รวบหนุ่มแว่น ชิงทอง 4 บาท กลางห้างดัง พบเป็นเซฟมือทองจากต่างประเทศ เจ้าตัวร่ำไห้รับสารภาพ

Описание к видео รวบหนุ่มแว่น ชิงทอง 4 บาท กลางห้างดัง พบเป็นเซฟมือทองจากต่างประเทศ เจ้าตัวร่ำไห้รับสารภาพ

กรณีคนร้ายเป็นชายบุกเดี่ยว ใช้อาวุธปืนชิงสร้อยคอทองคำ 2 บาทจำนวน 2 เส้นในร้านเพชรทองออโรร่าภายในห้างยูดีทาวน์ เมื่อเวลา 19.40 น. ของคืนวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยวงจรปิดจับภาพเอาไว้เป็นหนุ่มหน้าตาดี ใส่แว่นตา เสื้อและกางเกงดูดี และที่สำคัญใส่รองเท้าผ้าใบยี่ห้อ adidas รุ่น nmd ราคาประมาณ 2,600 บาท ซึ่งเป็นรองเท้าหรู


โดยคนร้ายทำทีมาเลือกซื้อสร้อยคอทองคำให้แฟนสาว ก่อนควักปืนออกมาขู่พนักงาน อย่าร้องอย่าเสียงดังไม่งั้นจะยิงทิ้งให้หมด เมื่อคนร้ายได้สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท มูล่า 160,000 บาทก็เดินออกจากร้านจากใจเย็น โดยไม่สนใจประชาชนที่อยู่ในห้างอย่างพลุกพล่าน แล้วหลบหนีโดยการเดินข้ามทางรถไฟไปทางริมสวนสาธารณะหนองบัว หายเข้ากลีบเมฆ ตร.ติดตามตัวทั้งคืนแต่ยังไม่พบตัวอย่างใด


เมื่อเช้าวานนี้ (10 ส.ค.) ที่ ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต สรรธาน อินทรจักร ผบก.ตำรวจภูธรจว.อุดรธานี ได้เรียกตำรวจชุดสวนและชุดสอบสวนเข้ามารายงานความคืบหน้าทางคดี


ซึ่งในที่ประชุมตำรวจสืบสวนได้รายงานว่า ตอนนี้ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวผู้ลงก่อเหตุได้ ตำรวจชุดสืบสวนกำลังติดตามสืบสวนอย่างกระชั้นชิด ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกันที่สภ.เมืองอุดรธานี พนักงานร้านทองได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม


โดยข้อมูลล่าสุดตำรวจได้ตรวจยึดเสื้อแขนยาวสีน้ำ และอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ที่หนองน้ำหนองบัวใกล้กับศาลเจ้าปู่ย่า ขณะเดียวกันยังพบรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ adidas รุ่น nmd สีดำของคนร้ายทิ้งไว้ในซอยทรงธรรมแถวตลาดหนองบัวอีกด้วย คาดว่าคนร้ายหลังก่อเหตุได้ถอดเสื้อและปืนโยนทิ้งหนองน้ำหนองบัว จากนั้นได้ไปถอดรองเท้าทิ้งในซอยทรงธรรม


ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนแถวชุมชนหนองบัวและซอยกำนัน น่าจะไม่ใช่มืออาชีพ และคงมีความจำเป็นบางอย่างจึงลงมือก่อเหตุ สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะติดพนัน ซึ่งรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่เปิดแมสในร้านทอง เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน โดยตำรวจจะได้เร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว


กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมผุ้ก่อเหตุได้แล้ว โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ทราบชื่อ คือนายประพันธ์ แตงอ่อน อายุ 45 ปี ชาว จ.สุโขทัย แต่มาพักอาศัยอยู่กับแฟนสาวที่ จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางเป็นกางเกงที่ใช้ใส่ไปก่อเหตุ รองเท้าแตะที่แวะไปซื้อร้านขายทุกอย่าง 20 บาทและสร้อยคอทองคำเหลือ 1 เส้น อีก 1 เส้นเอาไปขายแล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นการจับกุมคนร้ายครั้งนี้ได้เนื่องจากตร.ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านขายของ 20 บาท จากนั้นได้ส่งภาพไปให้กองปราบสแกนหน้าด้วยระบบ AI จนนำมาซึ่งการจับกุม


โดยไล่เรียงลำดับเหตุการณ์หลังผู้ก่อเหตุพกปืนปลอมชิงทอง 4 บาท เมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการเดินจากจุดที่เกิดเหตุข้ามทางรถไฟถอดเสื้อและทิ้งปืนเดินต่อมาที่วังมัจฉา จากนั้นไปที่สนามตะกร้อขอให้เด็กขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ซอยกะเทย ต่อด้วยให้แกร๊ปไปส่งซื้อตั๋วรถทัวร์ที่บริษัทนครชัยแอร์ ริมถนนทหาร แต่ตั๋วเต็มทุกเที่ยว คนร้ายจึงแวะร้านขายทุกอย่าง 20 บาท โดยเข้าไปซื้อรองเท้าแตะเปลี่ยน ส่วนรองเท้าที่ใช้ก่อเหตุนำไปทิ้งถังขยะ แล้วเดินเท้าเปล่าผ่านไปที่สี่แยกบ้านจั่นขึ้นรถ บขส.กลับขอนแก่น และถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งจนมุมเพราะแวะไปที่ร้าน 20 บาทวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนประสานกองปราบสแกนภาพ AI ตร.ได้เข้าไปตรวจสอบในเฟซบุ๊ค จึงทราบที่อยู่ของคนร้ายและนำมาซึ่งการจับกุมดังกล่าว


สำหรับมูลเหตุจูงใจ เบื้องต้นทราบว่านายประพันธ์ตกงานมาหลายปีแล้ว แต่เมื่อก่อนเป็นเชฟมือทองอยู่ประเทศเช็ก มีเงินเดือนหลายหมื่น แต่ต้องกลับมาช่วงโควิด จึงขัดสนเงินทองไว้จุนเจือครอบครัว คิดไม่ตกและอาจจะเกิดอารมณ์ชั่ววูบ จึงตัดสินใจนั่งรถตู้จากขอนแก่นมาลงที่อุดรระยะทางกว่า 120 กม.เพื่อก่อเหตุดังกล่าว โดยวันนี้ (11 ส.ค.) จะแถลงข่าวจับกุมนายประพันธ์ ที่กองบังคับการ ภูธรจ.อุดรธานีและทำแผนประกอบคดี


จากนั้นเวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายประพันธ์ เดินทางมาถึง สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อทำการสอบปากคำ


โดยเมื่อเจ้าหน้าที่คุมตัวนายประพันธ์ ลงจากรถ นายประพันธ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตัดสินใจก่อเหตุเหตุเพราะตนไม่มีเงิน ไม่คิดวางแผนอะไรมาก่อน หาเงินเอาไว้ใช้จ่ายเพื่อประคองชีวิตครอบครัว ตอนแรกนั่งรถตู้ตั้งใจมายืมเงินเพื่อน แต่คิดว่าเพื่อนคงลำบากเหมือนกัน เลยเปลี่ยนใจชิงเอาทอง หวังจะมีเงินต่อชีวิตและครอบครัวไปสักระยะ แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุม



พร้อมบอกอีกว่าเมื่อก่อนตนทำงานเป็นเชฟที่ต่างประเทศ จากนั้นก็เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเพราะพิษโควิด ไม่มีงานทำ คิดหนักมาตลอดห่วงแต่ภรรยาและลูกชาย สำหรับทองอีกเส้นหนึ่งที่หายไป คาดว่าจะหายระหว่างทางตอนที่ตนหลบหนี น่าจะหล่นตอนวิ่งข้ามทางรถไฟ


ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลอะไรไหมหลังถูกจับ นายประพันธ์ บอกว่า กังวลมากเรื่องลูก ห่วงเขามาก แต่ที่ทำไป ยอมรับทำไปเพราะชีวิตสุดๆ แล้ว อยากขอโทษสังคม ขอโทษร้านทอง ซึ่งเจ้าตัวพูดไปน้ำตาก็ไหลสะอื้นร้องไห้ใช้ผ้าปิดใบหน้าตลอดเวลา

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/weeke...
-------------------------
#เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ (Morning News Weekend)
วันที่ 11 สิงหาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์

Комментарии

Информация по комментариям в разработке