ชัวร์ก่อนแชร์ : ความดันโลหิตมาตรฐานคือ 150/90 สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จริงหรือ ?

Описание к видео ชัวร์ก่อนแชร์ : ความดันโลหิตมาตรฐานคือ 150/90 สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จริงหรือ ?

บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า สหรัฐอเมริกาได้กำหนดอย่างเป็นทางการ ว่าความดันโลหิตมาตรฐานคือ 150/90 สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ จากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

🎯 ตรวจสอบกับ ผศ.นพ.สมเกียรติ แสงวัฒนาโรจน์
หน่วยอายุรศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

-----------------------------------------------------

📌 สรุป : ❌ มั่ว อย่าแชร์ ❌ ข้อมูลส่วนใหญ่จะไม่จริง เป็นข้อมูลเก่า
และอาจส่งให้ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เสียโอกาสในการรักษาได้

Q : เขาบอกว่าสหรัฐอเมริกาได้กำหนดอย่างเป็นทางการว่า
ความดันโลหิตมาตรฐานคือ 150/90 ?
A : สำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
ที่อ้างกันตรงนี้มันยังไม่เป็นความจริง
ตามวิทยาลัยโรคหัวใจของอเมริกา
และสมาคมหัวใจของอเมริกา
การวินิจฉัยความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่ทุกกลุ่มอายุ
เราถือว่าความดันในเกณฑ์ปกติคือน้อยกว่า 120
และตัวล่างคือน้อยกว่า 80 มิลลิเมตรปรอท
โดยไม่ได้กินยาลดความดัน

Q : สำหรับผู้สูงอายุปกติที่อายุมากกว่า 80 ปี
ความดัน 160 หรือ 170 ก็เป็นที่ยอมรับเช่นกัน ?
A : ตรงนี้ก็ไม่จริงอีก เนื่องจากการศึกษาวิจัยทั่วโลกบอกว่า
ความดันโลหิตอายุ 60 ขึ้นไป
ความดันตัวบนถ้าสูงเกิน 120 ขึ้นไป
สัมพันธ์กับการเสียชีวิตจากโรคหัวใจหลอดเลือด
เพิ่มขึ้นโดยตลอดในทุกช่วงอายุ

Q : เขายังบอกสูตรคำนวณความดันโลหิตสำหรับวัยต่าง ๆ ?
A : สรุปแล้วความดันโลหิตซิสโตลิกปกติของผู้ชายคือ 82 + อายุ
และ ของผู้หญิงคือ = 80 + อายุ
เป็นที่เล่าลือมาตั้งเป็นสิบปีแล้ว
ยังไม่มีเห็นในวารสารการแพทย์อะไร
หรือองค์กรวิชาชีพที่ใช้สูตรคำนวณอันนี้

Q : เขาบอกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี
ไม่สามารถมีความดันโลหิตสูง ต่ำกว่า 130 ได้
มิฉะนั้นจะมีแนวโน้มที่จะเกิดความดันเลือดต่ำ
และเป็นลมได้นี่จริงไหม ?
A : อันนี้ไม่จริง
จากการสำรวจประชาการทั่วประเทศ ปี พ.ศ. 2557
เขาพบว่าคนไทย 70-79 ปี 900 กว่าคน
ผู้ชาย ความดันโลหิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 101-165
ผู้หญิงอายุ 70-79 ปี พันกว่าคน
ความดัน 105-163
ผู้ชายอายุ 80 ปีขึ้นไป 351 คน
ความดันโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ ก็ 109-166
ผู้หญิงอายุมากกว่า 80 ปี 382 คน
ความดันโดยเฉลี่ย 103-164
เพราะฉะนั้นความดันที่ต่ำกว่า 130 เป็นไปได้ในผู้สูงอายุ

Q : เขาบอกว่าความดันโลหิตสูงระหว่าง 150 ถึง 130 ปลอดภัยกว่า ?
A : จะดีกว่าที่จะสูงกว่า อย่าต่ำกว่า
แล้วแต่ว่าเขาเป็นโรคความดันโลหิตสูง
แล้วก็รับประทานยาลดความดันอยู่หรือเปล่า
คนที่ทานยาลดความดันอยู่
ระดับความดันถ้าอายุ เกิน 65 ปี ข
ควรจะอยู่ที่ 130-139 ตัวบน
70-79 ตัวล่าง
อันนี้เป็นคำแนะนำของสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย
แต่สำหรับคนที่ไม่กินยาลดความดัน
90-120 ถือเป็นความดันปกติของคน ๆ นั้นได้

Q : เขาบอกอีกว่ามาตรฐานของระดับน้ำตาลในเลือด
ควรจะผ่อนคลายเมื่ออายุเพิ่มขึ้นนี่จริงไหม ?
A : มีบางส่วนที่เป็นความจริง
สมาคมเบาหวานเองก็จะออกเป็นลักษณะคำแนะนำ
ว่าเวลาเราจะดูคนไข้โรคเบาหวานควรจะมีน้ำตาลระดับเท่าไหร่
ให้พิจารณาหลายประเด็นด้วยกันเลย
ซึ่งตรงนี้มันจะมีการกำหนดออกมาที่ชัดเจนว่าอายุเท่าไหร่
เป็นโรคประจำตัวอะไร เป็นเบาหวานมานานกี่ปี
คุมเบาหวานได้ดีไม่ดี โอกาสที่จะเกิดน้ำตาลต่ำมากน้อยแค่ไหน
เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป

Q : เขาบอกถึงระดับน้ำตาลในเลือด
ขณะอดอาหารของผู้ป่วยเบาหวานตามอายุต่าง ๆ นี่ใช้ได้ไหม ?
A : ตรงนี้มันคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะต้องเท่านี้ ๆ
ทั่วไปมันจะดูเป็นราย ๆ แล้วก็พิจารณาปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
แล้วคุณหมอที่ดูแลจะเป็นคนกำหนดตรงนี้เอง
โดยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ว่าควรจะลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉลี่ยเท่าไหร่

Q : วิธีดูแลตัวเองสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดสูง ?
A : ใหญ่ ๆ ก็จะเป็น 3อ. 2ส.
เรื่องอาหาร เอาจานมาจานนึงแบ่งเป็น 4 ส่วน
ครึ่งนึงก็จะเป็นอาหารพวกผัก ถั่ว งา
แล้วอีก 1 ใน 4 ก็เป็นข้าว โดยเฉพาะข้าวกล้อง
อีก 1 ส่วน 4 ก็จะเป็นเนื้อสัตว์
เน้นไปที่เนื้อไก่กับเนื้อปลา ไก่ไม่ติดมัน
แล้วบวกกับผลไม้ วันนึง 2-3 ฝ่ามือ
แล้วก็บวกน้ำ

อันที่ 2 คือ อ.อิริยาบถ เคลื่อนไหวออกแรง ออกกำลังกาย
ง่ายที่สุดก็คือการเดิน
เท่าที่มีการศึกษาว่าจะช่วยให้ลดความดันโลหิตได้
อย่างน้อย ๆ วันนึง ควรเดินอย่างน้อยประมาณ 8,000 ก้าว

อันที่ 3 คือเรื่องของอารมณ์
ผมเรียกว่าออกกำลังใจก็คือการที่เราไม่เครียด
ใช้สมองทั้งวัน อดหลับอดนอน พักผ่อนไม่พอ

สุดท้ายอีก 2 ตัว คือ สูบบุหรี่กับสุรา
ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้มันก็ทำให้ความดันโลหิตขึ้นได้ทั้งคู่

Q : สรุปแล้วข้อความเกี่ยวกับความดันโลหิต
และน้ำตาลในเลือดที่เขาแชร์นี่เป็นอย่างไร ?
A : ไม่ควรแชร์ต่อเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากจะทำให้คนที่รับข่าวสารเข้าใจผิดแล้ว
เขายังเสียโอกาสในการที่จะได้มาดูแลความดันโลหิตสูงแต่เนิ่น ๆ
เพราะเรายิ่งทิ้งความดันโลหิตสูงนานเท่าไหร่
โอกาสที่เราจะเกิดโรคแทรก อัมพฤกษ์ อัมพาต
โรคหัวใจหลอดเลือด แม้แต่มะเร็ง
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ตามมาได้

👉 การได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
อาจทำให้เราเสียโอกาสในการดูแลสุขภาพให้ดีได้

#ชัวร์ก่อนแชร์ #sureandshare
-----------------------------------------------------

🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ "ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์" 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40sureandshare
FB ::   / sureandshare  
Twitter ::   / sureandshare  
IG ::   / sureandshare  
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok ::   / sureandshare  

Комментарии

Информация по комментариям в разработке