Скачать или смотреть 2025- 01 -25 พระเจ้าสีป่อ พระมหากษัตริย์องสุดท้ายของราชวงค์พม่าศิษย์สำนักโหรพลูโต

พระเจ้าสีป่อ (พม่า: သီပေါ‌မင်း ตีบอมี่น) เป็นพระมหากษัตริย์พม่าพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์โก้นบอง ถูกบังคับให้สละราชสมบัติและเนรเทศไปอยู่ที่เมืองรัตนคีรีในบริติชราช หลังสิ้นสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สาม และสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2459พระเจ้าสีป่อเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามินดงกับเจ้าหญิงจากเมืองสี่ป้อในดินแดนไทใหญ่ มีพระนามเดิมว่าเจ้าชายหม่องปุ (မောင်ပု) ขอพระราชอนุญาตอัญเชิญดวงพระชะตาของพระองค์นั้น ไม่ได้เกณฑ์ดวงมาตรฐานใดๆ ทั้งพระ ราชลัคนาและดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนพระราชลัคนา แต่ที่มีวาสนาบารมีได้เป็น พระเจ้าแผ่นดิน เนื่องจากพระราชลัคนามี ดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนพระราช ลัคนาเป็นเกษตรกุม, ดาวพฤหัสบดี (๕) มหาอุจ โยคหน้า, ดาวพลูโต (พ) เกษตร ปิดทองหลังพระ หรือช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง, ดาวเนปจูน (น) เกษตร และ ดาวจันทร์ (๒) โยคหลัง, ดาวศุกร์ (๖) ตรีโกณ ดาวพุธ (๔) เล็ง ถือว่า ทั้ง พระราชลัคนา และดาวเจ้าเรือนพระราชลัคนา ได้รับกระแสที่ดีจากดาว ศุภเคราะห์ที่มีศักดิ์สูง และดาวที่ให้คุณมากมายถึง ๗ ดวง
ดาวมฤตยู (๐) เจ้าเรือนกัมมะ และ ดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนลัคน์ ที่ กุมพระราชลัคนานั้น เป็นดาวคู่มิตร หรือคู่มหาลาภทางการเงิน เมื่อได้รับกระแส ที่ดีจากดาวศุภเคราะห์ และดาวที่ให้คุณ จึงส่งผลให้พระองค์ได้เสวยราชสมบัติ เป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งร่ํารวยมากกว่าประเทศอื่นใดในยุคนั้น
ดาวพลูโต (พ) เกษตร เจ้าเรือนวินาศนะ ที่อยู่ในตําแหน่งปิดทองหลังพระนั้น ส่งผลให้พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ แบบชนิดไม่คาดคิดคาดฝัน ว่าจะ ได้รับการคัดเลือกให้ได้เป็นกษัตริย์ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นคนเชื่องช้า อ่อนแอ ชักจูงง่าย ไม่มีปากเสียง หรือเอาเรื่องราวอันใด หรือสรุปง่าย ๆ ให้เป็นหมากตัว หนึ่งมีพระราชินีศุภยาลัตและพระนางซินผิ่วมะฉิ่น แม่ยายผลักดันให้ขึ้นครองราชบัลลัง แต่เนื่องจากดาวพลูโต (พ) เป็นบาปเคราะห์ ร้ายเจ้าเรือนทุสถานะ จึงเปรียบเสมือนหอกข้างแคร่ที่ทิ่มแทง และชักใยให้ พระองค์ต้องยินยอม ประกาศสงครามกับอังกฤษ จนทําให้ราชวงศ์ต้องล่มสลาย จริงอยู่ในดวงนี้คู่ครองให้คุณอยู่บ้าง แม้จะเป็นการให้คุณแล้วเกิด โทษตามมา ด้วยการสนับสนุนให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เนื่องจาก ดาวอังคาร (๓) เจ้าเรือนปัตนินั้นได้รับกระแสที่ดีจากดาวศุภเคราะห์ที่มีศักดิ์สูง และ ดาวที่ให้คุณหลายดวง คือมี ดาวพุธ (๔) นําหน้า, ดาวอาทิตย์ (๑) โยคหน้า, ดาวศุกร์ (๖) และดาวพฤหัสบดี (๕) มหาอุจ จตุโกณทั้งสองจุด, ดาวพลูโต (พ)เกษตรเล็ง ในดวงที่คู่ครองให้โทษ ดาวเจ้าเรือนปัตนิมักจะตกอยู่ในภพทุสถานะ และถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างยับเยิน จะเห็นได้ว่าดวงของพระองค์นั้น ดาวอังคาร (๓) เจ้าเรือนปัตนิ อยู่ในภพอริ ถูกดาวบาปเคราะห์ และดาวที่ให้ โทษทํามุมเบียนอย่างหนักถึง ๙ ดวง กล่าวคือ มีดาวพลูโต (พ) เล็ง, ดาว พฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนมรณะ เกตุ (๙), ราหู (๘) ศุกร์ (๖) เจ้าเรือนอริ กากบาท ทั้งสองจุด, ดาวมฤตยู (o), ดาวเนปจูน (น) ทํามุมปลายหอกทิ่มแทงทั้งสองจุด ดาวอาทิตย์ (๑) คู่ศัตรู โยคหน้า และ ดาวเสาร์ (๗) โยคหลัง
จะสังเกตเห็นว่า ดาวเนปจูน (น) เกษตรเจ้าเรือนลาภะ นั้นมี ดาว จันทร์ (๒) เจ้าเรือนสหัชชะ และดาวพันธุโลกธรรม ในที่นี้หมายถึงสตรีที่มีศักดิ์ เป็นพี่น้องกัน คือ พระนางศุภยลัต ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ามินดงเหมือน กัน แต่ต่างพระมารดากัน เกาะกุม และยังได้รับกระแสที่ดีจากดาวศุภเคราะห์ อื่นๆ และดาวที่ให้คุณอีกหลายดวง กล่าวคือ มีดาวพลูโต (พ) เกษตรนําหน้า ดาวแบคคัส (บ) เกษตร และดาวมฤตยู (๐) คู่มิตร ร่วมกันโยคหน้า, ดาวศุกร์ (๖) โยคหลัง, ดาวอาทิตย์ (๑) จตุโกณ, ดาวพุธ (๔) ดาวพฤหัสบดี (๕) มหาอุจ ตรีโกณ ทั้งสองจุด จึงได้รับลาภผลอันมากมายมหาศาลทั้งทรัพย์สินเงินทอง และอํานาจวาสนาบารมีในฐานะพระเจ้าแผ่นดิน
แต่เป็นลาภทุกข์ หรือมีลาภแล้วมีทุกข์ตามมาในภายหลัง เนื่องจากดาวเนปจูน (น) เกษตรเจ้าเรือนลาภะนั้น ถูกบาปเคราะห์ และดาวที่ให้โทษ เรียนอย่างยับเยินไม่น้อยไปกว่ากัน กล่าวคือ มีดาวพลูโต (พ) นําหน้า, ดาวมฤตยู (๐) โยคหน้า, ดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนอริ ราหู (๘) โยคหลัง, ดาวพฤหัสบดี (๕) มหาอุจเจ้าเรือนมรณะ, เกตุ (๙) ตรีโกณ โดยมี ดาวเสาร์ (๗) ดาวอังคาร (๓) ท่ามุมปลายหอกทิ่มแทงทั้งสองจุด จึงเข้าข่ายโลกธรรมที่ว่า มีลาภก็มีเสื่อมลาภ และมีสุขก็มีทุกข์ตามมา
ความทุกขของพระองค์คือ ต้องถูกประณามจากพสกนิกร ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ในฐานะ องค์ประมุขที่อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพ นําพาประเทศชาติให้ต้องตกเป็นเมืองขึ้น ของฝรั่งตาน้ําข้าว, ที่ถูกปลดออกจากฐานะกษัตริย์ ถูกจับกุมคุมขัง หรือ ควบคุมตัวในฐานะเชลยศึก ถูกเนรเทศไปอยู่ที่อินเดีย จนกระทั่งวาระสุดท้าย แห่งพระชนม์ชีพ ไม่มีโอกาสกลับมาสวรรคตบนผืนแผ่นดินเกิด เหตุการณ์คือพระองค์พระชนมายุ19 พรรษา ด้วยความช่วยเหลือจากพระนางอเลนันดอ พระมเหสีองค์หนึ่งของพระราชบิดาและเหล่าขุนนางชั้นสูงกลุ่มหนึ่ง มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฎว่า สิริปวรวิชยานันตยสติโลกาธิปติปัณฑิตมหาธัมมราชาธิราชาเดือนมกราคม พ.ศ. 2421 และยกเลิกแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2421ในรัชกาลของพระองค์ได้ส่งคณะทูตไปยังฝรั่งเศสเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2426 และได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการทำสัญญาทางการค้า ยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ซึ่งได้สร้างความหวาดระแวงให้อังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2428 พม่าเรียกค่าปรับจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มาเทรดดิงเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านรูปี อังกฤษจึงตัดสินใจยื่นคำขาดต่อพม่าในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428 โดยให้พม่าลดค่าปรับ ให้ความสะดวกแกอังกฤษในการค้าขายกับจีนและให้อังกฤษควบคุมนโยบายต่างประเทศของพม่า พม่าปฏิเสธมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน กองทัพอังกฤษจึงเคลื่อนทัพออกจากย่างกุ้งไปยังพม่าเหนือในวันที่ 14 พฤศจิกายน2428และยึดมัณฑะเลย์ได้ยอมแพ้ถูกเนรเทศในวันที่ 28พฤศจิกายน2428พระชนมายุเพียง ๒๕ พรรษาต้องไปประทับประเทศอินเดียจนวารสุดท้าย