Скачать или смотреть งานประจำ

งานประจำอย่างมนุษย์เงินเดือน งานอิสระแบบฟรีแลนซ์ งานแบบไหนเหมาะกับเรากันแน่ คลิปนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันครับผม

อันดับแรก แยกประเด็นของความหมายก่อนว่า งานประจำ กับ งานอิสระ อันนี้มันต่างกันยังไง ในมุมของพรี่หนอมมองแบบนี้ครับ คือ

งานประจำ คือ งานที่มีกำหนดเวลาในการทำงานแน่นอน ขึ้นอยู่กับที่ตกลงกับนายจ้าง ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ มนุษย์เงินเดือน นั่นแหละ มีกำหนดการทำงานชัด จ่ายเงินค่าจ้างให้ทุกเดือน ปรับขึ้นทุกปี อะไรแบบนี้ที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ

งานอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ หรือ ถ้ายุคนี้อาจจะเรียกว่า Gig Economy คืองานที่เป็นการตกลงกันเป็นงาน ๆระหว่าง คนทำงาน กับ คนจ้าง ในฐานะคนทำงาน เราเลือกรับงานได้ว่าจะทำงานไหน และเขาก็เลือกได้ว่าจะจ้างเราทำงานไหนบ้าง ผลตอบแทนอยู่ที่การตกลงกันไว้ แน่นอนว่า เงินที่เข้าและเวลาที่ใช้ก็ค่อนข้างไม่แน่นอนครับ

ทีนี้มาที่ประเด็นว่าเราควรเลือกงานแบบไหนยังไงดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงฟันธงง่ายๆ ได้เลยว่า ถ้าอยากมั่นคงให้ทำงานประจำ แต่ยุคนี้อาจจะไม่ใช่ขนาดนั้น จากผลกระทบของโรคระบาดเอย วิกฤตเศรษฐกิจต่างๆ งานประจำอาจจะไม่มั่นคงขนาดนั้นครับ แต่ถ้าในตอนนี้มุมของพรี่หนอมมองว่าต้องตอบ 3 ข้อนี้ให้ชัดครับ นั่นคือ

เราชอบการทำงานแบบไหน ?

บางคนชอบความเป็นงานประจำตรงที่ มันมีความหลากหลายทั้งสังคม (ออฟฟิศ) การเจอผู้คน โอกาสเติบโตก้าวหน้าในอนาคตของตัวเองตามสายงาน ในขณะที่บางคนอาจจะชอบการทำงานคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวเอง เพื่อให้สะดวกและโฟกัสได้มากกว่า

ดังนั้นต้องเช็คให้ดีก่อนว่า เราเองชอบทำงานแบบไหนมากกว่ากัน ซึ่งในแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียของการบริหารจัดการแตกต่างกันไปนะครับ ออฟฟิศก็ต้องบริหารจัดการสังคมความหลากหลายที่ว่านี้ มีการติดต่อพบเจอมากเสียหน่อย ในขณะที่เป็นฟรีแลนซ์ทำงานคนเดียวก็ต้องบริหารจัดการตัวเองให้ดี สวัสดิการไม่มีให้ เพราะว่าเราเองก็ต้องดูแลทุกขั้นตอนค่อนข้างมาก

เราวางแผนหน้าที่การงานไว้อย่างไร ?

ถ้าเราวางแผนเติบโตตามประสบการณ์ ความสามารถ และขั้นตอนที่เป็นระดับในองค์กร สายงาน หรือมีภาพไว้ชัดว่าจะต้องไปทำงานในองค์กรแบบไหนยังไง ตรงนี้งานประจำตอบโจทย์กว่าครับ

แต่ถ้าหากเราวางแผนในอนาคตเติบโตในมุมของการไปต่อธุรกิจ การจัดการชีวิต ฝึกฝนพัฒนาด้านอื่นๆ นอกเหนือจากหน้าที่การงาน ปัญหารอบด้านต้องแก้ไข แบบนี้ฟรีแลนซ์ก็น่าจะช่วยตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ

แต่สิ่งสำคัญทีต้องระวัง คือ กับดักของการเติบโต กับต้นทุนในการเปลี่ยนงาน ครับ เมื่อเติบโตมาก ๆ เข้าเราจะไม่สามารถเปลี่ยนระหว่างสองฝั่งนี้ได้ง่ายเหมือนที่เราคิดครับ เช่น ถ้าเราทำงานประจำมานานๆ เราอาจจะไม่กล้าที่จะลาออกมา เพราะก็ไม่แน่ใจว่างานฟรีแลนซ์ที่ได้จะมีผลตอบแทนเท่ากับที่เราเคยได้ไหม ไปจนถึงสังคม บทบาท หรือ หน้าที่มันทำให้เราต่อยอดในงานประจำได้ดีกว่า

ในขณะที่ฟรีแลนซ์เอง ถ้าไม่ไหว จะกลับไปทำงานประจำ มันก็จะมีช่วงเวลาของมันนะครับ โดยเฉพาะงานทั่วไปที่อาศัยประสบการณ์ในการทำงานประจำ หรือ อายุ ตรงนี้ก็เป็นจุดที่อาจจะกลับไปได้ยาก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกที่ว่านี้ อยู่ที่เราพอใจนะครับ ไม่มีถูกหรือผิด และมันก็เปลี่ยนกันได้เสมอครับ

เราชอบข้อได้เปรียบการเงินแบบไหน?

ข้อได้เปรียบหนึ่งของการทำงานประจำ คือ การกู้ครับ ถ้าเทียบกับฟรีแลนซ์แล้ว มนุษย์เงินเดือนกู้ง่ายมากกว่าครับ สามารถกู้เงินจากธนาคารเพื่อไปผ่อนรถ, ผ่อนบ้าน ได้ง่าย มีสลิปเงินเดือน หลักฐานการจ่ายเงินเดือน ก็กู้ได้แล้ว ในขณะที่ฟรีแลนซ์นี่ต้องพิสูจน์ความมั่นคงของรายได้เหนื่อยมากเลยครับ

แต่ในทางกลับกัน ฟรีแลนซ์ก็มีโอกาสเติบโตเรื่องรายได้อย่างก้าวกระโดดมากกว่า ถ้าหากเป็นงานมูลค่าสูง ๆ จากลูกค้า หรือทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ไม่ติดข้อจำกัดเรื่องของเงินเดือน หรือ การเติบโตทางสายงาน แต่ก็บางทีต้องมีการลงทุนอะไรเพิ่มเติม ก็ขึ้นอยู่กับงานที่ทำครับ

จากมุมมองทั้งหมดที่ว่ามา ลองเอาไปตัดสินใจกันดูครับ แต่ต้องย้ำอีกทีว่า ไม่ว่าจะงานประจำหรือฟรีแลนซ์ ทั้งสองประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับ สิ่งที่เราควรรู้คือ เราชอบแแบบไหน ข้อจำกัดชีวิตเราเป็นอย่างไร และ สุดท้าย คือ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ขอให้มั่นใจทางเลือกที่เราเลือกนั้นพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ครับ พรี่หนอมเป็นกำลังใจให้ครับผม

#ภาษีสังคม รายการที่ชวนทุกคนไปเรียนรู้เรี่องที่นอกเหนือจากภาษี เพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวเรื่องต่าง ๆ พูดคุยกับคนที่น่าสนใจ ไปจนถึงชวนครุ่นคิดถึงคำถามในการใช้ชีวิตในมุมมองที่แตกต่างกันไปกับพรี่หนอม TAXBugnoms เจ้าเก่าเจ้าเดิม เพิ่มเติมคือทำเรื่องอื่นนอกจากภาษีบ้างแล้วครับ

ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับผม

0:00 Intro
0:26 ความหมายของงานประจำกับงานอิสระ
2:15 เราควรเลือกงานแบบไหนยังไงดี?
2:51 เราชอบงานนั้นไหม?
4:22 เราวางแผนอนาคตไว้ยังไง?
5:50 ระวังกับดักของการเติบโต
7:18 อย่าลืมข้อได้เปรียบการเงิน
8:47 สรุป