ผัวเมียใจสลาย แบงก์ยึดบ้านผิดหลัง ขนของขาย-เผาเกลี้ยง เกือบเดือนยังเงียบ โร่ร้องทนายช่วย

Описание к видео ผัวเมียใจสลาย แบงก์ยึดบ้านผิดหลัง ขนของขาย-เผาเกลี้ยง เกือบเดือนยังเงียบ โร่ร้องทนายช่วย

เจ้าของบ้าน สุดเศร้า ธนาคารบุกยึดบ้านผิดหลัง อยู่มา 14 ปี ถูกเจ้าหน้าที่มารื้อของหมดเกลี้ยง ใจสลาย เมื่อข้าวของแห่งความทรงจำถูกทำลาย แบงก์เตรียมแจงบ่าย 2 พรุ่งนี้ (4 ต.ค. 65)

ผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านเพจทนายคู่ใจ และส่งภาพคลิปเหตุการณ์ที่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินเข้าไปดำเนินการยึดบ้านผิดหลัง พร้อมกับเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน

ตั้งแต่ 9 นาฬิกากว่าๆ ชายคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร เดินลงจากรถ ก่อนที่จะเริ่มมีเจ้าหน้าที่เข้าไปในบ้าน ในคลิป จะเห็นควันสีขาว ซึ่งผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเผาสิ่งของในบ้าน จากนั้น ผู้รับเหมาก็เริ่มทำการรื้อต้นไม้ และเริ่มเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะนำป้ายสีชมพูมาติดว่า ห้ามบุกรุก ที่รั้วบ้าน

ในวันต่อๆมา ก็มีรถกระบะ ขับเข้ามา พร้อมชายหลายคน ที่นั่งอยู่ท้ายกระบะ ก่อนจะมีการเปิดประตูรั้ว และเข้าไปเก็บข้าวของในบ้าน และเคลียร์รอบๆตัวบ้าน และในบ้าน ทาสีรั้วใหม่ ซึ่งในวงจรปิดจะเห็นว่าภายในบ้านไฟถูกเปิด และมีคนอยู่ ซึ่งในช่วงสัปดาห์นั้นมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตลอดก่อนที่จะทยอยขนซากต้นไม้และข้าวของออกไปจนหมด เหลือแต่บ้านโล่งๆ

ในโพสต์ของผู้เสียหายที่ร้องเรียนทางเพจ ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ว่า กระทั่ง วันที่ 15 กันยายน เพื่อนบ้านสงสัยว่าทำไมมีป้ายติดประกาศว่าบ้านเป็นทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก และติดประกาศขาย แต่ในประกาศเป็นบ้านเลขที่ไม่ตรงกับหลังที่ถูกยึด เพื่อนบ้านเลยโทรติดต่อธนาคาร ไปเพื่อที่จะขอซื้อดู จึงได้รู้ว่าบ้านที่จะขายนั้นเป็นอีกหลังใกล้กัน

เพื่อนบ้านเลยโทรแจ้งว่า "จะขายบ้านหรอ เห็นคนมารื้อบ้านรีโนเวท และติดป้ายของธนาคาร" ซึ่งพอทราบเรื่องจากเพื่อนบ้านแล้ว จึงได้รีบเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น ซึ่งก็เห็นตามสภาพคือบ้านโล่งๆ ของถูกรื้อเอาออกไปจนหมดทุกอย่าง ประตูห้องครัว และประตูระเบียงถูกปิดล็อคโดยกุญแจของธนาคาร และก็ได้โทรแจ้งทางคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร คอลเซ็นเตอร์ก็รับเรืองไว้

วันที่ 16 กันยายน ได้ไปลงบันทึกแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจลาดหลุมแก้ว วันที่18 กันยายน ตำรวจก็ขอเข้ามาดูบ้าน ถ่ายรูปและตนก็ได้เอากุญแจชุดใหม่ไปคล้องไว้ที่หน้าบ้าน เพราะรั้วหน้าบ้าน ธนาคารเอากุญแจออกไปแล้ว

ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปแจ้งความได้ติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์อีกครั้งทราบว่ารับเรื่องไว้ และจะติดต่อกลับภายใน 3 วันทำการ แต่เนื่องจากมีคนที่รู้จักกับทางนิติกรของธนาคารจึงโทรไปแจ้งฝ่ายนิติกรว่ามีการยึดบ้านผิด และผู้รับเรื่องแจ้งว่าจะให้เจ้าหน้าที่นิติกรติดต่อมา

วันที่ 17 กันยายน มีเจ้าหน้าที่นิติกรโทรมาขอโทษและแจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคารจริงที่เข้าทำบ้านผิดหลัง และธนาคารแจ้งว่าจะให้ทางนิติกรเข้ามาคุย จึงนัดให้ไปพบและคุยที่สถานีตำรวจในวันที่ 20 กันยายน

ตนกับทางตัวแทนธนาคารได้มาเจรจาตกลงค่าเสียหายกัน เบื้องต้นประเมินไว้ประมาณ 2 ล้านบาท ธนาคารแจ้งว่าเป็นการเข้าทำผิดหลัง ไม่ได้มีเจตนาแต่อย่างใด ทรัพย์สินบางอย่างได้ถูกเก็บไว้ที่อีกที่หนึ่ง แต่บางอย่างได้ถูกทำลายไปแล้ว เช่น เสื้อผ้า หนังสือเก่า รูปภาพ ของสะสมต่าง ๆ รวมถึงของใช้ของลูกซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ ไม่สามารถหามาทดแทนได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้รับของที่เก็บไว้คืนก่อน แต่ยังแจ้งไปว่ายังไม่รับคืน และยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง

วันที่ 26-27 กันยายน ได้โทรสอบถามทางเจ้าหน้าที่นิติกร และทนายของธนาคาร ว่าได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากำลังรวบรวมรายการทำทรัพย์สินที่ธนาคารเก็บไว้เพื่อจะส่งคืน แต่ไม่ได้พูดถึงการชดใช้ค่าเสียหายใดๆ การติดต่อดำเนินการทุกอย่าง เป็นเจ้าของบ้านที่ต้องคอยติดต่อ สอบถามไปเอง ไม่ได้รับการใส่ใจในการแก้ปัญหาใด ๆ จากทางธนาคารเลย

ทีมข่าวลงพื้นที่บ้าน หลังเกิดเหตุ ในตำบลคลองพระอุดม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ก่อนที่คุณสมเกียรติ สร้อยสน เจ้าของบ้าน ได้พาทีมข่าวเดินดูภายในบ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่มีการเล่นระดับ ขนาด 84 ตารางวา ที่วันนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ บางส่วนที่หนัก และขนย้ายยากลำบากถูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

คุณสมเกียรติ บอกว่า ทรัพย์สินที่มีค่า ชิ้นเล็กๆ ถูกขนออกไปหมด ในห้องพระ ที่มีพระเครื่อง หิ้งพระ พระพุทธรูป ก็ถูกเอาเก็บไปเกือบทั้งหมด ห้องนอนของตน และภรรยา ก็ถูกรื้อ เอาของออกไปหมด เหลือเพียง รีโมทแอร์ที่ติดไว้ข้างกำแพง ขณะที่ต้นไม้รอบบ้านก็ถูกรื้อถอน ถางออกไปหมด ส่วนป้ายบ้านเลขที่พร้อมกับตู้ไปรษณีย์ ก็ถูกถอดออกไป เพื่อทาสีใหม่ และไม่นำมาติดไว้เหมือนเดิม

แต่ที่น่าเจ็บใจคือ ข้าวของที่มีคุณค่าทางจิตใจ อย่างรูปภาพครอบครัว ที่ถูกนำไปกองทิ้งไว้หน้าบ้าน หรือแม้แต่โมบาย ที่แขวนเปลลูก ซึ่งภรรยาทำเองกับมือก็ถูกทิ้งไป รวมถึงนิตยสารที่ภรรยาเก็บสะสมมายาวนาน และไม่สามารถหาได้อีกแล้ว ก็หายไปหมด

คุณสมเกียรติบอกว่า ปกติจะมานอนเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ตอนนี้พ่อภรรยาป่วย จึงไม่ได้เข้ามาที่บ้านหลายเดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่รับเหมาก็ใช้เวลาช่วงนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการรื้อทรัพย์สินในบ้าน และได้เข้ามานอนเปิดไฟอยู่ภายในบ้านหลายคืน

กระทั่งเพื่อนบ้านมาเห็นป้ายที่ปิดประกาศไว้ จึงลองโทรไปหาทางธนาคาร ซึ่งตอนนั้นธนาคารเพิ่งได้รู้ว่าดำเนินการผิดหลัง เพื่อนบ้านจึงรีบแจ้งตนเมื่อวันที่ 15 กันยายน จึงรีบเดินทางมาดู และเห็นว่ามีมีกุญแจของธนาคาร ล็อกเอาไว้ ตอนมาถึง ตกใจ และช็อก ยิ่งเห็นภาพลูกชายร้องไห้ หลังจากมาเห็นสภาพบ้าน



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruang...
---------------------------------------
รายการ #เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 3 ตุลาคม 2565
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์
ทางช่อง 33 HD เวลา 16.30 - 17.50 น.
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : http://www.3plusnews.com
facebook :   / 3plusnews  
Twitter :   / 3plusnews  
YouTube :    / 3plusnews  
TikTok :   / 3plusnews  

Комментарии

Информация по комментариям в разработке