คำถามทางบ้าน :แจงปม รพ. ปล่อยสาวปวดท้องจนตาย...??? โรคดังกล่าวเกิดบ่อยแค่ไหน ??

Описание к видео คำถามทางบ้าน :แจงปม รพ. ปล่อยสาวปวดท้องจนตาย...??? โรคดังกล่าวเกิดบ่อยแค่ไหน ??

คำถามทางบ้าน :แจงปม รพ. ปล่อยสาวปวดท้องจนตาย...??? โรคดังกล่าวเกิดบ่อยแค่ไหน ??
Aortic Dissection หรือภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดแดงใหญ่ได้รับความเสียหาย โดยเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวฉีกขาดและแยกออกจากกัน ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังอวัยวะต่าง ๆ ได้ตามปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างฉับพลันและรุนแรง มีเหงื่อออกมาก และระดับความดันโลหิตระหว่างแขนทั้งสองข้างไม่เท่ากัน

ภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ตามตำแหน่งที่หลอดเลือดแดงได้รับความเสียหาย ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้มีระดับความรุนแรงและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม Aortic Dissection เป็นภาวะฉุกเฉินที่มีความรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
อาการของ Aortic Dissection
ภาวะ Aortic Dissection อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างฉับพลันและรุนแรง รู้สึกคล้ายถูกฉีก ดึง หรือเฉือน โดยอาการปวดจะลามไปยังกรามล่าง คอ ไหล่ และหลังคล้ายกับโรคหัวใจ และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น

ปวดหรือเจ็บท้องอย่างฉับพลันและรุนแรง
มีเหงื่ออกมาก
หายใจไม่อิ่มหรือหายใจลำบากขณะนอนราบ
ปวดขา มีปัญหาเกี่ยวกับการเดิน หรือมีอาการอัมพาตบริเวณขา
มีปัญหาด้านการพูด การมองเห็น กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันคล้ายกับอาการของโรคหลอดเลือดสมอง
กลืนลำบาก
ชีพจรเต้นแผ่วในแขนข้างใดข้างหนึ่งหรือแผ่วกว่าผู้อื่น ๆ เมื่อเทียบกัน
หมดสติ
ทั้งนี้ หากพบว่าตนเองมีอาการคล้ายกับอาการที่กล่าวไปข้างต้น ควรเข้าพบแพทย์โดยด่วน เนื่องจากภาวะ Aortic Dissection มีความรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

สาเหตุของ Aortic Dissection
Aortic Dissection เกิดจากการที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่บริเวณที่มีความเปราะบางได้รับความเสียหายหรือฉีกขาด สามารถแบ่งตามตำแหน่งที่เกิดอาการได้เป็น 2 ชนิด คือ ชนิด A เป็นชนิดที่พบได้มากและเป็นอันตรายเนื่องจากการฉีกขาดเกิดขึ้นกับหลอดเลือดแดงใหญ่ที่นำเลือดออกจากหัวใจหรืออยู่ด้านบนในตำแหน่งใกล้กับหัวใจ และชนิด B เป็นชนิดที่เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่อยู่ทางด้านล่างห่างจากหัวใจ

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดอาจเป็นผลมาจากภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังจนกระทบต่อเนื้อเยื่อของหลอดเลือดแดงใหญ่ ความผิดปกติแต่กำเนิดที่ทำให้ผนังหลอดเลือดเปราะบางหรือหลอดเลือดมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือการบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณหน้าอก แต่ที่พบได้ค่อนข้างน้อย

นอกจากนี้ บางปัจจัยอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงฉีกขาดได้มากขึ้น ได้แก่

เพศชายจะมีความเสี่ยงจะมากกว่าเพศหญิง
มีอายุมาก ส่วนใหญ่ผู้ที่มีภาวะ Aortic Dissection จะมีอายุในช่วง 60–80 ปี
มีภาวะความดันโลหิตสูง
เป็นโรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดหัวใจพิการแต่กําเนิด (Aortic Coarctation) โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกผิดปกติแบบสองใบแต่กำเนิด (Bicuspid Aortic Valve)
เป็นโรคทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการเทอร์เนอร์หรือมาร์แฟนซินโดรม (Marfan Syndrome)
เป็นโรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือด อย่างโรคหนังยืดผิดปกติ (Ehlers-Danlos Syndrome)

การรักษา Aortic Dissection
แพทย์จะรักษาผู้ป่วยตามชนิดของ Aortic Dissection ที่เกิดขึ้น ดังนี้

การรักษา Aortic Dissection ชนิด A
เนื่องจากตำแหน่งของการฉีกขาดนั้นเกิดใกล้กับหัวใจและอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แพทย์จึงต้องผ่าตัดแก้ไขหลอดเลือดที่ฉีกขาดอย่างเร่งด่วนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เลือดไหลเวียนกลับไปยังเส้นทางปกติ โดยอาจใช้หลอดเลือดเทียมร่วมด้วย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะลิ้นหัวใจรั่วในบริเวณที่หลอดเลือดได้รับความเสียหายด้วย แพทย์อาจผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจไปในการผ่าตัดครั้งเดียวกัน

นอกจากนี้ แพทย์อาจใช้ยาเพื่อช่วยรักษาระดับความดันเลือดของผู้ป่วยก่อนทำการผ่าตัด และใช้ยาชนิดต่าง ๆ ในการป้องกันไม่ให้อาการมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blockers) และยาไนโตรพลัสไซด์ (Nitroprusside) เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจและลดระดับความดันโลหิต

การรักษา Aortic Dissection ชนิด B
ผู้ป่วยอาจไม่จำเป็นจะต้องเข้ารับการผ่าตัดทันทีหากความเสียหายของหลอดเลือดแดงใหญ่อยู่ห่างจากหัวใจ แต่จำเป็นจะต้องควบคุมระดับความดันเลือดให้ใกล้เคียงกับค่าปกติด้วยการใช้ยารักษาโรคความดันโลหิตและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การฉีกขาดของหลอดเลือดแดงมีความรุนแรงมากขึ้นหรือเลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาโดยด่วนด้วยการผ่าตัดเนื่องจากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ภายหลังเข้ารับการรักษา ผู้ป่วย Aortic Dissection อาจจำเป็นต้องรับประทานยาเพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตตลอดชีวิต และตรวจติดตามอาการด้วยเครื่อง MRI หรือ CT Scan เป็นระยะ ๆ

ภาวะแทรกซ้อนของ Aortic Dissection
ผู้ป่วย Aortic Dissection อาจมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากเลือดที่ใช้ในการทำงานของอวัยวะนั้น ๆ ไหลเวียนลดลงหรือไม่เพียงพอ ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายได้รับความเสียหายหรือทำงานผิดปกติ โดยอาการอาจเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ หรือเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงอาจเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ภาวะเลือดออกในอวัยวะภายใน และภาวะลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจมีความรุนแรงจนส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิต

Комментарии

Информация по комментариям в разработке