ทดสอบ MS VS HEV น้ำมันถังเดียววิ่งถึงจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ขับแบบใช้งานจริง ทางไกลประหยัดแค่ไหน

Описание к видео ทดสอบ MS VS HEV น้ำมันถังเดียววิ่งถึงจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ขับแบบใช้งานจริง ทางไกลประหยัดแค่ไหน

‪@Carinner‬ ทดสอบขับทางไกล MG VS HEV ขุมพลังไฮบริด เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 650 กม.

วัดอัตราสิ้นเปลือง ชาเลนจ์กับตัวเราเองน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล 1 ถัง 48 ลิตร ขับถึงเชียงใหม่หรือไม่

เรื่องหน้าตาความทันสมัย คงไม่ต้องพูดถึง เพราะสวยเด่นสะดุดตากับการออกแบบด้านหน้าใหม่ กระจังหน้าสไตล์รถไฟฟ้า ขนาดตัวรถอยู่ในกลุ่ม B-SEGMENT ราคาค่าตัว รุ่นท็อป (x) คันนี้ตังไว้ 919,000 บาท มีทางเลือกสำหรับรุ่นเริ่มต้นหรือ รุ่น D ราคา 869,000 บาท ราคาต่างกัน 60,000 บาท

ดูจากราคาจำหน่าย ขยับอีกนิด ได้รุ่นพี่ หุ่นอวบตัวใหญ่อย่าง MG HS หรือจะว๊าวกับรถไฟฟ้าอย่าง MG4 ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในตอนนี้ เพราะมีราคาค่าตัวที่ไม่ต่างกันมาก เป็นเงาที่เข้ามาบดบังเจ้า MG VS HEV พอสมควร ยิ่งภาครัฐสนับสนุนการซื้อรถไฟฟ้า ยิ่งทำให้คู่แข่งของ VS HEV มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม 3-5 ปีนี้ สัดส่วนการเติบโตในตลาดรถยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฮบริดก็ยังมีมากกว่ารถไฟฟ้าอยู่ดี แม้ว่าอนาคตรถไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่รถยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฮบริด ในจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ หรือมากขึ้นทุกๆ ปีก็ตาม

เชื่อว่ารถยนต์ไฮบริด จะเป็นสะพานในการเชื่อมต่อของผู้บริโภค ที่ยังไม่มั่นใจ ไม่คุ้นเคย ไม่พร้อมที่เปลี่ยนผ่านไปยังรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

สำหรับขุมพลังที่ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT

ได้ขับทางไกล รู้สึกได้เลยว่า เครื่องยนต์ไฮบริดบล็อกนี้ เป็นเครื่องยนต์ที่มีการปรับเซ็ทได้ดีมากรุ่นหนึ่ง การทำงานของเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และ เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ดูต่อเนื่องและราบลื่นมากๆ คล้ายกับขับรถไฟฟ้า เช่นเดียวกับการตอบสนองอัตราเร่งต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว เดินคันเร่งเบาๆ รถก็ออกตัวพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

อัตราเร่งที่เคยทำการทดสอบไว้ 0-100 กม. วัดได้ 8.1 วินาที ตัวเลขใกล้เคียงกับบริษัทผู้ผลิต ช่วงเร่งแซงต่างๆ และช่วงเร่งทางยาว 0-160 กม./ชม. วัดได้ประมาณ 24 วินาที เท่านั้น เรียกว่าเป็นรถที่แรงจัดจ้านในย่านนี้เลยทีเดียว

เช่นเดียวกับการบังคับควบคุมพวงมาลัย ได้พวงมาลัยไฟฟ้าและข่วงล่างที่นุ่มสบายมาให้ ทำให้รถคันนี้ เป็นรถที่ขับได้ดีในสไตล์รถครอบครัวอีกรุ่น รวมถึงประสิทธิภาพเบรก ถ้าดูจากผลทดสอบ ก็ต้องโล่ห์ให้กับรถรุ่นนี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับการขับทดสอบในทริปนี้

สิ่งที่ผมชอบเลยคือ มันสามารถขับทางไกลได้สบาย ไม่เมื่อยล้าและให้อัตราเร่งที่ดีมากๆ แม้ว่าทริปนี้เป้าหมายหลักจะลองวัดอัตราสิ้นเปลืองเป็นหลัก แต่ก็ยังมีบางจังหวะที่จะต้องเร่งแซง รวมถึงช่วงขึ้นขุนตาล ซึ่งจุดนี้ทำให้เราได้สัมผัสกับการบังคับควบคุมรถที่ชัดเจนมาก ขั้น/ลงเขา โค้งสลับซ้าย/ขวา ตัวรถยังนิ่ง สอดรับกันกับการทำงานของขุมพลังไฮบริด ใน VS HEV รุ่นนี้ ที่ดูโดดเด่น ร้อนแรงตั้งแต่ออกตัว คะแนนในเรื่องสมรรถนะและการขับขี่ คงจึงแทบไม่โดนตัดเลย

ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย สรุปว่า ผมเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ย่านดอนเมือง ไปยังตัวจังหวัดเชียงใหม่ ขับแบบใช้งานทั่วไป ความเร็วเป็นไปตามกฎหมายกำหนด แวะทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง

ระยะทางที่วิ่งจนถึงตัวจังหวัดเชียงใหม่ 650 กม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ทำได้ถึง 19.2 กม./ลิตร ใกล้เคียงกับเพื่อนร่วมทางของเราอีก 1 คัน ที่วิ่งมาด้วยกัน ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในทริปนี้ได้ประหยัดถึง 19.6 กม./ลิตร ทำการเติมน้ำมันลงไปเต็มถังอีกครั้ง ใช้น้ำมันไป 32.3 ลิตร นำไปหารกับระยะทางดู พบว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 20 กม./ลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับจอ MID ของมาตรวัดเรือนไมล์ ใช้เวลาในการขับจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ประมาณ 8.30 นาที ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทางประมาณ 80 กม./ชม.

ทั้งหมดคือความประทับใจของรถรุ่นนี้ที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนจุดที่ยังอยากได้เพิ่มเติมคือระบบความปลอดภัยชั้นสูง แม้ว่าจะให้มาถึง 12 ระบบแล้ว แต่ก็ยังอยากได้เพิ่มเติมอีก เพราะน่าจะเป็นจุดขายของ MG ยุคนี้ไปแล้ว ภาพรวมมันคือ B-SUV ที่ดีน่าใช้ในตลาดอีกรุ่น และเป็นเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ที่ผมเองอยากจะให้นำมาใช้ใน MG5 และในรุ่นอื่นๆ อีก.

#MGVSHEV #MG #mgthailand

Комментарии

Информация по комментариям в разработке