Скачать или смотреть สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ 2025 ตึกร้าง 49 ชั้นในตำนาน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ 2025

ตึกร้าง 49 ชั้นในตำนาน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

"สาธร ยูนีค ทาวเวอร์" (Sathorn Unique Tower) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ตึกร้างสาทร" หรือ "Ghost Tower"

เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของวิกฤตการณ์เศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997)

และกลายเป็นอาคารที่ถูกทิ้งร้างกลางกรุงเทพมหานครมานานกว่าสองทศวรรษ

ประวัติโดยย่อ

แนวคิดและการก่อสร้างเริ่มต้น (ยุค 90s)

สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ได้รับการออกแบบโดย รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในยุคนั้น (ซึ่งเป็นผู้ออกแบบอาคารสเตท ทาวเวอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อตึกเลบัว ซึ่งเป็นตึกคู่แฝดของสาธร ยูนีค ทาวเวอร์)

โครงการนี้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) โดยตั้งใจให้เป็นอาคารชุดพักอาศัยหรูหรา 49 ชั้น จำนวนประมาณ 600 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถ 10 ชั้น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนั้น

วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง (พ.ศ. 2540)

การก่อสร้างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โครงสร้างหลักของอาคารเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วประมาณ 80-90%

แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย หรือ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ในปี พ.ศ. 2540

เศรษฐกิจไทยทรุดตัวลงอย่างรุนแรง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

บริษัทไฟแนนซ์ที่สนับสนุนทางการเงินให้กับโครงการประสบปัญหาหนี้สิน โครงการก่อสร้างจำนวนมากในกรุงเทพฯ ต้องหยุดชะงักลง สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น และถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่นั้น

สาเหตุที่ถูกทิ้งร้างและเรื่องราวเบื้องหลัง

วิกฤตเศรษฐกิจ : เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินในการก่อสร้างต่อ

คดีความ : ในปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) นายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ ถูกจับกุมในข้อหาพยายามฆ่าประธานศาลฎีกา (คดีนี้ยืดเยื้อมานานถึง 15 ปี และศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้องในปี พ.ศ. 2551) แม้คดีนี้จะได้รับการพิสูจน์แล้ว แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โครงการสะดุดลง

ทัศนคติของเจ้าของ : แม้จะมีนักลงทุนจำนวนมากสนใจที่จะเข้ามาซื้อและพัฒนาต่อ แต่ทางเจ้าของโครงการยังคงยืนยันที่จะไม่ขายในราคาที่ต่ำกว่าทุน เพื่อต้องการที่จะคืนเงินให้กับผู้จองซื้อห้องชุดเดิมทั้งหมด ทำให้โครงการยังคงถูกทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน

สถานะปัจจุบันและตำนาน

สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ กลายเป็นตึกร้างที่สูงที่สุดในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในตึกร้างที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย (เคยติดอันดับ 4 ของโลกในปี 2560)

ได้รับความสนใจจากนักสำรวจเมือง (Urban Explorer) ช่างภาพ และผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายจากทั่วโลก และถูกเรียกว่า "Ghost Tower" หรือ "ตึกผีสิง" เนื่องจากมีเรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับอาถรรพ์ต่างๆ รวมถึงการพบศพผู้เสียชีวิตภายในอาคาร

แม้จะถูกทิ้งร้างมานาน แต่โครงสร้างหลักของอาคารยังคงแข็งแรง และไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของงานโครงสร้างในยุคนั้น

ปัจจุบัน ทางเข้าอาคารถูกปิดกั้นอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการบุกรุกและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ จึงไม่ได้เป็นเพียงอาคารที่ถูกทิ้งร้าง แต่ยังเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงช่วงเวลาสำคัญของเศรษฐกิจไทย และยังคงเป็นจุดสนใจที่น่าค้นหาและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวในมุมมองที่แตกต่างกันไป