Скачать или смотреть ทำทานอย่างไร ถึงจะได้ผลมาก? 1/2 | วันพระ...มาคุยกัน EP8.1

“ทาน” หมายถึงการให้ การเสียสละสิ่งของต่างๆ หรือให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นการให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตัดความตระหนี่ เอาชนะใจตนเอง ไม่หวังผลตอบแทนจากผู้รับ
โลกดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะการให้ ถ้าปราศจากการให้ โลกคงดำรงอยู่ไม่ได้ พ่อแม่ไม่ให้การเลี้ยงดูลูก สามีภรรยาไม่บ่งปันกัน สังคมไม่สงเคราะห์กัน ต่างคนต่างเห็นแก่ตัว ไม่มีการให้กัน โลกเราอยู่ไม่ได้แน่ๆ

การให้เป็นการทำความดีที่ง่ายที่สุด ส่งผลกับชีวิตของเราอย่างมากมาย ข้ามภพข้ามชาติ

ประเภทของ “ทาน”
1. อามิสทาน คือ การให้สิ่งของเป็นทาน เช่น สิ่งของที่เป็นปัจจัยสี่ การให้ทานวัตถุ มีข้าว นํ้า ผ้า ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พักอาศัย ประทีปโคมไฟ เป็นต้น
2. ธรรมทาน
3. อภัยทาน

“ทาน” แบ่งตามลักษณะของการให้
1. การให้เพื่อชำระกิเลส หรือ บริจาคทาน เป็นการให้เพื่อกำจัดความตระหนี่ ความขุ่นมัวแห่งจิต ไม่คำนึงถึงผุ้รับว่าจะเป็นใคร
2. การให้เพื่อตอบแทนคุณความดี หรือ ปฏิการทาน เป็นการให้เพื่อตอบแทนหรือบูชาคุณความดีแก่ผุ้มีคุณธรรมสูงกว่า หรือผู้ที่มีอุปการะแก่ตน เช่น การให้สิ่งของแก่พ่อแม่ ครูอาจารย์
3. การให้เพื่อสงเคราะห์ หรือ สังคหทาน เป็นการให้เพื่อผูกมิตร ยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน
4. การให้เพื่ออนุเคราะห์ หรือ อนุคหทาน เป็นการให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลแก่คนยากจน ด้วยจิตเมตตาสงสาร ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม


อามิสทาน แบ่งเป็น 3 ประเภทตามสิ่งของที่ให้
1. ทาสทาน การให้ของที่ด้อยกว่าของที่ตนบริโภคใช้สอยเอง แบบนี้ผุ้ให้ยังมีใจที่ตกเป็นทาสของความตระหนี่ ดุจการให้สิ่งของกับคนที่เป็นข้าทาสบริวาร
2. สหายทาน หมายถึง การให้ของที่เสมอกันกับที่ตนเองบริโภคใช้สอย ดุจการให้สิ่งของกับคนที่เป็นมิตรสหาย
3. สามีทาน หมายถึง การให้ของที่ประณีตกว่าของที่ตนบริโภคใช้สอย เลือกเอาสิ่งของที่ดีที่สุดไปให้ ชาวพุทธเวลาจะให้ มักจะให้สามีทาน เช่น ตักบาตรพระด้วยข้าวปากหม้อ การให้แบบนี้เป็นการให้ที่ผุ้ให้เอาชนะความตระหนี่ในใจ จึงได้บุญมาก
เรื่องของชายตัดฟืน
มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ คันธเศรษฐี มีความเชื่อว่าทรัพย์สมบัติที่หามาได้ ตายแล้วจะเอาติดตัวไปไม่ได้ จึงคิดจะใช้ทรัพย์ให้หมด ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยด้วยของราคาแพง ใช้เงินเป็นค่าอาหารถึงวันละแสนกหาปณะ เวลารับประทานอาหารยังต้องเชิญคนมาดูเป็นจำนวนมาก
ชายตัดฟืนที่มีฐานะยากจนคนหนึ่ง ได้ทราบข่าวจากเพื่อน จึงชวนกันไปดูเศรษฐีบริโภค เขาเกิดอยากจะกินอาหารเช่นนั้นบ้าง จึงร้องขออาหารจากเศรษฐี แต่เศรษฐีไม่ให้ เขาบอกว่าถ้าไม่ได้เขาคงต้องตายแน่ๆ
เศรษฐีจึงบอกว่า ถ้าเขาทำงานให้ครบ 3 ปี จะให้อาหาร 1 ถาดที่มีความประณีตเหมือนกัน เขาตอบตกลง ตั้งแต่นั้นมาเขาได้ชื่อว่า นายภัตตภติกะ แปลว่ารับจ้างทำงานเพื่ออาหาร
เมื่อทำงานครบ 3 ปี เศรษฐีได้จัดอาหารพร้อมทั้งเสื้อผ้า เครื่องอาบน้ำทุกอย่างเหมือนกับที่เศรษฐีใช้ในวันนั้น พร้อมทั้งป่าวประกาศให้ผู้คนมาดูการบริโภคครั้งยิ่งใหญ่ของชายตัดฟืน
ขณะที่เขาเตรียมจะบริโภคนั้นเอง มีพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เพิ่งออกจากนิโรธสามาบัติ เห็นว่าควรจะไปโปรดชายตัดฟืน จึงเหาะมายืนต่อหน้าเขา เขาเห็นแล้วเกิดจิตเลื่อมใส คิดว่ากว่าที่เขาจะได้กินอาหารดีๆ สักมื้อหนึ่ง ต้องทำงานถึง 3 ปี แสดงว่าในอดีตทำทานมาน้อย ชาตินี้จึงลำบากยากจน ถ้าเรากินอาหารนี้ก็จะหมดไปภายในวันเดียว แต่ถ้าถวายอาหารนี้ ผลบุญจะส่งผลไปหลายภพหลายชาติ
คิดได้ดังนี้แล้ว จึงถวายอาหารแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า พอถวายได้กึ่งหนึ่ง พระปัจเจกพุทธเจ้าทรงปิดบาตร แต่เขาขอร้องให้รับถวายจนหมด เพราะต้องการได้บุญมากๆ
ถวายเสร็จแล้ว ได้อธิษฐาน ขอให้บุญจากการถวายทานครั้งนี้ ส่งผลให้เขามีความสุขไปทุกภพทุกชาติ และขอให้มีส่วนแห่งธรรมที่พระปัจเจกพุทธเจ้าเข้าถึง
พระปัจเจกพุทธเจ้าทรงให้พรว่า ขอสิ่งที่ท่านตั้งใจดีแล้ว ปรารถนาดีแล้ว จงสำเร็จอย่างบริบูรณ์ เหมือนพระจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญเถิด
มหาชนที่มาดูต่างก็อนุโมทนาปีติยินดี เสียงดังไปถึงเศรษฐี จึงส่งคนมาดู นึกว่าชายตัดฟืนคงทานอาหารไม่เป็น
เมื่อเศรษฐีเข้าใจเรื่องแล้ว เห็นว่าเขาทำสิ่งที่ทำได้ยาก จึงมอบทรัพย์จำนวนหนึ่งให้ และขอมีส่วนแห่งบุญนั้นด้วย ข่าวนี้กระจายออกไป พระราชาทรงเรียกเขาไปพบ และมอบทรัพย์ให้อีก และตั้งให้เขาเป็นเศรษฐีชื่อว่า “ภัตตภติกเศรษฐี”
เมื่อเขาละโลกไปแล้วได้ไปสู่เทวโลก ในสมัยพุทธกาล ได้มาเกิดในตระกูลอุปัฏฐากของพระสารีบุตรในเมืองสาวัตถี ได้ชื่อว่า สุขกุมาร อายุ 7 ขวบได้บวชเป็นสามเณร ไม่นานักก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ติดตามธรรมะและสาระดี ๆ เพื่อชีวีมีสุข ของ Dhamma Variety Channel
ในช่องทางอื่นได้ที่
Facebook : @dhammavarietychannel ​
Instagram : @dhamma_variety ​

#DhammaVarietyChannel​ #ธรรมะ #วันพระ #ธรรมะและสาระดีๆ #พระพุทธศาสนา #รวย #เงิน #บุญ #เผยเเผ่ #ติดตาม #ทาน