Master Schedule(Bar Chart and S-Curve)

โครงการก่อสร้างทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างบ้านพักอาศัย อาคารขนาดใหญ่ ประตูระบายน้ำ ท่าเรือ ถนนหรือสะพาน จะมีกิจกรรมหลายอย่างที่ต้องทำเช่นงานตอกเสาเข๊ม งานฐานราก งานโครงสร้าง งานตกแต่ง งานระบบ กิจกรรมต่างๆเหล่านี้ต้องมีการจัดหาวัสดุ คนงาน เครื่องจักร และเงินลงทุน สำหรับใช้ในงานก่อสร้าง
เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาและวิศวกร ต้องหาเครื่องมือที่จะนำมาใช้ในการควบคุมและติดตามงานเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือเป็นไปตามแบบ งานมีคุณภาพที่ดี เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านความสะดวก รวดเร็ว ความต่อเนื่องของงาน และความประหยัด เพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด

เครื่องมือที่นำมาใช้ควบคุมและติดตามงาน นี้เราเรียกว่า “แผนปฏิบัติงานก่อสร้าง”

การวางแผนงานก่อสร้าง (Construction Planning) คือ การกำหนดลำดับขั้นตอนการทำงานให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศของสถานที่ก่อสร้าง เหมาะสมกับสภาพทางธรณีวิทยา และฤดูกาล โดยให้สัมพันธ์กับเครื่องจักรกลบุคลากร การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนงบประมาณของโครงการ

การวางแผนงาน จะต้องวางแผนให้ครบตามรายการ ดังต่อไปนี้
1. แผนปฏิบัติงานก่อสร้าง(Master Schedule)
2. แผนงบประมาณก่อสร้าง(Cash Flow)
3. แผนอัตรากำลังคน(Man Power Schedule)
4. แผนการจัดหาวัสดุ(Purchasing/Mat Schedule)
5. แผนการจัดการเครื่องจักร(Equipment Schedule)

EP1 การจัดทำแผนปฏิบัติงานก่อสร้างโดยวิธี Bar Chart & S-Curve ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel
การวางแผนงานก่อสร้างโดยทั่วไปมักมีการใช้ Bar Chart ร่วมกับ S-curve เพื่อให้เข้าใจง่ายและมองเห็นภาพงานในโครงการทั้งในส่วนกิจกรรมย่อย และภาพรวใของโครงการได้ดีขึ้น
องค์ประกอบหรือรายการที่ต้องแสดงในแผนปฏิบัติงาน(Project/Master Schedule) มี 5 ข้อ
1. กิจกรรมที่ต้องดำเนินการ
2. Work Load ได้แก่ปริมาณงานและงบประมาณ
3. วันเริ่ม วันสิ้นสุดของแต่ละกิจกรรม
4. ความสัมพันธ์ และการเชื่อมโยงของแต่ละกิจกรรม
5. ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรม