ภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ แด่พระผู้ทรงธรรม เรื่อง นรสิงหาวตาร

กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดทำภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติ แด่พระผู้ทรงธรรม
เรื่อง "นรสิงหาวตาร"
กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
เรื่องย่อ
(ดัดแปลงจากปางที่ 4 ในนารายณ์สิบปาง) ยักษ์ตนหนึ่งชื่อ หิรัณยกศิปุ มีความโกรธแค้นพระนารายณ์ที่สังหารพี่ชายตน (ในปางที่ 3) จึงบำเพ็ญตบะจนแก่กล้า เพื่อขอพรพระพรหม โดยขอให้ตนไม่ตายด้วยน้ำมือมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน ไม่ตายด้วยอาวุธใดๆ ไม่ตายกลางวัน ไม่ตายกลางคืน ไม่ตายในเรือน และไม่ตายนอกเรือนครั้นพระพรหมได้พรแล้ว หิรัณยกศิปุจึงกำเริบเสิบสานยกทัพไปรบกับเทวดาในวิมานชั้นฟ้า เทวดาก็แพ้พ่ายแม้แต่พระอินทร์ยังต้องหนีออกจากวัง หิรัณยกศิปุจึงตั้งต้นเป็นใหญ่แทนพระอิทร์ พระอินทร์ไปเข้าเฝ้าพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่เหนือบังลังก์อนันตนาคราชทูลขอให้ช่วยพระนารายณ์ เห็นว่าพรที่หิรัญยกศิปุขอนั้นได้ขอดักไว้ทุกทางจนแก้ไขได้ยาก แต่เมื่อเห็นความเดือดร้อนของเหล่าเทพยดาจึงจำต้องหาทางช่วย หิรัญยกศิปุเมื่อปราบพระอินทร์ได้แล้ว ก็กำเริบท้าทายพระนารายณ์รูปที่สลักอยู่บนเสา โดยเอาคฑาตีเสา ทันใดนั้นมีนรสิงห์ตนหนึ่งแหวกเสาออกมาจับตัวหิรัญยกศิปุ ลากตัวไปที่ธรณีประตู ถามว่าเราเป็นมนุษย์หรือสัตว์ หิรัณยกศิปุตอบว่าไม่ใช่มนุษย์และไม่ใช่สัตว์ พระนารายณ์ชูกรงเล็บกรดของนรสิงห์ให้ดูถามว่านี่เป็นอาวุธหรือไม่ หืรัณยกศิปุ ตอบว่ามิใช่อาวุธ พระนารายณ์ถามว่า เวลานี้กลางวันหรือกลางคืน เวลานั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ หิรัญยกศิปุจึงตอบว่า ไม่ใช่กลางวัน และไม่ใช่กลางคืน พระนารายณ์ชี้ที่ธรณีประตูถามว่าที่นี่ในเรือนหรือนอกเรือร หิรัณยกศิปุตอบว่า ไม่ใช่ทั้งในเรือนแลนอกเรือน จากนั้นนรสิงห์จึงใช้กรงเล็บฉีกอกสังหารหิรัณยกศิปุจนตายแล้วคืนร่างเป็นพระนารายณ์เหาะกกลับไปบรรทมสินธุ์ตามเดิม