125 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทยยกระดับคุณภาพการเดินทาง พัฒนาระบบราง เชื่อมโยงการคมนาคมสู่ทุกภูมิภาค

จากจุดเริ่มต้นแห่งสายพระเนตรอันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงวางรากฐานการคมนาคมขนส่งทางราง นับจากนั้น การรถไฟแห่งประเทศไทย ถือเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันให้การขนส่งทางรางเป็นระบบหลักในการเดินทางและขนส่งของประเทศเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมขนส่งที่มีความทันสมัยในภูมิภาคอาเซียน เสริมสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินงานภายใต้นโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อยกระดับคุณกาพการเดินทางระบบรางอย่างต่อเนื่อง ตอบรับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการคมนาคมขนส่งที่เน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดให้ระบบรางเป็นแกนหลักในการเดินทางและขนส่งของประเทศ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันจะสามารถเห็นรูปแบบการเดินทางระบบรางทั้งในเมืองและนอกเมืองที่เปลี่ยนไป อาทิ การเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดและลดระยะเวลา
ในการเดินทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้เวลาเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีรังสิต
เพียง 25 นาที และจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีตลิ่งชัน เพียง 15 นาที เท่านั้น
การเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อศูนย์กลางการเดินทางที่ทันสมัย ซึ่งมีศักยภาพเทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก เป็นสถานีรถไฟหลักแห่งใหม่ของไทย ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมทุกรูปแบบ ทั้งทางบก ทางราง และทางอากาศนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการเดินทางของประชาชน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงสนับสนุนการขยายตัวของเมือง และพื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง ให้คนไทยเดินทางได้อย่างทั่วถึงด้วยบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งขบวนรถไฟทางไกล รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟนำเที่ยวในวันหยุด โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารูปแบบการเดินทางระบบรางไปสู่อนาคต
• ให้คนไทยเดินทางได้อย่างเท่าเทียม ด้วยการใช้หลักอารยสถาปัตย์ หรือ Universal Design ทั้งในบริเวณสถานีและตู้โดยสารรถไฟ ให้ผู้โดยสารทุกคนใช้บริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ทันสมัย และเท่าเทียม
• เพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ด้วยรถไฟทางคู่ ซึ่งการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางไกลเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินงานอย่างเร่งด่วนเพื่อรองรับนโยบายการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า โดยปรับปรุงพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถไฟทางเดี่ยวให้เป็นรถไฟทางคู่เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งทางราง รองรับจำนวนผู้โดยสาร และปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งลดระยะเวลาและต้นทุนการเดินทางของประชาชน พร้อมเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• พาคนไทยไปไกลยิ่งขึ้น ด้วยแผนการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ และ ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม เชื่อมโยงการคมนาคมในจังหวัดสำคัญ และการเดินทางระหว่างประเทศ ช่วยลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพของการขนส่งทางรถไฟ ลดระยะเวลาการเดินทาง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เชื่อมโยงเครือข่ายการบริหารจัดการขนส่งด้านโดยสาร สินค้า และบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และระหว่างประเทศเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ยกระดับความปลอดภัยเพิ่มความอุ่นใจให้ทุกเส้นทาง พัฒนาระบบอาณัติสัญญาณไฟสีทั่วประเทศ ก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟแบบต่างระดับเพื่อลดอุบัติเหตุ
• เดินหน้าสู่ชีวิตยุคดิจิทัลด้วยบริการที่ทันสมัย ระบบจำหน่ายตั๋ว D – Ticket เพิ่มความสะดวกสบายในการจองตั๋วโดยสาร ตรวจสอบวันและเวลาการเดินรถได้แบบ Real-Time ผ่าน Train Tracking System เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G กับสถานี Smart Stationอีกทั้งดำเนินงานตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของกระทรวงคมนาคม
• ขับเคลื่อนทุกขบวนด้วยบุคลากรคุณภาพ พนักงานการรถไฟฯ ทุกคน มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพการทำงานเพื่อให้บริการที่ดีแก่ผู้โดยสารทุกคน
• ให้เศรษฐกิจไทยก้าวไกล ด้วยบริการขนส่งสินค้าทางรางที่มีต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน มีการพัฒนาย่านกองเก็บของและขนถ่ายตู้สินค้า หรือ Container Yard และสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง เพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนด้าน Logistic ให้กับผู้ประกอบการ
• ส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
ในโครงการต่าง ๆ การพัฒนาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สถานีกลางบางซื่อ การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สิน อันจะนำมาซึ่งการกระตุ้นให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับประเทศ
วันที่ 26 มีนาคม 2565 การรถไฟแห่งประเทศไทย มีอายุครบ 125 ปี ซึ่งถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้น
ที่พร้อมจะเดินหน้าต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวเป็นผู้นำระบบรางและศูนย์กลางการเดินทางของประเทศมอบการบริการอันประทับใจให้กับผู้ใช้บริการ เพื่อพาคนไทยไปสู่จุดหมายที่ไกลยิ่งขึ้น นำพาทุกคนสู่การเดินทางรูปแบบใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางไปยังทุกจุดหมายปลายทางอย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมการพัฒนาประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืนสืบไป
เพราะชีวิตคือการเดินทาง เราจึงพัฒนาระบบราง เชื่อมโยงเครือข่ายการคมนาคม เพื่อให้คนไทยเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง