พระแท้กำลังจะหายไป?! | อะไรที่ต้องเห็น เวลาส่องพระสมเด็จ

Описание к видео พระแท้กำลังจะหายไป?! | อะไรที่ต้องเห็น เวลาส่องพระสมเด็จ

ทางออกปัญหาความเก๊-แท้ ในการดูพระสมเด็จวัดระฆัง
อะไรที่ต้องเห็น เวลาส่องพระสมเด็จ
พระแท้กำลังจะหายไป #พระเครื่อง #วัตถุมงคล

พุทธศิลป์ของพระองค์นี้เป็นพระสมเด็จวัดระฆังยุคต้น สัดส่วนพิมพ์ทรงองค์พระยังไม่สมบูรณ์สวยงามนัก ธรรมชาติเนื้อพระไม่ผ่านความร้อนสูง เนื้อพระยังไม่เซ็ตตัวจากการอบ การเปลี่ยนสภาพเป็นจุดที่เราศึกษาได้ พุทธศิลป์เป็นพิมพ์พระประธานหรือพิมพ์ชายจีวรหนา เกศยาวถึงซุ้ม พระพักตร์ตอบ คางแหลม บางคนจะเรียกว่าหน้าตั๊กแตน หรือข้าวหลามตัด คือคางจะสอบเข้าเป็นมุมสามเหลี่ยม ช่วงลำตัวและวงแขนดูเป็นทรงกลม ลำแขนใหญ่ มือประสานกันดูหนาใหญ่ ช่วงขา ๒ ข้างโค้งเป็นแนวเดียวกัน เส้นชายจีวรที่เชื่อมระหว่างข้อศอกและหัวเข่าด้านซ้ายมีขนาดหนา ประทับบนฐาน ๓ ชั้น อยู่ภายในซุ้มระฆัง พิมพ์และเส้นสายลึกชัด ด้านหลังเรียบ

หลังจากที่เราดูพุทธศิลป์ เราก็ประเมินได้ว่าเข้าสายพระสมเด็จ วัดระฆังแล้ว วางเรื่องพิมพ์ไปเลย พิมพ์ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เราประเมินความแท้ได้แม้แต่นิดเดียว แท้ไม่แท้ ว่ากันด้วยธรรมชาติล้วนๆ ตำหนิยิ่งเป็นเรื่องโกหก พระเก่าดูตำหนิไม่ได้ ยิ่งถ้าเจอพระพิมพ์พิเศษ จะได้ไม่เสียพระแท้ดีๆ ไป หลังจากที่เรารู้ว่าเป็นพระเครื่องสายไหนแล้ว ก็เดินหน้าต่อ เพราะหมดหน้าที่ของเราในการพิจารณาพุทธศิลป์และพิมพ์ครับ เพราะเราจะมาเช็คธรรมชาติพระสมเด็จองค์นี้ ที่ต้องผ่านอายุมาประมาณ ๑๗๐ ปีกัน

สิ่งที่เราต้องเห็นเป็นอย่างแรกคือองค์พระต้องดูแห้งและนวลตา ก็คือเห็นองค์พระแล้วต้องรู้สึกได้ทันทีว่าเนื้อพระดูแห้ง มองแล้วนวลไปทั้งหมด ฟังดูง่ายนะครับ แค่แห้งและนวลตา แต่เก๊ทำไม่เหมือนครับ อบเร่งให้แห้งก็ไม่นวล แต่งผิวให้นวล ความแห้งก็หายไป แต่งคราบโปะ มิติก็ไม่มี ถ้าจะอบให้แห้งแล้วแต่งคราบทีละจุด ก็คงไม่มีคนทำไหว แต่งไปก็ไม่มีธรรมชาติอยู่ดี แก้ที่การแต่งพระปลอมไม่ได้ ก็แก้ที่วิธีสอนให้ดู อัดความนิยม ยัดราคาเลย หลอกคนง่ายกว่า

อะไรที่ต้องเห็น เวลาส่องพระสมเด็จ
พระเก่า รวมถึงพระสมเด็จต้องแห้งและนวลตานะครับ ด้วยธรรมชาติการเกิดออกซิเดชั่นกับอากาศ เกิดการเปลี่ยนสภาพบนพื้นผิวทีละนิดทีละจุดแล้วสะสมตัวกัน ๑๗๐ ปีนั่นล่ะครับ สิ่งที่พระสมเด็จแท้ทันยุคทุกองค์ต้องมีเหมือนกันคือการสัมผัสกับอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง ร้อนเย็น เกิดความชื้นแล้วแห้งไปทิ้งคราบตกผลึกที่สะสมตัวกัน ร้อน เย็น ชื้น แห้งวนกันไปแบบนี้ ถ้าในสภาพปกติไม่ว่าจะเก็บพระในลักษณะใด ก็จะต้องเกิดธรรมชาติเหล่านี้ขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ เรียกว่าเป็นสัจธรรม

ความเหี่ยว
เมื่อพระสมเด็จเกิดการเปลี่ยนสภาพ เกิดการคลุมผิวหรือเกิดผลึกแคลไซต์ขึ้น แป้งโรยพิมพ์ไม่มี ถึงมีก็ไม่เหลือให้เห็นแล้ว พระผ่านอายุตั้ง ๑๗๐ ปี คราบขาวเกิดจากการออกซิไดซ์ของเนื้อพระด้านในออกมาตกผลึกอยู่บนผิวด้านนอก เมื่อเกิดแคลไซต์คลุมผิว เกิดการทำงานของธรรมชาติ ยุบ กร่อน ผิวพระก็ต้องไม่เรียบตึง ถูกมั๊ยครับ จะเห็นการคลุมผิว สูงต่ำ หนาบาง สีเข้มอ่อน และเหี่ยวกร่อนตามการผ่านอายุโดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังยุคต้นที่ไม่ผ่านการอบเพื่อเร่งให้เซ็ตตัว และสามารถเกิดอราโกไนต์ขึ้นในพระยุคต้นที่เนื้อพระสร้างจากเกาลีน ค่อยๆ ส่องเอียงๆ ดูแนวระนาบ ไล่ดูผิวพระทั่วๆ ผิวพระจะต้องเหี่ยวกร่อน ดูเป็นลอนคลื่น ความหนาบาง สีเข้มอ่อน มีการยุบตัว หลุมมวลสารย่อยสลายต้องมี เห็นเป็นความหลากหลาย เกิดเป็นมิติสูงต่ำ ลึกตื้นให้เห็น เรียบตึงไม่ได้ การเปลี่ยนสภาพตามอายุจนเกิดเป็นความหลากหลายที่คลุมผิวไว้ สำคัญมากๆ ในการดูพระเก่านะครับ ถ้าลงลึกไปกว่านี้ เราต้องแยกประเภทคราบให้ออก ว่าคราบเกิดขึ้นจากอะไร เป็นการสะสมตัวหรือโปะ เก่าหรือเร่ง เคมีหรือธรรมชาติ ถ้าธรรมชาติ เป็นธรรมชาติเก่าหรือใหม่ แช่อะไรมาหรือเปล่า ก็ตามที่ ๔ มีนาพูดประจำ อย่าดูถูกคนทำพระเก๊เด็ดขาด เพราะบางคนก็คือคนที่เขียนตำราดูพระที่พี่ๆ เพื่อนๆ ดูกันนี่ล่ะครับ

การตัดสินพระแท้
คำที่เราคุ้นเคยอย่างเช่น หนึกนุ่ม ลึกซื้ง นวลตา งดงาม ดูมีมิติ ยุบ ย่น ย่อ คือเสน่ห์ในการดูพระเก่า ปริอรรถาธิบายขั้นตอนการสร้างต่างๆ ที่ถูกรวบรวมไว้ แก้ไขและปรับปรุงโดยนักสะสมรุ่นเก่า ที่เค้าใช้ดูพระสมเด็จแท้เพื่อให้คนที่อยากเรียนรู้ ดูพระเก่าเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะพระสมเด็จแท้ที่ผ่านอายุ แต่เดี๋ยวนี้เรื่องเหล่านี้แทบจะหายไปจากวงการพระเครื่อง หายไปพร้อมๆ กับความรู้ที่มีเหตุมีผลและหายไปพร้อมกับพระสมเด็จแท้ที่มีธรรมชาติถึงอายุ เหลือแต่การแปะราคา ความศรัทธากลายเป็นความโลภ ซึ่งก็ใช้ได้ผลเสมอ และก็จะมีผลหนักตามมาแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

ที่เราเช็คกันมาทั้งหมด เราวิเคราะห์ได้ว่าเป็นพระผ่านอายุ พุทธศิลป์ใช่ แต่องค์พระจะยังสรุปเป็นพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จโตไม่ได้ถ้าไม่มีมวลสารและไม่มีผงของสมเด็จโต
พระสมเด็จยุคต้นจะมีการคลุมผิวค่อนข้างหนา ดังนั้นมวลสารจะเห็นได้น้อยและยากกว่าพระสมเด็จยุคปลาย แต่ยังไงก็ต้องไม่ใช่ไม่มีมวลสาร

มวลสารที่พบ
ผงวิเศษ
แร่ซิลิก้า
เศษผงใบลานมีทั้งที่เป็นเม็ดละเอียดๆ และเป็นชิ้น
แร่สีแดงอมส้ม รวมถึง กลุ่มแร่ดอกมะขาม
แร่สีดำอมน้ำตาล
ก้อนแร่สีดำเงาในกลุ่มฮีมาไทต์หรือเหล็กไหล
และมวลสารกลุ่มที่ย่อยสลายได้ มีความเหี่ยวอยู่บนผิวและยุบตัวในหลุม
ความกลมกลืน การอยู่ของมวลสารต้องดูเป็นธรรมชาติ มีความแห้ง เหี่ยวกร่อน บางส่วนมีการย่อยสลายและยุบตัว ภายในหลุมยุบก็ต้องมีรายละเอียดให้เห็น

พระแท้กำลังจะหายไป
การดูพื้นฐานพระเก่าไม่ยาก แค่วางความเชื่อลงแล้วเข้าใจ เพราะธรรมชาติมีกฎเกณฑ์และการทำงานตายตัวแน่นอน แยกเรื่องแท้กับแพงให้ออก หลายๆ ครั้ง เงินก็เป็นแค่เครื่องมือในการหลอกขายพระเก๊แต่ก็ทรงพลังที่สุด ใช่มั๊ยครับ

Комментарии

Информация по комментариям в разработке