ประเภทยางรถยนต์ - ความแตกต่างของยางแต่ละประเภท

ประเถทของยางรถยนต์ - ความแตกต่างของยางแต่ละประเภท
ยางรถยนต์แบบ HT AT หรือ MT มันคือยางอะไร เหมาะสมกับรถแบบไหน วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกัน

การใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันออกไป บางคนต้องขับรถเป็นระยะทางใกลด้วยความเร็วสูง บางคนในงานหนักและบางครั้งต้องเจอกันเส้นทางที่ไม่ค่อยศรีวิลัยนัก แต่ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ทางผู้ผลิตยางรถยนต์จึงต้องมีการผลิตยางรถยนต์แต่ละประเภท ให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละรูปแบบ เพื่อที่จะให้สามารถดึงสมรรถนะของรถออกมาได้อย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยด้วย

และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับยางรถยนต์ 3 ประเภทหลักๆกัน นั่นก็คือ ยางรถยนต์แบบ HT AT และ MT ว่าแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันยังไงบ้าง เริ่มที่ยางแบบ HT ก่อนเลยครับ

ยางแบบ HT ชื่อเต็มของมันก็คือ Highway Terrain
แค่ได้ยินคำว่า ไฮเวย์ หลายคนก็พอจะเดาออกแล้วแน่ๆว่าเป็นยางประเภทไหน ยางแบบ Highway Terrain เป็นยางมารตรฐานที่นิยมใช้ในรถทั่วๆไป ตั้งแต่รถเก๋ง รถ SUV เอนกประสงค์ หรือในรถกระบะในบางรุ่น เน้นการใช้งานแบบทั่วๆไป เหมาะสำหรับรถที่ใช้ความเร็ว โดยลักษณะของยางนั้นจะมีดอกยางขนาดเล็ก เรียบ และละเอียด เน้นให้ดอกยางสัมผัสกับถนนให้ได้มากที่สุด สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพในความเร็วสูง การเกาะถนนดีเยี่ยม โครงสร้างของยางนั้นไม่ซับซ้อน และมีน้ำหนักเบา จึงทำให้ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ลง ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันลงไปด้วย โดยยางชนิดนี้ไม่เหมาะกับการเอาไปลุุยในถนนออฟโรดซักเท่าไหร่เพราะยางมีความอ่อนนุ่ม แต่ถ้าเป็นถนนขรุขระเพียงเล็กน้อยก็ยังพอจะไปกันได้

ยางประเภทที่สองคือยางแบบ AT หรือชื่อเต็มคือ All Terrain
เป็นยางที่ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งขึ้นจากยางประเภทแรกอย่าง Highway terrain โดยโครงสร้างยางแบบ AT ถูกสร้างให้มีความแข็งแรงขึ้น และมีดอกยางที่ใหญ่ขึ้น จึงทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
และด้วยคุณสมบัตินี้จึงเป็นยางที่ใช้งานได้เอนกประสงค์ สามารถใช้ลุยในทางที่เป็นบ่อเลน
ทางดินธรรมชาติตามป่าเขาได้พอสมควร เพราะดอกยางที่ใหญ่จึงทำให้สามารถตะกุยดินได้ดีกว่า ส่วนการใช้งานบนถนนทางเรียบนั้นสามารถทำได้ แต่การยึดเกาะนั้นด้อยกว่ายางแบบ Highway terrain มีเสียงดังขณะวิ่ง และด้วยน้ำหนักที่มากกว่าจึงทำการการซดน้ำมันเพิ่มขึ้นตามมาด้วย

และสุดท้ายเป็นยางแบบ MT หรือ Mud terrain
เป็นยางที่ออกแบบมาเพื่อการลุยแบบสมบุกสมบันอย่างแท้จริง ด้วยโครงสร้างที่ใหญ่ แข็งแรง
และมีดอกยางที่หนากว่ายางสองประเภทแรก ร่องยางลึก และห่าง สำหรับไว้ตะกุยดินโดยเฉพาะ
ใช้งานได้ดีเยียมในทางดิน บ่อโคลน และถนนดินตามธรรมชาติต่างๆ แต่การที่จำนำมาใช้งานในถนนทางเรียบนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะด้วยน้ำหนักตัวยางที่มาก ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ มีเสียงดังมากขณะวิ่ง และอัตราการเกาะถนนต่ำมากเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว เป็นเพราะดอกยางสัมผัสกับพื้นถนนไม่มากพอ ที่สำคัญเป็นยางที่ราคาสูง จึงไม่เหมาะกับคนที่ใช้ถนนทางเรียบเป็นหลัก เพราะนอกจากคุณจะเสียเงินซื้อยางที่แพงแล้ว ยังต้องเสียเงินเติมน้ำมันที่มากขึ้นอีก

สุดท้ายยางแต่ละประเภทนั้นก็จะมีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ฉนั้นก่อนเปลี่ยนยางคู่ต่อไปก็อย่าลืมสำรวจวิถีชีวิตของตัวเองด้วยนะครับ ว่าเราเหมาะกับยางประเภทไหนมากที่สุด หรือหากใครมีความชอบส่วนตัวอันนี้เราก็ไม่ว่ากัน เพื่อนๆคาร์เรพเวอร์ละครับ รถคู่ใจตอนนี้ใช้ยางสไตล์ไหนกันอยู่คอมเม้นบอกเราด้วยนะครับ

และนี่ก็เป็นข่าวสารความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ หากชื่นชอบข่าวสารสไตล์นี้อย่าลืมกดไลค์และกดติดตามเพื่อรอรับข่าวสารใหม่ๆกันด้วยนะครับ วันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่ในคลิปหน้า สวัสดีครับ