มนต์รักสาวลานมัน ! หนุ่มร้องถูกยอดเมียรัก ปลอมเอกสารขายบ้าน-ธุรกิจ หอบเงิน 7 แสนหนี

Описание к видео มนต์รักสาวลานมัน ! หนุ่มร้องถูกยอดเมียรัก ปลอมเอกสารขายบ้าน-ธุรกิจ หอบเงิน 7 แสนหนี

สามีสุดช็อก ทำงานนอกบ้านหลายวัน กลับบ้านมาอีกทีไม่มีที่ซุกหัวนอน ภรรยาปลอมเอกสารขายบ้าน พร้อมกิจการลานมัน หอบเงิน 700,000 บาทหนีหายเข้ากลีบเมฆ ทุกวันนี้ฝ่ายชายต้องกินนอนอยู่ในรถ อาศัยอยู่ในปั๊มน้ำมัน

ช็อตเด็ด นาทีเดือด !

00:00 มนต์รักสาวลานมัน ! หนุ่มร้องถูกยอดเมียรัก ปลอมเอกสารขายบ้าน-ธุรกิจ หอบเงิน 7 แสนหนี
02:45 งงตาแตก ! เจอคนแปลกหน้าโผล่ในบ้าน ช้ำ โดนยึดธุรกิจ อ้าง ซื้อมาจากภรรยา ?
03:45 ช็อกซ้ำ ! ภรรยาแอบทำสัญญาซื้อขาย 1.2 ล้านบาท
07:28 สายไหมต้องรอดซัด หนังสือมอบอำนาจปลอมแปลงทั้งหมด
15:50 โฟนอินผู้ซื้อบ้านเผย ไม่ทราบมาก่อนว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร เผย ไม่ได้เอะใจเรื่องลายเซ็นไม่ตรงกัน ?
18:20 ฝั่งคนซื้อบ้าน ลั่น กรรมสิทธิ์ต่างๆ เป็นชื่อตนหมดแล้ว
19:55 บิ๊กยุติธรรมชี้ บุลคลล้มละลายทำนิติกรรมไม่ได้
22:05 ผู้เสียหายยัน ! ตนไม่ได้เป็นคนเซ็น
31:40 ฝั่งผู้ซื้อบ้าน พร้อมไกล่เกลี่ย และจะหาพื้นที่ให้ลุงเข้าไปอยู่อาศัยก่อน
31:39 ผู้เสียหายวอน ให้คู่กรณียอมรับความจริงไม่ใช่มากล่าวหา

วันที่ 10 มี.ค. 66 คุณสัญญา ลาวิลาศ ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ ถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ตนกลับมาที่บ้านหลังจากเสร็จงานขับรถทัวร์ พบว่ากิจการลานมันที่ฝากภรรยาดูแลอยู่ที่บ้าน ถูกขายให้กับบุคคลอื่น โดยกลับไปพบว่ามีคนแปลกหน้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน เข้าไปถามจึงได้รู้ความจริง

อีกฝ่ายที่มาอาศัยอยู่ในบ้านอ้างว่ามีหลักฐานการซื้อขายกับภรรยาของตน โดยซื่อในราคา 1,200,000 บาท โดยแบ่งจ่ายงวดแรกก่อน 700,000 บาท และจ่ายอีกงวดในเดือนเมษายน 500,000 บาท ตนจึงนำเอกสารของตัวเองมาให้อีกฝ่ายดู เพื่อยืนยันว่าที่ดินตรงนี้เป็นบ้านของตนจริง แต่อีกฝ่ายอ้างว่าซื้อไปแล้วจากภรรยาของตน ยืนยันที่จะอยู่ในบ้านต่อ แม้ว่าทุกอย่างที่ใช้จะเป็นชื่อตน ทั้ง ไฟฟ้า น้ำปะปา ชื่อเจ้าของกิจการ

จากนั้นตนได้โทรหาภรรยา ฝ่ายหญิงอ้างว่าตนเป็นคนขายกิจการและบ้านหลังนี้ให้ฝ่ายหญิงไปแล้ว ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่จะขาย แต่ตนยืนยันว่าไม่เคยขายกิจการให้ภรรยา โดยอีกฝ่ายมีหลักฐานว่าตนได้ขายให้ภรรยาไปมูลค่า 1,000,000 บาท และมีหนังสือมอบอำนาจ ที่ถูกภรรยาขโมยลายเซ็นมาใช้ ซึ่งตนยืนยันว่าเอกสารของภรรยาคือเอกสารปลอม หลังจากนั้นฝ่ายหญิงได้ส่งข้อความมาขอโทษ ที่ทำไปเพราะไม่มีทางเลือก

ส่วนฝ่ายคนที่ซื้อกิจการไป ตนได้ขอให้ออกไปจากบ้านของตน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมไป พร้อมกับแจ้งตำรวจมาจับตนข้อหาบุกรุกและก่อความวุ่นวาย ซึ่งตนได้อธิบายกับตำรวจไปแล้วว่าตนเป็นเจ้าของบ้านและกิจการนี้ตัวจริง แต่ตำรวจก็ไม่ฟัง ไปแจ้งความตำรวจก็ไม่รับแจ้ง หลังจากที่บ้านถูกยึดไป ตนต้องกินนอนบนรถ และอาศัยอยู่ตามปั๊มน้ำมัน

คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่าผู้ที่ซื้อบ้านและกิจการจากภรรยาของคุณสัญญา ถ้าเห็นความผิดปกตินี้แล้วควรรีบคืน หรือหากมีเจตนาไม่คืนเพราะรู้ว่ามูลค่าจริงคือ 5,000,000 บาท แต่ซื้อมาเพียง 1,200,000 บาท หรือรู้ตั้งแต่ต้นว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร อาจจะติดคุกได้ และมีความผิดฐานบุกรุกด้วย

คุณเอ (นามสมมติ) ผู้ซื้อบ้านต่อจากภรรยาผู้เสียหาย กล่าวว่าตนไม่ทราบว่าการซื้อขายมีการปลอมแปลงเอกสาร ตนเห็นประกาศในโซเชียลมีเดีย จึงตัดสินใจมาต่อรองราคา และได้ขอดูหลักฐานทางฝ่ายภรรยาของคุณสัญญาได้นำเอกสารโอนกรรมสิทธิ์ให้ตนดู ตรวจสอบแล้วจึงตัดสินใจซื้อ และไม่ได้เอะใจว่าลายเซ็นไม่ตรงกัน ซึ่งถ้าหากคนคิดจะปลอมลายเซ็น ตนคิดว่าจะต้องทำให้เหมือนกัน ตอนนี้ตนได้นำเอกสารไปเปลี่ยนชื่อทุกอย่างเป็นของตนแล้ว ถ้าหากคุณสัญญาจ่ายเงินให้ตนเท่ากับราคาที่ซื้อ ตนก็ยินดีจะย้ายออก ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักภรรยาผู้เสียหายมาก่อน

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในกรณีนี้ถ้าหากคุณสัญญากับคุณเอเจรจากันได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะคนต้นเรื่องคือภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับคุณสัญญา นอกจากนี้ฝ่ายหญิงยังเป็นบุคคลล้มละลาย ไม่สามารถทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายถึงแม้ว่าจะเป็นเอกสารจริงก็ตาม ทุกอย่างจะถือเป็นโมฆะทั้งหมด

ผู้เสียหายสามารถไปร้องทุกข์ที่ยุติธรรมจังหวัด จะมีกองทุนเข้าไปช่วยเหลือเรื่องของคดีความ ถ้าหากคุณเอถูกภรรยาของคุณสัญญาหลอกจริง ก็สามารถฟ้องดำเนินคดีได้เช่นกัน แต่ถ้าหากคุณเอรู้เห็นกับฝ่ายหญิงในการซื้อขายครั้งนี้ ก็อาจจะโดนข้อหาฉ้อโกง ทางคุณสัญญาสามารถฟ้องเพิกถอนนิติกรรมทั้งหมด และฟ้องดำเนินคดีกับภรรยาข้อหาฉ้อโกง ส่วนคุณเอผู้ซื้อก็สามารถฟ้องเอาเงินคืนจากฝ่ายหญิงได้

ด้านคุณเอกภพเสนอให้คุณเอคืนบ้านให้กับคุณสัญญา แล้วมาทำธุรกิจลานมันร่วมกันระหว่างรอความคืบหน้าคดี ฝ่ายคุณเอยอมตกลงให้เจรจา โดยมียุติธรรมจังหวัดเป็นคนกลางในการพูดคุย ต้องการให้คุณสัญญามาเจรจากันที่บ้าน และจะให้คุณสัญญาได้อาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง

คุณอ้อยได้พูดคุยกับทีมงานยืนยันว่าเอกสารทุกอย่างเป็นของจริง ถูกต้องตามกฎหมาย ยืนยันว่าซื้อบ้านและกิจการจากสามีจริง แต่สื่อนำตนมาแขวนห้าสังคมประจาน ตนได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากนั้นทีมงานก็ไม่สามารถติดต่อฝ่ายหญิงได้อีก

#ข่าวเย็นประเด็นร้อน #ถกไม่เถียง #TERODigital #Ch7HDNews

----------

ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35

Facebook:   / terodigital  
Twitter:   / tero_digital  
YouTube:    / terodigital  
TikTok:   / terodigital  
Instagram:   / terodigital  

Комментарии

Информация по комментариям в разработке