Скачать или смотреть ให้พระกายของเราที่ตาบอดสำนึกถึงความเปลือยเปล่าของตนและความมืดนอกสุด ❤️ จดหมายรักจากพระเยซู

ไม่มีลิขสิทธิ์... วิดีโอ เสียง และข้อความทั้งหมดจากช่องนี้และเว็บไซต์ https://jesus-comes.com และ https://awakeningforreality.com สามารถใช้ได้อย่างอิสระเพื่อเผยแพร่พระวจนะของพระองค์ไปทุกที่...
   • ไม่มีลิขสิทธิ์ ❤️ NO Copyright  

ข้อความไปยังวิดีโอ ... https://jesus-comes.com/index.php/201...
เว็บไซต์ ... https://jesus-comes.com/index.php/201...
Website with various languages ... https://jesus-comes.com

ระเยซูตรัส…
ให้พระกายของเราที่ตาบอดสำนึกถึงความเปลือยเปล่าของตนและความมืดนอกสุด

15 พฤศจิกายน 2558
พระวจนะจากพระเยซู ผ่านซิสเตอร์แคลร์

“เราได้พาพวกเจ้าทุกคนมา
รวมกันด้วยจุดประสงค์หนึ่ง ๆ
แต่ละคนมีของประทาน
และคุณลักษณะที่อีกคนหนึ่งขาด
เจ้าไม่สังเกตหรือว่า
ไม่มีสองคนใดเหมือนกันเลย?
เราชื่นชมยินดีเพียงใดใน ‘ความต่าง’
ของพวกเจ้า และเรายิ่งชื่นใจเพียงใด
เมื่อเห็นเจ้าทุกคนใช้ตัวตนของตน
หลอมเป็นหนึ่ง เพื่อจัดหาสิ่งจำเป็น
ให้แก่ผู้อื่น”

“ดังที่ได้เขียนไว้…
ความตั้งใจของเราไม่ใช่เพื่อให้
คนอื่นได้ผ่อนคลาย ในขณะที่
พวกเจ้าถูกกดดันหนัก แต่เพื่อ
ให้เกิด ‘ความเสมอภาค’
เวลานี้ ความอุดมของเจ้า
จะตามสนองสิ่งที่เขาขาด
เพื่อว่าในยามต่อมา ความอุดม
ของเขาจะตามสนองสิ่งที่เจ้าขาด
เป้าหมายคือ ‘ความเสมอภาค’
ดังที่มีเขียนไว้…
‘ผู้ที่เก็บมากก็ไม่ได้มีมากเกินไป
และผู้ที่เก็บน้อยก็ไม่ได้มีน้อยเกินไป’
(2 โครินธ์ 8:13–15)”

“โลกนี้เป็นสถานที่ที่โดดเดี่ยว
อย่างยิ่ง และส่วนหนึ่งของ ‘คำพยาน’
ว่าเจ้าสังกัดเราคือการที่เจ้าออกไป
ทำความดี ทุกที่ที่ทำได้ ด้วยสิ่งนี้เอง
ทุกคนจะรู้ว่าเจ้าเป็นของเรา
เจ้าพูดถูกแล้วเมื่อบอกว่า
เราไม่เคยยอมแพ้ต่อใครสักคน
และเจ้าก็ไม่ควรยอมแพ้เช่นกัน”

“เจ้าสาวของเราเอ๋ย
รอบตัวเจ้ามีผู้คนที่เราวางไว้
ซึ่งมีความจำเป็นที่เจ้ามีกำลัง
จะสนอง แต่สังคมของเจ้าถูก
ผลประโยชน์ส่วนตนบิดเบือน
จนชินชา จนเจ้าแทบไม่สังเกต
หากมิได้ตั้งใจฟังพระวิญญาณ
ของเราอย่างใกล้ชิด ซึ่งถ้าเจ้า
ใส่ใจ เจ้าก็จะถามหาและไต่สวน
ความต้องการของผู้คนรอบข้าง”

“นี่เป็นการฝึกทั้ง ‘ไม่เห็นแก่ตน’
‘เชื่อฟัง’ และ ‘อดทน’
การยอมสละเวลาจากความสนใจ
ส่วนตัว เพื่อรับประกันสิ่งจำเป็น
ของผู้อื่น คือเอกลักษณ์หนึ่ง
ของศิษย์เรา สังคมของเจ้าตื้น
เขินเพียงใดและถูกศัตรูออกแบบ
ให้ ‘แยกส่วน’ โดยตั้งใจ
ใช่ เขาช่ำชองในการชักใยเพื่อแยก
ผู้ที่อ่อนแอและโดดเดี่ยว
เพื่อจะกัดกิน และทำให้พวกเขา
พรากจากเรา โดยไม่เหลือความ
หวังใด ๆ”

“แต่เมื่อเจ้าตอบสนองความ
ต้องการของผู้อื่น ด้วยความรัก
และความกรุณาต่อพี่น้อง
ดังที่เขียนไว้…‘จงรักพี่น้อง
ของเจ้าดุจรักตนเอง’ เจ้าไม่ได้
ทำเพียงแทนเราเท่านั้น
เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาในพระสิริ
และทูตสวรรค์ทั้งสิ้นมากับพระองค์
พระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอัน
รุ่งโรจน์ เบื้องพระพักตร์พระองค์
บรรดาประชาชาติจะถูกรวมไว้
และพระองค์จะทรงแยกผู้คนออก
จากกัน ดังที่ผู้เลี้ยงแกะแยกแกะ
ออกจากแพะ”

“ดังนั้น ณ เวลานี้
เรามอบหมายงานให้เจ้า
คือ ‘การไต่สวนสภาพชีวิต’
ของผู้คนรอบตัว
ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง ชนผู้หญิง ผู้ชาย
มารดา บิดา เพื่อนบ้าน หรือเพื่อน
ร่วมชั้น เราต้องการให้เจ้าลำบากใจ
ออกนอกเส้นทางของตน
เพื่อทำดีกับเขา”

“เวลานี้ เจ้าแทบไม่มีภาพเลยว่า
เจ้าดูเป็นอย่างไรในสายตาสวรรค์
ในสวรรค์ เจ้าจะถูกปลดเปลื้อง
สะอาดหมดจด จากทุกการกระทำ
ที่ทำไปด้วย‘แรงจูงใจเห็นแก่ตน’
ณ จุดนั้น สิ่งที่จะยังเหลืออยู่ให้เจ้า
ก็คือสิ่งที่เจ้าทำด้วยความรักฉัน
พี่น้องและความไม่เห็นแก่ตัว”

“เจ้าจะหยุดสักครู่
แล้วมองเห็นสิ่งที่เรากำลังพูด
อยู่นี้ได้ไหม?ทุกสิ่งที่เจ้าทำเพื่อ
ตนเองและความใคร่ปรารถนา
ของตนเกินกว่าขอบเขต ‘
ความจำเป็นแท้’คุณความดี
ทั้งสิ้นนั้นจะถูกปลิดออกจาก
เจ้านี่แหละคือเหตุที่แขกรับเชิญ
ถูกนำตัวออกจากงานเลี้ยงสมรส
พูดตรง ๆเขาดำเนินชีวิตเพื่อ
ตนเองและปราศจากเครื่องคลุม”

(แคลร์) แต่พระองค์เจ้าข้า
นั่นไม่ใช่ ‘ความชอบธรรมโดย
การงาน’ หรือ?

(พระเยซู) “ในแง่หนึ่งเจ้าจะกล่าว
เช่นนั้นก็ได้แต่จงจำว่า ตอนนี้เรา
ไม่ได้พูดถึง‘ความรอด’ หรือ
‘ความชอบธรรม’ซึ่งได้โดยความ
เชื่อเพียงอย่างเดียว—ไม่ใช่เลย
ที่นี่เรากำลังพูดถึง ‘ฐานันดร
และตำแหน่ง’สวรรค์มีลำดับ
ชั้นและมิติที่หลากหลายมาก”

“มีสถานที่หนึ่งเรียกว่า
‘ความมืดนอกสุด’
ซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ที่ ‘รอดแล้ว’
แต่ทำเพื่อผู้อื่นน้อยยิ่งในชีวิต
นี่เป็นอย่างที่ควรเป็น คลาร์
เชื่อเราเถิด—นี่คือ ‘ความยุติธรรม’
ยิ่งเจ้าคล้ายเราเท่าไร
เจ้ายิ่งอยู่ใกล้ ‘พระสิริแห่งพระที่นั่ง’
ยิ่งขึ้นเท่านั้น”

(แคลร์) แต่พระองค์เจ้าข้า
ในความมืดนอกสุด
พระองค์ตรัสว่าจะมี
‘การร่ำไห้คร่ำครวญและการ
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’

(พระเยซู) “ใช่ แน่นอนว่าจะมี
การตระหนักรู้ถึง ‘ความเห็นแก่ตน’
ในชีวิตของเจ้าจะเป็นความปวดร้าว
อย่างยิ่งในเบื้องแรกและมันไม่ใช่สิ่ง
ที่เจ้าจะวิ่งหนีไปซ่อนมันจะ
ประจักษ์ต่อทุกคนและผู้คนมาก
มายที่ดำเนินชีวิตเพื่อตนเอง
นั้น ‘ตาบอด’ ต่อความเปลือย
เปล่าของตนจึงเป็นความช็อก
ต่อเขา”

“ที่รักของเรา
เมื่อเจ้าทำความดีเป็น
‘รูปแบบความเคยชิน’
ของชีวิตเจ้าได้เดินไปโดยรอบ
เพื่อ ‘ทำให้พระกายของเรา
ที่ตาบอด’สำนึกถึงความเปลือย
เปล่าของตนเองยิ่งความรัก
เมตตาของเจ้ามีความทนทุกข์
และใจกว้างมากเพียงใด
เขาทั้งหลายก็ยิ่งถูกทำให้สำนึก
มากขึ้นเท่านั้น เรารู้ว่าเจ้าเคย
รู้สึกเช่นนี้เพราะเราสละเวลา
มากครั้งเพื่อ ‘ทำให้เจ้าเองสำนึก’
มาแล้ว”

ข้อความไปยังวิดีโอ ... https://jesus-comes.com/index.php/201...