วิ่งว่าว

สภาวัฒนธรรมตำบลพลับพลา ร่วมกับชาวบ้านตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้วยการจัดแข่งขันวิ่งว่าวดุ๊ยดุ่ย ที่รวมพลคนคนวิ่งร้อยเมตรให้เกิดเสียงอู๊ด ดังฟังชัด สำหรับการตัดสิน

พื้นที่กลางทุ่งนาโล่ง เจ้าของเป็นพื้นที่ของโรงน้ำแข็ง ใน ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ให้ใช้สถานที่แห่งนี้ เป็นจุดสำหรับการแข่งขันวิ่งว่าวดุ๊ยดุ่ย ที่ประชาชนตำบลแห่งนี้ ได้จัดประเพณีการวิ่งว่าเพื่อแข่งขัน เสียงดัง กังวานและฟังชัด มากว่า10ปีแล้ว

สำหรับในปีนี้นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รอง ผวจ.จันทบุรี ได้ร่วมกันจัดแข่งขันวิ่งว่าว ที่ทำต่อเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีผู้แข่งขันทั้งหมด30ทีม ด้วยการจัดประเภทการแข่งขัน อูดยาว ตั้งแต่100ซม.ขึ้นไป การแข่งขันอูดสั้น ตั้งแต่ 90 ซม. ลงมา และประเภทสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ ที่จะต้องเป้นเฉพาะว่าดุ๊ยดุ่ดเท่านั้น

การแข่งขันจะมีทั้งหมดเป็นเวลา 2วันคือ วันที่ 27-28 ธันวาคม 2557 ซึ่ง นายมณเฑียร วานิชศรี นายกเทศมนตรีตำบลพลับพลา ได้เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น บอกว่าต้องการให้ว่าวดุ๊ยดุ่ยเป็นที่รู้จักของประชาชนและเยาวชนรุ่นหลังๆ ได้รู้จัดว่าวชนิดนี้ให้มากขึ้น ซ้ำยังเป็นการสืบสานภูมิปัญาท้องถิ่น ให้เป็นเอกลักษณ์คู่กับท้องถิ่น
ส่วนการตัดสิน ว่าวดุ๊ยดุ่ย ทั้งสองประเภทนี้ กำหนดหลักการตัดสินกับผู้แข่งขันทุกทีม ของคณะกรรม ที่กำหนกดว่า ต้องเสียงดังคมชัด เสียงดังกังวาน เสียงโดเรต้องชัดเจน คณะกรรมจะแบ่งสายการตัดสินเป็นรายบุคล ตามความถนัด คือ กรรมที่ตัดสินเสียงเสียงดังกังวาน กรรมการเสียงดังคมชัด กรรมการที่ฟังเสียงสูงต่ำโดโด่
ทางด้านผู้ร่วมการแข่งขันนั้นต้องใช้เชือกสำหรับวิ่งว่าว เป็นเชือกกองกลางเพียงเส้นเดียว แต่ละทีมจะมีผู้ส่งว่าวและคนวิ่งว่าวที่จะต้องแข็งแรงพอสมควร ที่สามารถจะวิ่งไปอย่างเร็วและต่อเนื่อง ในการช่วยส่งตัวว่าวให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ที่ใช้ลู่วิ่งเป็นระยะทาง100เมตร เพื่อให้อูดที่อยู่ส่วนบนของว่าวดุ๊ยดุ่ย ส่งเสียงดังเป็นจังหวะขึ้นมา