Скачать или смотреть หักดิบ เปลี่ยนพฤติกรรมสู้เบาหวาน

2. นายพันธ์ทวี หนองกาวี ลูกจ้าง อบต.ป่าแดง หักดิบเปลี่ยนพฤติกรรมเมื่อเข้าใจ....สู้เบาหวาน
คุณต่ายเป็นคนทำงานในท้องถิ่น อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 10 ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ เป็นลูกจ้าง อบต.ป่าแดง และยังมีงานอดิเรกคือการลับคมปัตตาเลี่ยนเครื่องมือตัดผมเพราะเคยเป็นช่างตัดผมมีความชำนาญในการตัดผมและซ่อมเครื่องมือ จนกลายเป็นอาชีพเสริมที่ดีหาคู่แข่งยาก ด้วยเป็นคนหนุ่มทำงานหลายอย่าง แถมยังต้องดูแลแม่อายุมากที่บ้าน ทำให้เวลาในการใส่ใจด้านอาหารและการดูแลตนเองลดลงไป เรียกว่า คนยุคใหม่มีของรับประทานได้ทุกที่สะดวก ง่าย แต่ระยะยาวทำให้ร่างกายของคุณต่ายเริ่มผิดปกติ ในชุมชนบ้านหนองแขม อสม. รพ.สต.ป่าแดงมีการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานความดันประจำปี พบว่า ต่ายกำลังเดินเข้าไปสู่กลุ่มเสี่ยงเบาหวาน มีน้ำตาลในเลือดสู่ขึ้นผิดปกติอยู่ที่ 118 mg/dL
ความกังวลมีอยู่ในตัวพยายามหาทางแก้เหมือนกันแต่การงานและความเคยชิน(พฤติกรรม)ทำให้หาทางออกไม่ได้ แต่ก็มาเจอกับ อสม.ประจำหมู่บ้านชวนมาลองเข้าโครงการอบรม 5 เดือน ภายใต้การดูแลร่วมกันการปรับตัวด้วยการกลับไปกินอาหารแบบเดิมๆ ในหมู่บ้าน (แบบภูมิปัญญา) คุณต่ายรู้สึกสนใจเพราะทำงานไปก็คิดไปถึงวิธีการแก้ไขเบาหวานที่กำลังรออยู่ข้างหน้า ต่ายยินดีเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชากรกลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
จากนั้นคุณต่ายก็ได้รับคำเชิญและก็ร่วมอบรมกับคณะกรรมการโครงการติด่ต่อกัน 5 ครั้งในระยะเวลา 5 เดือนภายใต้การควบคุมผ่านกลไกเพื่อนบ้าน อสม.และกลุ่มไลน์ คุณต่ายบอกว่า “โชคดีได้มีโอกาสไปฟังความรู้จากผู้รู้ แล้วนำมาปฏิบัติ มันไม่ยากเลยถ้ามีความพยายาม หลังจากอบรมครั้งที่ 2 เดือนที่ 2 ก็รู้สึกมั่นใจที่จะปฏิบัติ” ต่ายบอกอีกว่า “ครั้งแรกเราได้รับประสบการณ์ตรงจากผู้ป่วยที่ปฏิบัติตัวแล้วหายป่วย อาจารย์นิรันดร เขามีความรู้และความพยายามมาก เขาก็มีงานมากด้วยแต่ก็ยังปฏิบัติ แบ่งเวลามาออกกำลังกาย เดินถอดเสื้อในสวนรับแสงแดด หยุดกินอาหารทันสมัยหันมากินอาหารบ้านๆ เช่น ไข่ต้ม ผักลวก แกงเมืองๆ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ฟังแล้วก็รู้เลยว่า เราไปตามกระแสสังคม อาหารที่หาง่ายในท้องตลาดจากอุตสาหกรรม กินกันมาอย่างยาวนานโดยลืมกินอาหารพื้นเมือง ลืมผักข้างบ้าน เมื่อได้ฟังวิทยากรแล้วก็พยายามทำตาม มีทีมพี่เลี้ยงมาคอยกระตุ้นด้วย ก็มีส่วนที่ต้องทำแล้วโพสต์อาหารลงในกลุ่มไลน์ มาถึงเดือนที่ 2 ได้รับทราบว่างานวิจัยอาหารตำรับพื้นบ้านถูกหลักโภชนาการไม่ขาดสารอาหารอย่างที่เขาพูดกัน มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมาจึงมั่นใจวิธีการจัดการกับโรคเบาหวานด้วยภูมิปัญญาสุขภาพ”
จากนั้นต่ายที่เป็นคนทำอาหารเอง เริ่มมองหาเมนูพื้นบ้านมาทำ เมื่อทำกินแม่ที่บ้านก็ได้กินด้วย พอได้ทำอาหารท้องถิ่นเช่นน้ำพริกอีเก๋ น้ำพริกจิ้งกุ่ง น้ำพริกหนุ่ม แกงแค แกงผักต่างๆ จึงรู้สึกว่า ต้องใส่ผักโน่นนิด นี่หน่อย ไปซื้อก็หายาก เลยต้องปลูกเพิ่ม ปัจจุบันผักพื้นบ้านถูกหามาปลูกมากขึ้น จนมีผักให้เก็บกินไม่ขาดและไม่ซ้ำกัน กินอย่างหลากหลาย ปลอดสารพิษ กินง่าย ทำง่าย ถ้ามีผักครบในรอบๆ รั้วบ้าน วันนี้ต่ายวัดค่าน้ำตาลในเลือดล่าสุด(เดือนสิงหาคม 2568)อยู่ที่ 104 mg/dL คุณต่ายมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถออกจากกลุ่มเสี่ยงในไม่ช้านี้ และที่สำคัญไม่เดินไปสู่การเป็นเบาหวานเหมือนเพื่อนบ้านอย่างแน่นอน/