9 อาหาร แก้การขับถ่ายยาก & ระบบย่อยอาหารไม่ดี

สวัสดีครับโค้ชเค Fitterminal.com เพื่อนๆกำลังเจอปัญหาขับถ่ายยาก เหมือนกับว่าระบบย่อยอาหารไม่ดีอยู่หรือเปล่าครับ?

ที่แบบว่าอาทิตย์หนึ่งบางทีถ่ายแค่ครั้งเดียว จนรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง และบางทีก็ถึงกับสิวขึ้นได้เลย

ถึงแม้ว่าจะกินน้ำวันละหลายลิตร ออกกำลังกาย และกินผัก แต่ก็ยังไม่ถ่ายหนัก จนเพื่อนๆบางคนก็อาจจะต้องมีการใช้อาหารเสริมหรือยาถ่ายเข้ามาช่วยช่วย

ปัญหานี้มันอาจจะกวนใจเพื่อนๆ จนทำให้เครียด และท้อที่จะลดความอ้วนได้

วันนี้ผมโค้ชเคจะมาแนะนำ 9 อาหารที่จะช่วยแก้ปัญหาขับถ่ายยาก และจะมีวิธีดีๆแนะนำตอนท้ายคลิปเช่นเคยครับ

ขับถ่ายยาก แก้ยังไง?
งานวิจัยพบนะครับว่า 14% ของคนทั่วไป จะเสี่ยงที่จะไม่มีการขับถ่าย หรือความถี่ในการขับถ่ายน้อยลง และผู้หญิงถือว่าเป็นเพศที่เสี่ยงที่สุดด้วย

ดังนั้นเพื่อนๆที่ไม่เคยมีปัญหาก็ควรป้องกัน และใครที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ ก็ควรค่อยๆแก้ครับ

ถ้าเพื่อนๆคนไหนถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่ออาทิตย์ และพอจะถ่ายได้ก็อาจจะขับถ่ายยาก ต้องนั่งนาน และรู้สึกอึดอัด นี่ก็คืออาการท้องผูกครับ (Constipation)

ปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารและการขับถ่ายนะครับ ส่วนใหญ่จะเกิดจากอาหารที่เรากิน การดื่มน้ำน้อย และการใช้ชีวิต เช่น มีความเครียดสูง และนอนน้อย เป็นต้น

เพื่อนๆหลายคนอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่ายมาตลอดชีวิต จนคิดว่าคงไม่มีทางรักษาหาย

แต่ข่าวดี คือ เราสามารถแก้ปัญหาอาการท้องผูก หรือไม่ขับถ่ายได้ด้วยอาหาร เรามาดูกันครับว่า อาหารทั้ง 9 อย่าง มีอะไรบ้าง

1. มันเทศ (Sweet Potatoes)
ความพิเศษของมันเทศอยู่ตรงที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารสูง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการแก้อาการท้องผูก

มัน 1 หัว ขนาดประมาณ 100-120 กรัม จะมีไฟเบอร์เกือบ 4 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับ 15% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันเลยทีเดียวครับ

มันเทศยังมีเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายในน้ำสูง และงานวิจัยเขายืนยันมาเลยครับว่า พอเรากินเส้นใยอาหารชนิดนี้เข้าไป มันจะไปเร่งการขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้อุจาระจับกันเป็นก้อนได้ดีด้วย

เพื่อที่จะจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้พอดี ไม่ให้มีผลต่อน้ำหนัก และเพื่อที่จะได้เส้นใยอาหารไปช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย ผมแนะนำให้กินมันเทศประมาณแค่วันละ 200 กรัมเท่านั้น

ส่วนมันนะครับ ผมแนะนำให้ย่าง อบ ต้ม หรือนึ่งดีกว่า แล้วเราสามารถเอามากินแทนข้าว หรือเป็นเครื่องเคียงได้ครับ

2. รำข้าวโอ๊ต (Oat Bran)
รำข้าวโอ๊ตหรือเส้นใยบางๆที่คัดออกจากผิวของเมล็ดข้าวโอ๊ต จะมีเส้นใอาหารสูงมาก ในปริมาณแค่ 30 กรัม จะมีเส้นใยอาหารมากถึง 4.8 กรัม

งานวิจัยที่ให้ผู้เข้าทดลองที่เป็นผู้สูงอายุ 50 คน กินคุ้กกี้รำข้าวโอ๊ตวันละ 2 ครั้ง พบว่า พอกินไปครบ 12 อาทิตย์ อาการท้องอืด และขับถ่ายยากดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จริงๆแล้วนักวิจัยที่ออสเตรเลียเขาพบว่า แค่เรากินรำข้าวโอ๊ตวันละ 7-8 กรัม ก็จะช่วยแก้ปัญหาอาการท้องผูกได้แล้วครับ

สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่หารำข้าวโอ๊ตยาก อาจจะซื้อข้าวโอ๊ตแบบเต็มเม็ดมากินแทนก็ได้ครับ

3. คีเฟอร์ (Kefir)
คีเฟอร์หรือนมหมัก เป็นโปรไบโอติกส์ชั้นดีที่มีแบคทีเรียที่จะไปช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานดีขึ้น

คีเฟอร์มาจากภาษาตุรกีแปลว่า “รสชาติอร่อย” แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าคีเฟอร์จะมีรสชาติออกไปทางเปรี้ยวเลย

งานวิจัยพบว่า คนป่วยที่เคยกินยาถ่ายมาก่อน พอได้กินคีเฟอร์วันละ 500 มิลลิตร ก็สามารถถ่ายเองได้สม่ำเสมอและดีขึ้น

เพื่อให้กินคีเฟอร์ได้ง่ายขึ้นนะครับ ผมแนะนำให้กินกับผลไม้ เช่น เราอาจจะปั่นกินกับสาลี่และถั่วอัลมอนด์ เป็นต้นครับ

4. เมล็ดเจีย (Chia Seeds)
เมล็ดเจียถือว่าเป็นหนึ่งในพืชที่มีเส้นใยอาหารสูงที่สุด เพราะในปริมาณแค่ 28 กรัม มีเส้นใยมากถึง 10.6 กรัม หรือ 42% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

และที่สำคัญ 85% ของเส้นใยอาหารที่ได้ คือ ชนิดไม่ละลายในน้ำ ที่จะไปช่วยให้เราขับถ่ายได้ดีขึ้นด้วย

เมล็ดเจียพอไปรวมกับน้ำก็จะจับตัวกันเป็นเจล ทำให้การขับของเสียออกจากลำไส้ง่ายขึ้นเลยทันที

เมล็ดเจียสามารถดูดซึมน้ำได้เพิ่มถึง 12 เท่าตัว ทำให้พอเราเอาไปแช่น้ำหรือนมไว้ จะทำให้เรากินง่ายขึ้นเหมือนพุดดิ้งเลย

ท้ายสุดเมล็ดเจียก็กินง่ายมากครับ เพื่อนๆสามารถเอาไปโรยหน้าขนมปัง กินกับข้าวโอ๊ตตอนเช้า หรือจะปั่นกับผลไม้เป็น Smoothie ก็ได้เหมือนกัน

อ่านบทความเต็ม: https://bit.ly/31ehDDm

ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายอยากลดน้ำหนัก ลดไขมัน อยากมีหุ่นในฝัน ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต

แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ FREE ครับ

#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ออกกำลังกายหลังคลอด
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: https://lin.ee/oUroe8R
Fitterminal Facebook: http://bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: http://bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: http://bit.ly/2GKOWDa

Brolls: https://www.pexcel.com https://www.freepik.com https://www.coverr.com https://www.pixabay.com