เรื่อง รู้แจ้งเรื่องกรรม อจินไตย กรรมวิบาก

Описание к видео เรื่อง รู้แจ้งเรื่องกรรม อจินไตย กรรมวิบาก

#vihantaweesak#กฎแห่งกรรม#อจินไตย#
คนเราชอบพูดเรื่องลี้ลับน่าตื่นเต้น เรื่องที่พยากรณ์ยาก ว่าจะออกมาอย่างไรท่าไหน เพราะชอบแสดงความคิดเห็น ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ น่าเชื่อหรือไม่น่าเชื่อ และถึงจุดหนึ่งอยากพิสูจน์ว่า ตนเป็นฝ่ายถูกในขณะที่คนอื่นอ่านทางไม่ขาดอย่างตน อย่างเช่นบางทีเถียงกันคอเป็นเอ็นเรื่องมนุษย์ต่างดาว เรื่องสัตว์ประหลาด เรื่องสงครามโลก ฯลฯ ต่างคนต่างมั่นใจเอาจริงๆว่า ความเชื่อของตนถูกต้อง ความเชื่อของตนเท่านั้นตรงกับความจริง ทั้งๆที่อาจไม่รู้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงประกอบเลยแม้แต่น้อย มนุษย์เป็นกันได้อย่างนี้จริงๆ คือเชื่อโดยไม่ต้องหาหลักฐานมาสนับสนุน ฉะนั้นเมื่อเถียงกันเรื่องความเชื่อแล้วถามอีกฝ่ายว่า ‘แน่ใจได้อย่างไร?’ แล้วสืบไปสืบมาสรุปว่า เพราะคิดเอาเอง เพราะคาดเดาเอาตามอำเภอใจ หรือเพราะมีอคติอยากให้ความจริงตรงกับสิ่งที่ตนเชื่อ ก็อย่าไปใส่ใจเลยจะดีกว่า เป็นทุกข์เปล่าๆ เพราะคนเกือบทั้งโลกต่างก็ยินดีที่จะทึกทักตามใจตนต่างๆ นานา ไม่มีวันที่เราจะไปไล่จี้ให้ใครต่อใครหันเหศรัทธาของเขามาตามทางศรัทธาของเราได้หมดแน่ ๆ ขอยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดประการหนึ่ง ไม่ว่าไทยหรือเทศ ไม่ว่าเชื่อนรกสวรรค์หรือไม่ เวลาโกรธเกลียดใครก็มักสาปแช่งว่า ‘ไปลงนรกเถอะ!’ หรือแม้ไม่ถึงขั้นสาปแช่ง ก็นึกอยู่ในใจว่ากรรมที่เขาทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจย่อมส่งเขาไปไม่ดีแน่นอน นับว่าเป็นการเดาแกมแช่งอยู่ดี คนเราก็เท่านี้ รักใครก็จะดันก้นเขาขึ้นฝั่งสวรรค์ เกลียดใครก็จะขว้างเขาลงเหวนรก โดยที่ความจริงสวรรค์และนรกไม่ได้เปิดประตูต้อนรับใครตามการแยกเขี้ยวยิงฟันลุ้นตัวโก่งของบรรดาญาติมิตรหรือศัตรูคู่อาฆาตรายใดเลย เรื่องของกรรม หรือที่คนไทยชินหูกับคำว่า ‘กฎแห่งกรรม’ นั้น เป็นหนึ่งในสี่ของอจินไตย อจินไตยคือเรื่องที่ไม่ควรใช้ความคิดตรึกนึกเดาหรือฟุ้งซ่านจินตนาการไปเอง คือจิตไม่รู้ว่าทำอะไรแล้วจะโดนสนองคืนท่าไหน แต่กรรมรู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร จิตได้แต่คาดเดา ส่วนกรรมเป็นผู้ตัดสินว่าเรา เดาถูกหรือเดาผิดกันแน่ ความหมายของคำว่า “อจินไตย” คือ.-
๑) พุทธวิสัย – หมายถึงคุณสมบัติและความสามารถของพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่นหนึ่งในความสามารถของพระพุทธองค์คือ ‘รู้ทุกอย่าง’ ถ้าด้วยปุถุชนวิสัยก็ย่อมสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร
มนุษย์ที่ไหนจะไปรู้ทุกอย่างได้เล่า อันนี้เป็นการมองมาจากมุมมืดอันแคบจำกัดของปุถุชน ซึ่งแม้ได้ข่าว
ว่ามนุษย์อื่นแค่จดจำสิ่งต่างๆได้มากกว่า หรือคิดเลขได้เร็วกว่า หรือเจนจัดในการงานหลากหลายกว่าตนก็โน้มเอียงจะดูหมิ่น เห็นเป็นข่าวกุ พร้อมจะเอ่ยเต็มปากเต็มคำแล้วว่าไม่เชื่อ อย่างนี้จะไปเชื่อพุทธวิสัยอันเหนือมนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้อย่างไร
๒) ฌานวิสัย – หมายถึงคุณภาพจิตที่สามารถนิ่งอย่างเอกอุ เสพรสปีติสุขในสมาธิอันยิ่งใหญ่ระดับทิพย์ที่เกินประสบการณ์มนุษย์สามัญ และนอกจากนั้นยังมีผลเป็นความผ่องใสทางกายเกินคนธรรมดา ล่วงรู้สิ่งลี้ลับต่างๆมากกว่าที่จิตคิดๆนึกๆทั่วไปจะทำได้ เมื่อผู้ได้ฌานพยายามพรรณนาความสุขและความล่วงรู้ต่างๆให้คนกิเลสหนาทั้งหลายฟัง หรือกระทั่งอยากให้รับรู้ตาม เขาจะมีภาพของคนบ้า คนเพ้อเจ่อ หรือคนหลอกลวงมากกว่าอย่างอื่น และในทำนองเดียวกันแม้ใครเชื่อเรื่องฌาน ก็ไม่อาจจินตนาการถูกว่ารสสุขระดับฌานนั้นยิ่งกว่ารสสุขแบบโลกๆสักแค่ไหน รวมทั้งไม่อาจเข้าใจเลยว่าจิตอีกแบบสามารถทะลุทะลวงกำแพงความไม่รู้ต่างๆนานาได้อย่างไร เช่นอ่านใจคนอื่นออกเป็นคำๆ พยากรณ์อนาคตได้แม่นยำเหลือเชื่อ ฯลฯ
๓) วิบากแห่งกรรม – หมายถึงผลที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆนานาในชีวิตเรา เมื่อไม่รู้เหตุผลเราก็อาจบัญญัติคำว่า ‘บังเอิญ’ ขึ้นมา แต่แม้เมื่อเชื่อว่าสิ่งทั้งหลายเป็นผลที่หลั่งไหลมาจากต้นธารคือกรรมเก่า ก็ไม่อาจเข้าถึงว่าตนเองเคยไปทำกรรมอันใดไว้ หลายคนโยงกรรมอันเป็นต้นเหตุเข้ากับผลกรรมอันเป็นปลายทางด้วยความคิดคาดเดา บางทีเผอิญถูก แต่หลายทีจะผิดถนัด และแม้จะเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมละเอียดลออปานใด ท่องจำหลักของกรรมวิบากได้มากมายเพียงไหน ก็ไม่อาจระบุด้วยจินตนาการคิดนึกว่าตนเจอสุขหรือเจอทุกข์หนึ่งๆเพราะแรงกรรมเก่าอันใดเหวี่ยงมา
๔) ความคิดเรื่องโลกและจักรวาล – หมายถึงที่มาที่ไปของวัตถุซึ่งใหญ่มากๆเช่นโลกและดวงดาว กับวัตถุที่เล็กมากๆเช่นอะตอมและองค์ประกอบสุดจิ๋ว หลายคนเข้าใจว่าปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบคำตอบทั้งหมดแล้ว แต่ความจริงก็คืออัจฉริยะที่อุทิศทั้งชีวิตทำงานค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับวัตถุระดับมหภาคและจุลภาคนั้น เลิกพูดถึง ‘ความจริงสุดท้าย’ กันนานแล้ว หลายคนเชื่อว่านักวิทยาศาสตร์ที่รู้มากที่สุดในโลก อย่างมากก็เป็นได้แค่เด็กที่ยืนอยู่ชายหาดแต่อยากรู้อยากเห็นและสัมผัสความลี้ลับของท้องสมุทรกันเท่านั้น เอาแค่ได้ข้อสันนิษฐานว่าก่อนเกิดจักรวาลไม่มีอวกาศ ไม่มีกาลเวลา เท่านี้ก็งงแปดกลับแล้วว่าสภาพนั้นเป็นอย่างไร และเหตุใดจึงอุบัติมหากัมปนาท จากความไม่มีอะไรกลายเป็นดาราจักรนับแสนล้านอย่างที่กำลังเห็นๆอยู่ได้ท่าไหน

Комментарии

Информация по комментариям в разработке