เมื่อถูกหมายเรียก ให้ไปพบพนักงานสอบสวน ควรทำอย่างไร ? | Modern Law

Описание к видео เมื่อถูกหมายเรียก ให้ไปพบพนักงานสอบสวน ควรทำอย่างไร ? | Modern Law

ทำอย่างไรเมื่อ ถูกหมายเรียก ให้ไปพบพนักงานสอบสวน

เมื่อผู้ต้องหาได้รับหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน หรือมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง หรือเมื่อผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมตัวในความผิดซึ่งหน้าหรือการจับกุมตัวตามหมายจับ

ขั้นตอนต่อไป พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ และสอบคำให้การของผู้ต้องหารวบรวมเข้าสำนวนไว้ ซึ่งในกระบวนการนี้ ผู้ต้องหามักไม่ทราบแนวทางปฏิบัติว่าเป็นอย่างไร จนบางครั้งทำให้เสียสิทธิของตนตามกฎหมาย ซึ่งทางปฏิบัติแล้วกระบวนการดังกล่าว ทางข้อกฎหมายและแนวปฏิบัติที่ผู้ต้องหารวมทั้งทนายความของผู้ต้องหา ควรรับทราบเป็นแนวทาง ดังนี้

1.การรับทราบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา และรับทราบข้อกล่าวหา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 วรรคหนึ่ง พนักงานสอบสวนจะต้องแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ ถึง “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิด แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ” ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 ฉบับเดิมก่อนมีการแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ. 2547 นั้น พนักงานสอบสวนมีหน้าที่เพียงแจ้ง “ข้อกล่าวหา” ให้ผู้ต้องหาทราบแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีหน้าที่แจ้ง “ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิด” ให้ผู้ต้องหาทราบแต่อย่างใด ดังนั้นแต่เดิมพนักงานสอบสวนมีหน้าที่เพียงแจ้งข้อกล่าวหาสั้นๆ ให้ ผู้ต้องหาทราบ เท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะทำบันทึกการแจ้งข้อหาซึ่งจะระบุรายละเอียด ข้อเท็จจริงต่างๆไว้ ซึ่งผู้ต้องหาและทนายความผู้ต้องหาสามารถใช้เพื่อศึกษาเตรียมแนวทางต่อสู้คดี ต่อไปได้โดยสะดวก และหากพนักงานสอบสวนไม่มอบสำเนาบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหา ก็จะต้องทวงถามทันที และบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาฉบับนี้ ผู้ต้องหาจะต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี ทนายความของผู้ต้องหาจะต้องอาศัยข้อเท็จจริงที่ปรากฎในบันทึกข้อกล่าวหาเพื่อเตรียมแนวทางต่อสู้คดีต่อไป

2.การให้การในชั้นสอบสวน
สิทธิประการต่อมาของผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 ก็คือ สิทธิในการชี้แจงแก้ข้อหา และแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนเองได้ กล่าวคือ ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การแก้คดีในประเด็นต่างๆที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อเท็จจริงมาข้างต้นได้ และพนักงานสอบสวนมีหน้าที่จะต้องจดคำให้การของผู้ต้องหาดังกล่าวไว้ในคำให้การชั้นสอบสวน ถ้าหากพนักงานสอบสวนบ่ายเบี่ยง ไม่จดบันทึกคำให้การ โดยอ้างว่าให้ไปให้การในชั้นศาล หรือจดบันทึกคำให้การเฉพาะส่วนที่พนักงานสอบสวนต้องการ ส่วนไหนที่พนักงานสอบสวนไม่ต้องการก็ไม่จดบันทึก เช่นนี้ย่อมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ต้องหาและทนายความผู้ต้องหามีสิทธิโต้แย้งคัดค้านได้


ทั้งนี้ในชั้นสอบสวนครั้งแรก หากผู้ต้องหายังให้การแก้ข้อกล่าวไม่ครบถ้วน หรือพบว่ามีข้อเท็จจริงบางอย่างที่เป็นประโยชน์แต่ยังไม่ได้ให้การชั้นสอบสวน หรือพึ่งจะสืบพบข้อเท็จจริงดังกล่าวภายหลัง ระหว่างที่ยังไม่ส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการ ผู้ต้องหาย่อมมีสิทธิร้องให้ขอให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมได้ และหากส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปแล้ว ย่อมมีสิทธิร้องขอให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนตนเองเพิ่มเติมได้ แต่ทั้งนี้เป็นดุลยพินิจของพนักงานอัยการว่าจะสั่งให้สอบเพิ่มเติมหรือไม่

3.การอ้างพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุในชั้นสอบสวน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 พนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถกระทำได้ เพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา

ดังนั้น ถ้า ผู้ต้องหามีพยานบุคคล พยานเอกสาร หรือพยาน วัตถุ ที่จะสามารถ พิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ผู้ต้องหา ย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลไปให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และมีสิทธิอ้างอิงพยานเอกสารและพยานวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบันทึกวีดีโอ รูปภาพ หรือเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับคดีและมีหน้าที่รับเอกสารดังกล่าวรวมเข้าสำนวนสอบสวนไว้ เพื่อประกอบการสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้การนำพยานหลักฐานต่างๆมาให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนรวบรวมเข้าสำนวน อาจจะทำให้วันทำการรับทราบข้อกล่าวหาครั้งแรก หรือนำมาภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็ได้ แต่ต้องทำก่อนที่พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการ ซึ่งถ้าพนักงานสอบสวนส่งสำนวนสอบสวนให้กับพนักงานอัยการแล้ว ผู้ต้องหาต้องการขอให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติม ก็ต้องร้องขอให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นดุลยพินิจของพนักงานอัยการที่สั่งให้สอบเพิ่มเติมหรือไม่ก็ได้

ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา และกระบวนการขั้นตอนในชั้นสอบสวนในทางปฏิบัติ ที่ผู้ต้องหาทุกควรทราบก่อนไปให้การในชั้นสอบสวนต่อพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ก่อนการสอบสวน ผู้ต้องหามีสิทธินำทนายความของตนเองไปช่วยให้คำปรึกษาและอยู่ร่วมฟังการสอบสวนเพื่อรักษาสิทธิของตนเองได้ แต่ถ้าหากผู้ต้องหาไม่มีทนายความ และต้องการทนายความ ถ้าคดีนั้นเป็นคดีที่มีโทษจำคุก มิใช่เป็นคดีที่มีแต่โทษปรับ ก็สามารถร้องขอให้พนักงานสอบสวนจัดหาทนายความให้ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134/1 อนุมาตรา 2

---------------------------------------------------------------------------------------
*หากคลิปนี้ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

Page Facebook : ModernLaw
หรือคลิกที่ลิงค์ :   / modernlawth  

Комментарии

Информация по комментариям в разработке