3-6 รอบ
แล้วแต่ขนาดของรถยนต์
2.ให้ความเงาสวยงาม
3.ทนต่อ สารเคมี กรด ด่าง มูลนก และยางไม้ และสิ่งสกปรกทั่วไป
และสามารถทำความสะอาดง่าย
4.ช่วยไล่น้ำได้ น้ำไม่เกาะพื้นผิว
5.ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ทำให้ฝุ่นละอองไม่จับบนสีรถสามารถล้างออกได้ง่าย
6.ป้องกันลอยขนแมว
7.สามารถล้างทำความสะอาดได้ปรกติ ใช้แชมพู หรือ น้ำเปล่า
ก็สามารถทำ ความสะอาดได้โดยง่าย
8.เมื่อเคลือบตั้งแต่ 3 รอบ ขึ้นไป ฟิล์มสีสามารถ อยู่ทนทานได้ 3-5 ปี

วิธีการใช้งาน
1. ควรน้ำยาเคลือบแก้วเข้าตู้เย็นก่อนเคลือบรถยนต์ 30 นาที - 1 ชั่วโมง จะทำให้การเคลือบง่ายขึ้น และทำให้น้ำยาแห้งช้าลง
2. ต้องเคลือบน้ำยาเคลือบแก้วในร่ม ในที่ๆอากาศถ่ายเทสะดวก มีฝุ่นน้อย ถ้าไม่มีฝุ่นจะดีมาก ไม่ควรเคลือบแก้วกลางแจ้ง หรือมีแดด ไม่เคลือบน้ำยาตอนที่มีอุณหภูมิสูง
3. ล้างรถ และ ขจัดคราบสกปรกออกจากตัวรถให้สะอาด
4. ขัดลบรอยขนแมวออก (ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดง ล้างขจัดคราบสกปรกออกก็พอ)
5. แบ่งการเคลือบเป็นส่วน 3.1 ฝากระโปรงรถ 3.2 ประตู 3.3 หลังคา 3.4 ประตูท้ายรถ 3.5 กันชน และสเกิร์ตรถยนต์ 3.6 โครมไฟ 3.7 ล้อแม็กซ์ (ควรทำให้เสร็จเป็นส่วนๆ เช่นถ้าเคลือบฝากระโปง ก็ต้องลงน้ำยาเคลือบเสร็จแล้วทิ้งไว้ 2 นาที แล้วทำการเช็ดน้ำยาออก และเช็ดเก็บละเอียดอีกรอบก่อนไปทำชินต่อไป)
6. นำผ้าเคลือบฟองน้ำหุ้มกับฟองน้ำ
7. หยดน้ำยาลงบนผ้าเคลือบฟองน้ำที่หุ้มอยู่บนฟองน้ำ แล้วทาน้ำยาลงบนตัวรถที่ได้ทำการแบ่งไว้โดยการทาตามแนวนอนและสลับตามแนวขวางให้ทั่ว
8. เมื่อลงน้ำยาเคลือบแก้วทั่วแล้วทิ้งไว้ ประมาณ 2 นาทีแล้วเช็ดออกด้วยผ้าขนาด 100g และ เช็ดเก็บละเอียดด้วยผ้า 300 g อีก 1รอบ ( การลงน้ำยารอบที่ 2 ควรทิ้งห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง )
9. เมื่อทำการเคลือบเสร็จเรียบร้อยทั้งคันแล้ว ควรทิ้งรถไว้ในร่ม 24 ชั่วโมง และล้างรถเมื่อ ครบกำหนด 3 วันไปแล้ว
ข้อควรระวังในการเคลือบที่ทำให้งานเคลือบแก้วเสียหาย
1. ควรเปลี่ยนผ้าหุ้มฟองน้ำทุกรอบ
2. เคลือบสารเคลือบแก้วแล้ว ไม่ควรทิ้งไว้เกิน 2 นาที/ชิ้นงาน ที่ทำการแบ่งเคลือบ นานเกิน 2 นาที แล้วไม่ทำการเช็ดน้ำยาเคลือบแก้วออกจะทำให้ผิวที่เคลือบไม่เลียบ ทำให้ชิ้นงานที่เคลือบเสียหายได้
3. แบ่งการเคลือบเป็นส่วน 3.1 ฝากระโปรงรถ 3.2 ประตู 3.3 หลังคา 3.4 ประตูท้ายรถ 3.5 กันชน และสเกิร์ตรถยนต์ 3.6 โครมไฟ 3.7 ล้อแม็กซ์ (ควรทำให้เสร็จเป็นส่วนๆ เช่นถ้าเคลือบฝากระโปง ก็ต้องลงน้ำยาเคลือบเสร็จแล้วทิ้งไว้ 2 นาที แล้วทำการเช็ดน้ำยาออก และเช็ดเก็บละเอียดอีกรอบก่อนไปทำชินต่อไป)