ลุงวัย 70 ปี คิดค้นเครื่องผลิดไฟฟ้าไม่ง้อแสงอาทิตย์ หวังอยากเจอหน้าลูกๆ

Описание к видео ลุงวัย 70 ปี คิดค้นเครื่องผลิดไฟฟ้าไม่ง้อแสงอาทิตย์ หวังอยากเจอหน้าลูกๆ

เผยชีวิตสุดพลิกผันอดีตนายช่างวัย 70 ปี คิดค้นเครื่องผลิตไฟฟ้า หวังจุดประกายแนวคิดให้คนรุ่นใหม่ ทดแทนคุณแผ่นดิน และหาทุนไปตามหาลูกสาว 2 คน หลังไม่เจอหน้ากันกว่า 40 ปี อยากเจอหน้าลูกๆ ตอนยังมีลมหายใจ

วันที่ 24 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามข่าวกรณีลุงวัย 70 ปี คิดค้นเครื่องผลิตไฟฟ้าโดยไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งเป้าให้คนยากไร้ห่างไกลความเจริญได้มีไฟฟ้าใช้ และหาทุนในการตามหาลูกสาว 2 คน ที่ไม่เจอหน้ากันมาเกือบ 40 ปี หลังเมียเก่าพาย้ายไปอยู่อเมริกา

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหัวดอย เลขที่ 81 ม.11 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย เพื่อพบกับนายเศรษฐา หรือชื่อเดิมคือ ชัยมงคล เวียงนนท์ หรือ "ลุงชัย" อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นผู้คิดค้นอุปกรณ์ชาร์ตไฟฟ้าโดยไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ได้เล่าแนวคิดในการพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าวว่า อุปกรณ์ที่ตนคิดค้นขึ้นเรียกว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับชาร์ตไฟฟ้าโดยไม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีหลักการทำงานคือใช้แบตเตอรี่ไปกระตุ้นให้มอเตอร์ไปหมุนสายพานไดนาโมให้ทำงานสร้างกระแสไฟเข้าไปที่เครื่องชาร์จเจอร์ ก่อนจะส่งกระแสไฟฟ้ากลับเข้ามาที่แบตเตอรี่ และสามารถนำไฟฟ้ามาใช้งานผ่านเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าหรืออินเวอร์เตอร์ สามารถต่อพ่วงอุปกรณ์หลายชนิดได้ในครั้งเดียว เช่น ทีวี ตู้เย็น พัดลม หรือหลอดไฟ แต่หากจะนำไปใช้กับเครื่องปรับอากาศจะต้องสร้างไดนาโมให้มีขนาดขดลวดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะได้พัฒนาต่อไปในอนาคต

ลุงชัยได้เล่าถึงแนวคิดแรกเริ่มว่า อยากจะให้ทุกครัวเรือนได้มีไฟฟ้าใช้ เพราะทุกวันนี้บางชุมชนในพื้นที่ห่างไกลบางแห่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ บางบ้านที่พอมีฐานะอาจจะซื้ออุปกรณ์โซล่าเซลล์มาติดตั้ง แต่โซล่าเซลล์ก็ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง และราคาสูง จึงมีแนวคิดที่อยากจะพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้น และอยากจะหาทุนในการไปตามหาลูกสาว 2 คน ที่อดีตภรรยาพาย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นความฝันที่อยากเห็นหน้าลูกสักครั้งก่อนตาย หลังไม่พบหน้ากันมากว่า 39 ปี

โดยลุงชัยได้เล่าถึงจุดพลิกผันของชีวิต และเป็นสาเหตุให้ครอบครับต้องแยกจากกันว่า บ้านเดิมเป็นจังหวัดร้อยเอ็ด แต่พ่อแม่อพยพมาอยู่เชียงรายเมื่อประมาณปี พ.ศ.2508 ได้มาเรียนอยู่ที่เชียงรายอยู่ 2 ปี ก่อนจะไปเรียนต่อที่เทคโนตีนดอย เชียงใหม่ หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ในสาขาวิชาช่างกลโลหะ เมื่อจบออกมาก็มีโอกาสได้รับราชการเป็นนายช่างเทคนิคอุตสาหกรรม สังกัดกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไต่เต้าจนเป็นถึงนายช่างอุตสาหกรรม 4 แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตเริ่มตอนอายุประมาณ 25-26 ปี ได้มีโอกาสไปทำงานตามพื้นที่ชายแดนเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ให้เปลี่ยนใจมาร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) โดยไปให้ความรู้ทางช่างอุตสาหกรรมเพื่อให้ชาวบ้านจะได้มีความรู้ มีอาชีพ แต่เมื่อลงไปเห็นสภาพปัญหาที่ชาวบ้านต้องเจอ ทั้งเรื่องข้าวยากหมากแพง และความไม่เท่าเทียมต่างๆ จึงเกิดแนวคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างดีขึ้น จึงเข้าไปเป็นแนวร่วมในการปล้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อโดนจับกุมก็เจอ 2 ข้อหาหนัก ทั้งยึดอากาศยานขณะทำการบิน และยึดท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เจอโทษประหารชีวิตทั้ง 2 ข้อหา แต่ได้ลดโทษเหลือ 107 ปี 2 เดือน ติดจริงอยู่ 8 ปี 4 วัน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2526-2534 เพราะได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สร้างความปลาบปลื้มใจอย่างหาที่สุดไม่ได้มาจนทุกวันนี้

แต่โทษจำคุกดังกล่าว ยังส่งผลตามมา เพราะภรรยาได้พาลูกสาว ซึ่งขณะนั้นคนโตอายุได้ 6 ขวบ และคนเล็กอายุ 4 ขวบ ย้ายที่อยู่ไปประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่นั้น ก่อนที่ภรรยาจะมาขอฟ้องหย่าตอนที่อยู่ในคุก ด้วยเหตุผลว่าทำให้เขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ตอนนั้นจึงได้ถามอดีตภรรยาว่าพาลูกไปอยู่ไหน อดีตภรรยาก็บอกว่าย้ายไปอยู่ที่เมืองโซเล็กซ์ซิตี้ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอนออกจากเรือนจำมาใหม่ๆ ลุงชัยก็เคยได้ไปตามหาญาติของฝั่งอดีตภรรยา ที่แถวบริเวณดอนเมือง เพื่อสอบถามข่าวคราวลูกสาว แต่ก็ไม่ได้เจอใคร ตอนนี้ผ่านมา 39 ปี ลูกสาวคนโตคือ น.ส.วรางคณา และคนเล็กคือ น.ส.ชลลดา นามสกุลเดิมคือ "เวียงนนท์" แต่คาดว่าตอนนี้น่าจะเปลี่ยนไปตามนามสกุล "โอเวียต" ของทางครอบครัวใหม่ ตอนนี้ลูกคนโตน่าจะอายุ 45 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 43 ปี

เมื่อช่วงแรกที่ออกจากคุกและไปตามหาเบาะแสของลูกสาวไม่เจอ ลุงชัยก็ละความพยายามไประยะหนึ่ง และเดินทางกลับมาอยู่ที่ จ.เชียงราย ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ในที่ดินของพี่สาวบุญธรรมที่บ้านหัวดอย แต่พี่สาวก็มาตายจากไปเมื่อเดือนก่อน ก็ไม่รู้ว่าทางครอบครัวของพี่เขยจะเมตตาให้อยู่ยาวนานไปถึงไหน แต่ตอนนี้อายุเยอะขึ้น ก็หวังจะใช้ความรู้ที่มีสร้างสิ่งที่มีประโยชน์เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน และหาทุนตามหาลูกสาว อยากจะเจอหน้าสักครั้งเมื่อตอนยังมีลมหายใจ

"หากว่าลูกมีโอกาสได้เห็นข่าวคราว อยากจะบอกกับลูกๆว่า พ่อยังไม่ตาย ยังคงมีชีวิตอยู่ คิดถึงลูกๆมาก อยากให้ลูกมาหาพ่อบ้าง อยากเห็นหน้าลูกก่อนตาย" ลุงชัย กล่าว

ลุงชัยกล่าวเสริมว่า เคยอยากไปตามหาลูกๆที่อเมริกา แต่ตอนออกคุกมาใหม่ๆ ด้วยความที่เคยติดคุกจากการปล้นอากาศยาน หรือ "ไฮแจ็ค" เขาจะไม่ให้ขึ้นเครื่อง ตอนนี้มีความหวังเดียวก็คือ ให้ลูกสาวกลับมาเยื่ยมเยือนพ่อบ้างเท่านั้น

ส่วนสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นมาได้ ถ้าลูกสาวต้องการ ลุงชัยก็จะยกให้เป็นมรดกก่อนตาย แต่หากไม่ต้องการ แต่มีคนรุ่นใหม่ที่อยากจะนำไปต่อยอดพัฒนาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินตนก็ยินดียกให้ เพราะวัตถุประสงค์ในการพัฒนาก็เริ่มมาจากการอยากแทนคุณแผ่นดิน อยากนำความรู้ที่มีจุดประกายให้คนรุ่นใหม่นำไปต่อยอดได้ และส่วนหนึ่งก็เพื่อหาทุนในการตามหาลูกสาวทั้ง 2 คนด้วย

Комментарии

Информация по комментариям в разработке