Скачать или смотреть “ลุ้นได้...ออมด้วย”...“หวยเกษียณ” ขายแน่! ปลายปี

“ลุ้นได้...ออมด้วย”...“หวยเกษียณ” ขายแน่! ปลายปี

หลังจากตั้งลำมานานนับปี กับ “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” ซึ่งได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ร่วมกับ ก.คลัง และคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ได้เดินหน้าจัดกิจกรรม “ศุกร์ได้ลุ้น-สุขได้ออม กับหวยเกษียณ” เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ และความเข้าใจ เตรียมความพร้อมของ “หวยเกษียณ” ที่คาดว่า จะเปิดขายได้ในช่วงปลายปีนี้
“หวยเกษียณ” ถือเป็นนวัตกรรมการออมที่ได้ประโยชน์สองต่อ ต่อแรกคือได้ลุ้นเงินล้านทุกสัปดาห์ และต่อที่สอง คือทุกบาทที่ซื้อกลายเป็นเงินออม ทำให้การออมกลายเป็นเรื่องสนุกและได้ลุ้นล้านทุกศุกร์ ที่สำคัญเงินต้นไม่หาย และยังมีผลตอบแทนเพิ่มจากการลงทุน เพื่อให้คนไทยทุกคนมีอนาคตทางการเงินที่มั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อรองรับการเกษียณ และการเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับหลักเกณฑ์ และลักษณะของ “หวยเกษียณ” ประกอบด้วย
1. เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท เพื่อขายให้กับประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทย และมีอายุ 15 ปี ขึ้นไป และซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน
2. สามารถซื้อหวยเกษียณได้ทุกวัน ออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันทีผ่าน “พร้อมเพย์” ซึ่งสามารถนำออกมาใช้ได้เลย โดยที่เงินค่าซื้อสลากทั้งหมด จะถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชีส่วนตัวของตนเอง แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม
3. รางวัลออก “ทุกวันศุกร์” กำหนดดังนี้
3.1. รางวัลที่ 1 (เป็นเลข 6 หลัก) รางวัล 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
3.2. รางวัลที่ 2 (เป็นเลขหน้า 3 ตัว และเลขท้าย 3 ตัว) รางวัล 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
3.3. รางวัลพิเศษ (แจ็คพอต) 1 รางวัล (ถ้ามี)
4. หากในงวดใดที่รางวัลออกไม่หมด รางวัลที่ออกไม่หมดนั้นจะถูกทบยอดเป็นรางวัลพิเศษ (แจ็คพอต) ในงวดถัดไปทั้งหมดทันที
5.“เงินค่าซื้อสลากทั้งหมด จะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก” ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. และเมื่อผู้ออมอายุครบ 60 ปี จะคืนเงินทั้งหมดทุกบาท ทุกสตางค์ที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิต บวกกับผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ออม
6. ประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ซื้อได้ด้วยด้วย แต่ต้องออมไว้ 5 ปี หลังจากวันที่ซื้อครั้งแรก และสามารถซื้อได้ไม่จำกัดรอบ ทุกรอบต้องออมไว้ 5 ปี
7. หากเสียชีวิต เงินออมที่ซื้อหวยเกษียณทั้งหมดจะตกสู่ทายาทตามกฎหมาย หรือบุคคลที่ผู้ซื้อระบุไว้
แนวคิดของ “หวยเกษียณ” ที่รัฐบาลเดินหน้า มาจากฐานคิดหลัก ที่มองเห็นปัญหาสังคมไทย ที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับเมื่อไปดูตัวเลขเงินฝากของคนไทย พบว่า กว่า 112 ล้านบัญชี หรือกว่า 80% ของผู้มีเงินฝาก มีเงินในบัญชีเฉลี่ยไม่ถึง 50,000 บาท และดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณ พบว่า ตัวเลขความพร้อมด้านการเงิน ค่าเฉลี่ยของประเทศมีความพร้อมต่ำกว่า 40%
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลจากการรายงานของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ประจำปี 2023 พบว่า มีคนไทยประมาณ 21.9 ล้านคน ที่เสี่ยงโชคกับการพนันหวยใต้ดิน โดยมีเงินหมุนเวียนอยู่ในตลาดหวยใต้ดินในช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแทงหวยโดยตรงผ่านเจ้ามือ หรือคนเดินโพย การแทงผ่านเว็บพนัน หรือช่องทางออนไลน์ รวมกันแล้วมีมูลค่าสูงถึง 164,069 ล้านบาท
และเมื่อนำข้อมูลสองส่วนนี้ มาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รัฐบาลจึงมีแนวคิดเปลี่ยน “หวย” จากเครื่องมือเสี่ยงโชค มาเป็นเครื่องมือสร้าง “เงินออมระยะยาว” ซึ่งทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อหวย จะไม่มีวันหาย และที่สำคัญ เงินออมของประชาชนก้อนนี้ จะถูกนำไปลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อถึงเวลาถอนเงิน นอกจากจะมีเงินต้นครบถ้วน ยังมีเงินที่ได้จากการลงทุนเพิ่มมาด้วย
การสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินให้กับประชาชน โดยเอาพฤติกรรมที่ชอบเสี่ยงโชค มาเป็นแรงผลักดัน ถือเป็นโมเดลที่หลายฝ่าย มองว่า น่าจะตอบโจทย์กับบริบทสังคมไทย แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย หวั่นใจว่า "หวยเกษียณ" จะสร้างพฤติกรรมติดการพนันให้กับเยาวชน เพราะการดึงลูกค้าหน้าใหม่ ในวัย 15-16 ปี ที่ไม่อยู่ในช่วงวัยที่จะสะสมเงิน เพื่อรอใช้ตอนเกษียณ ถือว่ามันไกลเกินไป
แต่เมื่อรัฐบาลมั่นใจ และเดินหน้าผลักดัน “หวยเกษียณ” โดยหวังจะสร้างนิสัยการออม ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีการกำหนดกติกาชัดเจนในการซื้อหวยในแต่ละงวด
เมื่อเจตนาของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินให้กับประชาชน ถือเป็นนโยบายที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว จุดเริ่มต้นสำคัญคือ “ความคิด” ของประชาชนเองว่า จะเลือกรูปแบบใดเพื่อให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะหากประชาชนไม่สามารถบริหารความคิดของตนเองได้ แม้รัฐบาลจะออกมาตรการอะไรออกมา ก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน.