รู้ธรรมะ จะปล่อยวางง่าย เป็นผู้มีทุกข์น้อย | เจริญอานาปานสติ ฝึกจิต เพื่อดับความทุกข์ | มรรคมีองค์ 8

Описание к видео รู้ธรรมะ จะปล่อยวางง่าย เป็นผู้มีทุกข์น้อย | เจริญอานาปานสติ ฝึกจิต เพื่อดับความทุกข์ | มรรคมีองค์ 8

#มรรค #อริยสัจ #อานาปานสติ
สารบัญ 😊🥰🙏
00:00:00 สิ่งที่ภิกษุควรทำเมื่ออยู่ร่วมกัน พระศาสดาให้กระทำกิจ 2 อย่างคือ นั่งนิ่งอย่างอริยะ กับ กล่าวธรรม
https://etipitaka.com/read/thaipb/12/...

00:05:21 อธิบายอริยมรรคมีองค์ 8/ สัจจะความจริง 4 ประการนี้ จำเป็นที่สุดของชีวิตที่ควรรู้
ขยายความแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 : https://etipitaka.com/read/thaipb/1/23/

00:42:35 กายคตาสติ/ อานาปานสติ นั่งรู้ลมหายใจเพียงอย่างเดียว มรรค 8 ครบเลย
อานิสงส์แห่งกายคตาสติ : https://etipitaka.com/read/thaipb/6/141/

00:46:57 อนัตตา/ ธรรมอันเป็นเหตุ ธรรมที่เกิดมาแต่เหตุ/ อิทัปปัจจยตา/ ปฏิจจสมุปบาท
กฎอิทัปปัจจยตา หรือ หัวใจปฏิจจสมุปบาท : https://etipitaka.com/read/thaipb/3/114/
ปฏิจจสมุปบาท : https://etipitaka.com/read/thaipb/3/115/

01:19:58 การกิน ประกอบตนอยู่ในความเป็นผู้มีท้องอันพร่อง/ ให้พึ่งตน พึ่งธรรม
ให้พึ่งตน พึ่งธรรม : https://etipitaka.com/read/thaipb/3/8/
--------------------------

#ขยายความแห่งอริยมรรคมีองค์แปด
ภิกษุทั้งหลาย ! ก็อริยสัจคือหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? คือหนทางอันประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐ นี้เอง,
องค์แปดคือ : ความเห็นชอบ, ความดำริชอบ, การพูดจาชอบ, การงานชอบ, การเลี้ยงชีพชอบ, ความเพียรชอบ, ความระลึกชอบ, ความตั้งใจมั่นชอบ.

ภิกษุทั้งหลาย ! #ความเห็นชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความรู้ในทุกข์, ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, ความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อันใด, นี้เราเรียกว่า #สัมมาทิฏฐิ

ภิกษุทั้งหลาย ! #ความดำริชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความดำริในการออกจากกาม, ความดำริในการไม่พยาบาท, ความดำริในการไม่เบียดเบียน, นี้เราเรียกว่า #สัมมาสังกัปปะ

ภิกษุทั้งหลาย ! #การพูดจาชอบ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุทั้งหลาย ! การเว้นจากการพูดเท็จ, การเว้นจากการพูดยุให้แตกกัน, การเว้นจากการพูดหยาบ, การเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ, นี้เราเรียกว่า #สัมมาวาจา

ภิกษุทั้งหลาย ! #การงานชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! การเว้นจากการฆ่าสัตว์, การเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้, การเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย, นี้เราเรียกว่า #สัมมากัมมันตะ

ภิกษุทั้งหลาย ! #การเลี้ยงชีพชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกนี้ ละมิจฉาชีพเสีย สำเร็จความเป็นอยู่ด้วยสัมมาชีพ, นี้เราเรียกว่า #สัมมาอาชีวะ

ภิกษุทั้งหลาย ! #ความเพียรชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันเป็นบาป ที่ยังไม่ได้บังเกิดขึ้น; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันเป็นบาป ที่บังเกิดขึ้นแล้ว; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่ยังไม่ได้บังเกิด; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบแห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นแล้ว, นี้เราเรียกว่า #สัมมาวายามะ

ภิกษุทั้งหลาย ! #ความระลึกชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุนี้ เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่, มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่, มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่, มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่, มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้, นี้เราเรียกว่า #สัมมาสติ

ภิกษุทั้งหลาย ! #ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุนี้ เพราะสงัดจากกามทั้งหลาย เพราะสงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย ย่อมเข้าถึงฌานที่หนึ่ง อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่; เพราะวิตกวิจารรำงับลง, เธอเข้าถึงฌานที่สอง อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุข อันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่; เพราะปีติจางหายไป, เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมและได้เสวยสุขด้วยกาย ย่อมเข้าถึงฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า “เป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติ มีการอยู่เป็นสุข” แล้วแลอยู่; เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน, เธอย่อมเข้าถึงฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่, นี้เราเรียกว่า #สัมมาสมาธิ

ภิกษุทั้งหลาย ! นี้เราเรียกว่า อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์.

--📙 พุทธวจน-หมวดธรรม เล่มที่ ๑ พุทธวจน ตามรอยธรรม หน้าที่ ๒๓-๒๗
-- ลิ้งค์อ้างอิงพระสูตร https://etipitaka.com/read/thaipb/1/23/
--------------------------

รับชมวิดีโอพุทธวจน เพิ่มเติม ได้ที่ช่อง #ทางนิพพาน #พุทธวจน
   / @tangnibbana  
   / @sugatavinayo  
   / @dhammavinayo  
--------------------------

คลิปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2558 ดูคาติ ดูคาทิสติ Ducati Thailand

Комментарии

Информация по комментариям в разработке