10 อันดับ ค่าครองชีพเมืองใหญ่อาเซียน! เขมรทัวร์ลง มาเลย์ฟาดกันเอง พาดพิงไทย

กรุงเทพฯถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก มานานหลายปี ส่วนหนึ่งก็คือค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับกลับมา หรือคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั่นเอง ชาวต่างประเทศจำนวนไม่น้อย มองว่าค่าครองชีพในกรุงเทพถือว่าต่่ากว่าหลายเมืองใหญ่ของโลก แม้ว่าจะมีบางส่วนเริ่มมองว่า ค่าครองชีพในกรุงเทพฯ เริ่มสูงขึ้นในช่วงหลังๆ อย่างไรก็ตาม อาจจะเพราะการที่มีอาหารข้างทาง หรือสตรีทฟู้ดอยู่เป็นจำนวนมาก และที่พักอาศัยที่มีอยู่หลายระดับราคา เลยทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ สามารถบริหารจัดการให้อยู่ในงบประมาณที่ต้องการได้ และการที่เพจดังของอาเซียนอย่าง ASEAN Skyline ได้โพสต์ภาพอินโฟกราฟฟิค ค่าครองชีพในประเทศอาเซียน ปี 2021 ที่อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ที่ชื่อ aseanthai.net ซึ่งจากการตรวจสอบของเรา พบว่าเป็นเว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์ ประเทศไทย ที่มีการอ้างอิงมาจากเว็บไซต์ mercer.com ซึ่งเป็นของบริษัทบริหารจัดการด้านทรัพย์สิน อีกต่อหนึ่ง ซึ่งเอกสารการจัดอันดับ เราได้แสดงไว้ในคำอธิบายใต้คลิปนี้ โดยเว็บไซต์ aseanthai.net ได้คัดเฉพาะเมืองใหญ่ในอาเซียน มาจัดอันดับเองต่างหาก ซึ่งจะว่าไปแล้ว อันดับดังกล่าว อาจจะแตกต่างไปจากการจัดอันดับโดยหน่วยงานอื่นๆ ที่เรามักจะพบเจอกันได้บ่อยครั้ง ว่าอันดับต่างๆอาจจะใกล้เคียงกัน หรือแตกต่างกันแบบสุดขั้ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่ใช้ของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งในคลิปนี้ เราจะเน้นให้เห็นถึงความคิดเห็นของชาวอาเซียนที่มีต่อการจัดอันดับในปี 2021 โดย mercer เป็นหลัก ว่าแต่ละคนมีมุมมองอย่างไรบ้าง และมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจ นอกเหนือไปจากการจัดอันดับดังกล่าว

10 เมืองแรก ที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในย่านอาเซียนได้แก่ อันดับ 1 สิงคโปร์ อันดับ 2 กรุงเทพ อันดับ 3 มะนิลา ฟิลิปปินส์ อันดับ 4 ย่างกุ้ง เมียนมาร์ อันดับ 5 จาการ์ต้า อินโดนีเซีย อันดับ 6 บันดาเสรีเบกาวัน บรูไน อันดับ 7 พนมเปญ กัมพูชา อันดับ 8 ฮานอย เวียดนาม อันดับ 9 โฮจิมินห์ เวียดนาม และอันดับ 10 กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งหลายคนที่ได้เห็นการจัดอันดับครั้งนี้ คงมีความสงสัยอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 2 ของกรุงเทพฯ หรือหลายเมืองที่มักถูกมองว่าล้าหลัง เช่น ย่างกุ้ง กลับมีค่าครองชีพที่สูงกว่าเมืองที่ถือว่าทันสมัยเมืองหนึ่งในอาเซียน อย่างกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ก็เนื่องมาจากเหตุผลหลายๆอย่าง โดยเฉพาะต้นทุนของสินค้า ที่ประเทศล้าหลังส่วนใหญ่ จำเป็นจะต้องมีการนำเข้าสินค้ามาจากประเทศอื่น ต้นทุนในด้านพลังงานเช่นน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงต้นทุนในด้านการขนส่ง นั่นจึงทำให้ระดับการพัฒนาของเมือง อาจจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือสวนทางกับค่าครองชีพที่เกิดขึ้นได้

ขอเริ่มจากความคิดเห็นของชาวเวียดนามที่บอกว่า เวียดนามทำได้ดีมากในเรื่องค่าครองชีพที่ต่ำ และมาเลเซียก็ทำได้สุดยอดมาก

ดราม่าเกิดขึ้นทันที เมื่อมีชาวกัมพูชาขาประจำ เข้ามาโพสต์ว่า พนมเปญมีค่าครองชีพที่สูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า คนที่อาศัยอยู่ในพนมเปญมีฐานะที่ดีมาก ซึ่งไม่แน่ใจว่า ชาวกัมพูชารายนี้เข้าใจผิดในเรื่องอันดับ หรือจงใจ เพราะตามการจัดอันดับนี้ พนมเปญอยู่ในอันดับ 7 ไม่ใช่อันดับ 3 งานนี้จึงมีชาวมาเลเซียเข้ามาตอบว่า ใช่ ร่ำรวยในความยากจน โดยมีชาวเวียดนามเข้ามาเสริมว่า คนที่ฉลาดมากๆคนหนึ่ง ทำให้คนอื่นรู้สึกสงสาร ซึ่งอาจจะเป็นการพูดประชดประชันชาวกัมพูชาคนดังกล่าว และยังบอกอีกว่า การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ซึ่งหมายถึงพนมเปญ น่าจะเครียดไม่น้อยเพราะค่าใช้จ่ายสูง ผมไม่รู้ว่า ลำพังแค่เงินเดือนอย่างเดียว จะพอกินไหม ไหนจะต้องมีค่าหมอ ค่าเล่าเรียนอีก ก่อนที่จะมีชาวเวียดนามอีกคนว่าบอกว่า อันดับ 7 ต่างหาก

ชาวเวียดนามคนใหม่เข้ามาตอบว่า ก็เพราะพนมเปญเป็นเมืองหลวงของแคมโบไชน่านะสิ

มีชาวมาเลเซียเข้ามาตอบอีกว่า รวยจริง คนส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกขำ แต่ผมเคยไปเมืองกัมปอต เสียมเรียบ และพนมเปญ คนส่วนใหญ่ใช้เงินดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับการซื้อขายในชีวิตประจำวัน ข้อดีมันคืออะไร แต่พวกเขาก็ทำได้ดีในด้านเศรษฐกิจนะ โดยมีคนเวียดนามเข้ามาตอบว่าเงินดอลล่าร์ถูกใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลกอยู่แล้ว ทั้งในการจ่ายหนี้ระหว่างประเทศ การซื้อขายสินค้า การลงทุน และการทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยมีชาวเวียดนามอีกคนหนึ่งมาเสริมว่า คุณควรศึกษาเรื่องเศรษฐกิจให้มากกว่านี้ ซึ่งคงมีนัยยะว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ที่มีการใช้เงินดอลล่าร์ในกัมพูชา ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร

มีชาวเวียดนามเข้ามาตอบชาวกัมพูชาคนดังกล่าวว่า ชาวกัมพูชาคนนี้ เห็นแต่เรื่องของประเทศตัวเอง เป็นสิ่งที่สูงส่งตลอด แยกแยะไม่ออก ไม่ได้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรเลย คุณควรได้รับตำแหน่งประชาชนที่มีคุณภาพต่ำที่สุด โดยมีชาวเวียดนามอีกคนเข้ามาเสริมว่า เงินเฟ้อที่สูง ก็คือค่าใช้จ่ายที่สูง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ ชาวเวียดนามคนใหม่ก็เข้ามาเสริมว่า กัมพูชาไม่สามารถผลิตสินค้าอะไรได้มาก อาหารส่วนใหญ่ก็นำเข้าจากเมืองไทย ประชากรรายได้น้อย แต่ผลิตเองไม่เป็น น่าสงสาร

มีชาวอินโดนีเซียมาตอบชาวกัมพูชาคนดังกล่าวว่า ดูเหมือนว่าคุณอ่านผิด ซึ่งหมายถึงอันดับของเมืองพนมเปญ

ชาวเวียดนามคนใหม่เข้ามาตอบด้วยอารมณ์ว่า คุณตาบอดเหรอ เบลอจนเห็นเป็นอันดับ 3 กัมพูไชน่า ส่วนหนึ่งที่ชาวเวียดนามหลายคนเข้ามาตอบอย่างมีอารมณ์ เพราะชาวกัมพูชาคนดังกล่าว มักจะเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่ชวนทะเลาะกับทั้งเวียดนาม ไทยและหลายชาติ เมื่อมีโอกาส

ชาวเวียดนามคนใหม่ เข้ามาตอบว่า พนมเปญเป็นแค่เมืองเล็กๆของจีน

ชาวเวียดนามอีกคนเข้ามาตอบว่า กัมพูชาผลิตสินค้าเองไม่ได้ ต้องนำเข้าทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายจึงสูง ประเทศที่พึงพาคนรวยได้น้อย แม้แต่ผักก็ต้องนำเข้ามากิน

ที่มาการจัดอันดับ https://www.mercer.com/content/dam/me...