Скачать или смотреть “แฟนท้องก่อนแต่ง ผมต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย และเลี้ยงลูกมา 11 ปี~สุดท้ายความจริงเปิดเผยว่าไม่ใช่ลูก

🚨“แฟนท้องก่อนแต่ง ผมต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย และเลี้ยงลูกมา 11 ปี~สุดท้ายความจริงเปิดเผยว่าไม่ใช่ลูกแท้ของผม”

👤ชายวัย 30 ต้องเผชิญกับความจริงสุดสะเทือนใจ หลังจากทุ่มเทเลี้ยงดูเด็กผู้หญิงมาตลอด 11 ปี โดยเชื่อว่าเป็นลูกสาวแท้ๆของตนเอง แต่ภายหลังกลับพบว่าเด็กไม่ใช่ลูกในสายเลือดค่ะ

📺เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 ก.ยในรายการ “사건반장” ทางช่อง JTBC สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ชมอย่างมากค่ะ

👤ผู้ให้ข้อมูลคือชายวัย 30 เขาเล่าย้อนไปว่าในช่วงที่กำลังรับราชการทหาร ได้รับข่าวจากแฟนสาวว่าเธอตั้งท้อง ด้วยความรับผิดชอบ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและเริ่มทำงานพิเศษเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ขณะที่พ่อแม่ของเขาก็ถึงขั้นขายอพาทเม้นท์ที่อาศัยอยู่ เพื่อนำเงินไปจัดหาบ้านเช่าสำหรับคู่แต่งงานใหม่ให้เขา

📍หลังจากคลอดลูก ภรรยากลับพูดว่า “ไม่อยากถูกผูกมัดเพราะลูกอีกต่อไป” และแอบไปทำหมันโดยไม่บอกให้เขาทราบ แม้เขาจะเจ็บปวด แต่ก็เลือกเคารพการตัดสินใจของภรรยาและเพื่อให้ภรรยาได้เรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษา ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปอาศัยอยู่บ้านฝ่ายภรรยาเป็นเวลานานถึง 8 ปี

📍ลูกสาวที่เกิดมามีความพิการแต่กำเนิด จำเป็นต้องเข้ารับการฟื้นฟูรักษาอย่างต่อเนื่อง เขาเล่าว่า “เงินเดือนเกือบทั้งหมดๆไปกับค่ารักษาลูก แถมยังต้องให้ค่าใช้จ่ายและเงินเลี้ยงดูครอบครัวฝ่ายภรรยา ทำให้ภาระทางการเงินหนักมาก”

📍ขณะที่ภรรยาซึ่งทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ มักมีงานเลี้ยงสังสรรค์และเดินทางบ่อย บางครั้งถึงขั้นไม่กลับบ้าน

👤เขาเล่าด้วยความโกรธว่า “เงินที่ต้องใช้เลี้ยงลูกมีมากขนาดไหน แต่เธอกลับเอาแต่พูดเรื่องเงินตลอดเวลา” สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่สุดคือเหตุการณ์ในงานแต่งงานของพี่สาวภรรยา ที่เขาถูกไล่ให้ไปถ่ายรูปให้ครอบครัวแทนที่จะได้ถ่ายร่วมในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง นั่นสร้างความรู้สึกถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรงค่ะ

👤เมื่อเขาตัดสินใจจะหย่า เขาได้บอกพ่อแม่ว่า “ลูกผมจะเลี้ยงเอง” แต่แม่ของเขากลับแนะนำด้วยความระมัดระวังว่าให้ลองตรวจ DNA เพราะ “ถึงจะดูคล้าย แต่ก็ไม่เหมือนเลย เหมือนคนละสายเลือด”

👤เขานำเรื่องนี้ไปพูดกับภรรยา แต่เธอกลับโกรธมากและเป็นฝ่ายเรียกร้องการหย่าเสียเอง สุดท้ายทั้งคู่ก็หย่าร้างกันโดยความยินยอม หลังจากนั้นเขาส่งค่าเลี้ยงดูบุตรมาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ปี และนัดพบลูกสาวทุกสุดสัปดาห์ค่ะ

‼️จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่อยู่ในร้านอาหาร มีพนักงานได้ทักเขาและพูดขึ้นว่า "โอ๊ย ลูกสาวเหรอคะ ไม่เห็นเหมือนคุณพ่อเลยสักนิด" คำพูดนี้ทำให้เขาเกิดความสงสัยอย่างหนัก และตัดสินใจที่จะยื่นเรื่องขอตรวจดีเอ็นเอค่ะ

🚨เมื่อรู้ความจริงสุดช็อคว่าเด็กผู้หญิงที่เลี้ยงมา 11 ปีไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขา เขารู้สึกเหมือนโลกถล่มลงมา เขาพูดว่า “ผมหวังว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง จึงตรวจ DNA ถึงสองครั้ง” แสดงให้เห็นถึงบาดแผลทางใจอย่างมาก

🗣️ส่วนภรรยาอ้างว่า “ไม่สามารถเชื่อผลตรวจ DNA ได้ การตั้งครรภ์ระหว่างคบกันเป็นเรื่องจริง ดังนั้นคุณคือพ่อของเด็ก” แต่เขาตอบกลับด้วยความเจ็บปวดว่า “การไม่ได้อยู่กับลูกก็ทำใจเจ็บปวดอยู่แล้ว ผมต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะท้องก่อนแต่ง และแต่งงานตอนรับราชการสิบปีที่ผ่านมา มันทั้งเสียเวลาและเจ็บปวด”

👨‍💼ทนายความให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า แม้จะหย่าโดยความยินยอม แต่เนื่องจากเป็นการแต่งงานที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น อาจถือเป็นเหตุผลในการเพิกถอนการสมรส และเขาอาจมีสิทธิ์เรียกร้องเงิน ค่าเลี้ยงดูที่จ่ายโดยไม่รู้ว่าลูกไม่ใช่สายเลือดแท้ กลับคืนในส่วนของการแบ่งสินสมรสและค่าเยียวยาได้

Cr.JTBC.