เหยื่อโผล่อีก! ชาร์จมือถือทิ้งไว้ โดนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี - ฟังนักวิชาการวิเคราะห์

Описание к видео เหยื่อโผล่อีก! ชาร์จมือถือทิ้งไว้ โดนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี - ฟังนักวิชาการวิเคราะห์

อีกราย ขรก.หนุ่มวัย 26 ชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ โดนดูดเงินครั้งเดียวเกลี้ยงบัญชีเกือบ 1 แสนบาท ยืนยันไม้ได้คลิกหรือกดลิงก์ใด ๆ ระบุ เข้าค้นประวัติบัญชีปลายทาง พบขึ้นแบล็กลิสต์เคยโกงพระมาก่อน คาดไม่ได้เงินคืนเพราะมองว่าเป็นบัญชีม้า พบมีเหยื่ออีกสิบกว่าราย ยอดรวมกว่า 5 แสนบาท

ด้าน นักวิชาการด้านคอมฯ กระทรวงดิจิทัลฯ เผยเคสถูกดูดเงินจากมือถือเกลี้ยงบัญชีขณะชาร์จแบตเป็นไปได้ เกิดจากหลายปัจจัย ส่วนกรณีนายป็อก สูญเงินกว่าแสนบาท ไม่ฟันธงเกิดจากอะไร ต้องดูเครื่องอย่างละเอียด เตือนหากมือถือหน่วง เครื่องผิดปกติ ให้งดใช้แอปฯธนาคาร

โดยเจ้าตัวเล่าว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค.66 ที่ผ่านมา อยู่ ๆ หน้าจอโทรศัพท์ก็ดับไป แต่ว่ายังสามารถฟังเสียง กดโทรศัพท์ได้อยู่ หลังจากนั้น 1 ชม. ถัดมา ก็สามารถใช้โทรศัพท์ได้ตามปกติ ก่อนที่บัญชีธนาคารหนึ่ง แจ้งเตือนมาว่า "เนื่องจากนโยบายความปลอดภัยของธนคาร ระบบตรวจสอบได้ว่าได้มีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ดาวน์โหลดจาก Play Store มาใช้งาน กรุณาถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าว ก่อนใช้งานแอปฯของธนาคาร" ซึ่งมองว่าเหตุการณ์นี้เริ่มผิดสังเกต

ต่อมาวันที่ 11 ม.ค.66 วันที่เงินถูกดูดออกจากบัญชี ซึ่งตนมารู้เรื่องเมื่อตอนเปิดเข้าแอปฯ ธนาคารอีกธนาคารหนึ่ง พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปหมดแล้ว ถูกโอนออกไปก้อนเดียว รวมเป็นเงิน 92,709 บาท ซึ่งถูกโดนไปยังบัญชีของ นายต่อสกุล ด่านวันดี ได้แจ้งไปยังธนาคารเพื่อให้อายัดบัญชีของตัวเองไว้ก่อน ก่อนที่จะไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด โดยทางธนาคารแจ้งว่าจะส่งเรื่องไปตรวจสอบที่ธนาคารปลายทางให้ ขณะเดียวกันตนยังได้ไปแจ้งความที่ สอท. อีกด้วย ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์แจ้งกลับมาว่าได้รับเรื่องเอาไว้แล้ว ส่วนความคืบหน้าทางคดียังไม่มีอะไรคืบหน้า

ขรก.หนุ่ม รายนี้ เล่าต่อว่า จากนั้นเมื่อตนเห็นชื่อบัญชีปลายทาง ตนจึงลองไปตรวจสอบประวัติดู ปรากฏว่าพบเป็นบุคคลในแบล็กลิสต์รายชื่อคนโกง ซึ่งเคยโกงพระไปก่อนหน้านี้ด้วยที่ย่านบางแค เป็นการหลอกขายตู้โชว์ฝังมุก ซึ่งเป็นชื่อบัญชีเดียวกัน และเมื่อเห็นเช่นนี้แล้วมองว่าคงไม่ได้เงินคืน และมองอีกว่าบัญชีนี้เป็นบัญชีม้า แต่ว่าก็พยายามค้นหาในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งพบน้องสาวของเจ้าของบัญชีปลายทาง น้องสาวเขาบอกกับตนว่า เจ้าของบัญชีนี้ เป็นคนเกเร ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ทำอะไร ติดต่อไม่ได้ จึงมองว่าเป็นบัญชีม้า

ขรก.หนุ่ม รายนี้ ยังกล่าวว่า ก่อนเงินจะถูกดูดออกไป มองว่าโทรศัพท์ของตัวเองถูกควบคุม ทำให้รู้ข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ และหากเราเผลอพวกนี้ก็จะเล่นงานเรา เช่นช่วงที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ไว้หรือโทรศัพท์ไม่ได้ใช้งาน จึงตั้งข้อสังเกคว่าอาจถูกควบคุมจากระยะไกล

ขรก.หนุ่ม รายนี้ บอกต่อว่า ส่วนใหญ่ผู้เสียหายที่โดนในลักษณะเดียวกัน จะใช้โทรศัพท์แบบ Android ซึ่งตอนนี้พวกตนได้ตั้งกลุ่มกันขึ้นมาแล้วประมาณ 13 คน พบว่ายอดที่ถูกดูดเงินรวมกันประมาณ 500,000 บาท

ทั้งนี้ ตนอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนระวัง ให้เช็คโทรศัพท์เมื่อมีอะไรแปลก ๆ อยากให้ตรวจสอบบัญชีตัวเองให้ดี ให้ดูเคสเหล่านี้เป็นตัวอย่างไว้ และจากนี้ตนรู้สึกว่าไม่ค่อยกล้าที่จะฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคารอีกแล้ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยคุณณัฐ เผยว่า หากถามว่ากรณีดังกล่าวเป็นไปได้หรือไม่ ยืนยันว่าเป็นไปได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายแบบ คือ ต้องดูว่าอะแดปเตอร์ (Adapter) เป็นของเราหรือไม่ หรือไม่เสียบชาร์จตามที่สาธารณะหรือไม่ เพราะก็มีเรื่องของการดูดข้อมูล เวลาไปเสียบตามที่สาธารณะ ตัวที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้เป็นอุปกรณ์ตัวนึงที่เอาไว้ดักรับข้อมูล อีกปัจจัยคือเป็นเรื่องของการถูกดักข้อมูล เช่นว่า ลงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ลงไปในเครื่องแล้วเกิดการแอบเก็บหรือจดจำข้อมูลในขณะที่ใช้งาน

ส่วนกรณีของคุณวิษณุ หรือคุณป็อก ซึ่งได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวว่าตัวเองถูกดูดเงินจากโทรศัพท์มือถือออกจากบัญชี ขณะที่กำลังชาร์จแบตโทรศัพท์อยู่ ทำให้สูญเงินไปกว่า 101,560 บาท โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีการกดลิงก์ใด ๆ เลย และย้ำว่าไม่รู้จักกับบัญชีปลายทาง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถูกมิจฉาชีพควบคุมโทรศัพท์

เมื่อถามว่าจะมีวิธีไหนที่สามมารถป้องกันและทำให้ข้อมูลเกิดความปลอดภัย คุณณัฐ ระบุว่า จริง ๆ แล้วหากถามว่าจะทำให้ปลอดภัยอย่างไร หากเป็นแอปฯเหล่านี้มองว่าค่อนข้างยาก แต่ทันทีที่รู้สึกว่าเครื่องเราหน่วง ผิดปกติ สิ่งที่ไม่ควรทำก็คือ อย่าเพิ่งใช้แอปฯเกี่ยวกับธนาคารหรือธุรกรรมทางการเงิน ต้องหยุดไว้ก่อน

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ว่าในปัจจุบันมิจฉาชีพมาในหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดมีแฮกเกอร์หัวใสดัดแปลงสายชาร์จให้ดูดข้อมูลได้ ฉะนั้นควรเลี่ยงยืมสายชาร์จของคนไม่รู้จักมาชาร์จมือถือ

โดยระบุไว้ว่า "ตามภาพนี้ คือสายชาร์จไอโฟน ที่ทีมแฮคเกอร์ดัดแปลงข้างใน ให้สามารถดูดข้อมูลจากเครื่องเหยื่อได้ สมมติมีคนใช้สายนี้เสียบชาร์จ ก็จะสามารถดูดข้อมูลในเครื่องนั้นได้ โดยตัวสายมันจะมีอุปกรณ์ในการดักจับข้อมูล

ดังนั้นฝากพ่อแม่พี่น้อง ตอนนี้มิจฉาชีพมาทุกรูปแบบ และไอ้สายชาร์จของมิจฉาชีพนี่ก็มีขายทั่วไปในท้องตลาด หน้าตาภายนอกแยกจากสายชาร์จไม่ออก ดังนั้นเวลาจะชาร์จมือถือ ใช้สายใครสายมัน อย่ายืมสายคนแปลกหน้ามาใช้"

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/weeke...
-------------------------
#เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ (Morning Weekend News)
วันที่ 15 มกราคม 2566

ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

#3PlusNews #Ch3Plus #ข่าวช่อง3

Комментарии

Информация по комментариям в разработке