Скачать или смотреть ปัญหาความเชื่อมั่นดอลลาร์ สงครามการค้า & นโยบายธนาคารกลางทั่วโลก!

ตลาดการเงินโลกกำลังเผชิญกับประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความไม่ไว้วางใจในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าและนโยบายที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปของธนาคารกลางต่างๆ

*ดอลลาร์สหรัฐฯ เจอศึกรอบด้าน:*
*"ปัญหาความเชื่อมั่น"* ยังคงเป็นประเด็นหลักสำหรับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และแนวโน้มของนโยบายการคลังของสหรัฐฯ
นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ได้สร้างความกังวลเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ โดยอัตราภาษีนำเข้าที่มีผลบังคับใช้ของสหรัฐฯ กำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1940 และบ่งชี้ถึงการพลิกกลับของภาวะเงินฝืดทั่วโลกในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา
มีข้อบ่งชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของตลาดหมีเชิงวัฏจักรระยะยาว

*การตัดสินใจของธนาคารกลางทั่วโลก:*
*Fed:* คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม โดยมุ่งเน้นไปที่ว่าภาษีจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มปี 2025 ของธนาคารกลางอย่างไร ความไม่แน่นอนจากการกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับภาษีทำให้การสร้างแบบจำลองเป็นเรื่องยาก
*BoJ (ญี่ปุ่น):* คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นไว้ แม้จะมีแนวโน้มเงินเฟ้อที่แข็งแกร่ง แต่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงรอดูสถานการณ์เนื่องจากนโยบายภาษี ผู้กำหนดนโยบายกังวลว่าภาษีอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลักของญี่ปุ่น เช่น ภาคยานยนต์
*BoE (อังกฤษ):* คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยธนาคารไว้ที่ 4.25% แต่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) อาจเปิดทางสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรกำลังชะลอตัว

*ค่าเงินหลักอื่นๆ และตลาดเกิดใหม่:*
*เงินปอนด์ (GBP):* ได้รับประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
*เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD):* มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยลบผ่อนคลายลง และอาจมีเงินไหลเข้าจากการที่กองทุน Super Funds ปรับเพิ่มอัตราการป้องกันความเสี่ยง (hedge ratio)
*สกุลเงินเอเชีย (Asian FX):* แข็งค่าขึ้นจากการเลื่อนการเก็บภาษีแบบต่างตอบแทน, ประเด็นการลดบทบาทของดอลลาร์ (de-dollarisation) และความคืบหน้าในการเจรจาการค้า หลายสกุลเงินยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบเรื่อง *"การปั่นค่าสกุลเงิน"* โดยสหรัฐฯ
*ทองคำ:* ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดทองคำขาขึ้นมักเกิดขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930 และภาวะ stagflation ในทศวรรษ 1970
*ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets):* หุ้นตลาดเกิดใหม่มีมูลค่าต่ำสุดในรอบ 50 ปีเมื่อเทียบกับหุ้นสหรัฐฯ ทำให้เป็นการตัดสินใจจัดสรรสินทรัพย์ที่ง่ายสำหรับนักลงทุน

*แนวโน้มตลาดกว้าง:*
หนี้รัฐบาลทั่วโลกเพิ่มขึ้น 40% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แตะ 100 ล้านล้านดอลลาร์
การเร่งตัวของ AI กำลังส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นเทคโนโลยี
ยุโรปและญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ตลาดกระทิงในตลาดหุ้นระหว่างประเทศ