ภิกขุปาฏิโมกข์ | สังฆอุโบสถ พระวินัย ๒๒๗ | บทในพระปาฏิโมกข์ [มคธ]

Описание к видео ภิกขุปาฏิโมกข์ | สังฆอุโบสถ พระวินัย ๒๒๗ | บทในพระปาฏิโมกข์ [มคธ]

สวดโดยพระทรงวุฒิ ถิรจิตโต
Thai Monks Pali Chanting | Recitation of Patimokkha

" ปาติโมกข์ หมายถึง คัมภีร์ที่รวมวินัยของสงฆ์ ๒๒๗ ข้อ คัมภีร์ที่ประมวลพุทธบัญญัติอันทรงตั้งขึ้นเป็นพุทธอาณา มีพุทธานุญาต ให้สวดในที่ประชุมสงฆ์ ทุกกึ่งเดือน เรียกกันว่า สงฆ์ทำอุโบสถ บทปาติโมกข์เหล่านี้ปรากฏอยู่ในพระวินัยปิฎก หมวดสุตตวิภังค์

การสวดปาฏิโมกข์ เป็นทั้งสังฆกรรมตามพระวินัย และเป็นกิจสงฆ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนา ควรมีโอกาสได้ร่วมฟัง

ใน วินัยระบุว่า วัดหนึ่งจะต้องมีภิกษุสวดปาฏิมกข์ได้หนึ่งรูป หากไม่มีเจ้าอาวาสต้องขวนขวายให้มี หากไม่ขวนขวายเป็นอาบัติ ถ้าขวนขวายแล้วยังไม่มี พอถึงวันปาฏิโมกข์ต้องไปร่วมฟังในวัดที่มีการสวดปาฏิโมกข์ ถ้าในย่านนั้นไม่มีวัดที่มีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ หรือมีภิกษุไม่ครบ ๔ รูป ไม่ต้องสวดปาฏิโมกข์ แต่ให้อธิษฐานอุโบสถแทน โดยตั้งใจว่า "วันนี้เป็นวันอุโบสถ"

"..ศีลของพระภิกษุที่มาในพระปาติโมกข์ ซึ่งพระต้องประชุมกันฟังทุกกึ่งเดือน มีจำนวนที่รู้ทั่วกันว่า “๒๒๗ สิกขาบท” ดังที่มักพูดกันว่า “พระมีศีล ๒๒๗”
ศีล ๒๒๗ แบ่งเป็นกลุ่มหรือเป็นหมวดได้ดังนี้ –
(๑) ปาราชิก ๔ สิกขาบท
(๒) สังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท
(๓) อนิยต ๒ สิกขาบท
(๔) นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ สิกขาบท (เรียกสั้นว่า นิสสัคคีย์)
(๕) สุทธิกปาจิตตีย์ ๙๒ สิกขาบท (เรียกสั้นว่า ปาจิตตีย์)
(๖) ปาฏิเทสนียะ ๔ สิกขาบท
(๗) เสขิยะ หรือเสขิยวัตร ๗๕ สิกขาบท
(๘) อธิกรณสมถะ ๗ สิกขาบท
รวม ๒๒๗ สิกขาบท"

"..ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลเป็นพื้นฐาน เป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ ประหนึ่งแผ่นดินเป็นที่รองรับและตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพ และหาชีพมิได้ เป็นต้นว่า พฤกษาลดาวัลย์ มหาสิงขร และสัตว์จตุบททวิบาท นานาชนิด บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้นใจย่อมอยู่สบาย มีความปลอดโปร่ง เหมือนเรือนที่มีบุคคลปัดกวาด เช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ คือ ความสงบใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้นเป็นพื้นฐาน เป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ เหมือนเรือนที่มีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาสำหรับป้องกันลม แดด และฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิดีก็ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ไม่กระวนกระวาย
เมื่อลม แดด และฝน กล่าวคือ โลกธรรม แผดเผากระพือพัดซัดสาดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิอย่างนี้ย่อมก่อให้เกิดปัญญาในการฟาดฟันย่ำยีและเชือดเฉือนกิเลสอาสวะต่าง ๆ ให้เบาบางและหมดสิ้นไป เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจับศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานกัน

"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้นย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่กำจัดความมืดให้ปลาสนาการ มีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละออง คือกิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึงเป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ"

"อันว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตใจให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอกแล้วด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง"

"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ ย่อมพบกับปีติปราโมทย์อันใหญ่หลวง รู้สึกตนว่าได้พบขุมทรัพย์มหึมา หาอะไรเปรียบมิได้ เอิบอาบซาบซ่านด้วยธรรม ตนของตนเองนั่นแลเป็นผู้รู้ว่า บัดนี้ กิเลสานุสัยต่าง ๆ ได้สิ้นไปแล้ว ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว เหมือนบุคคลผู้ตัดแขนขาด ย่อมรู้ด้วยตนเองว่า บัดนี้แขนของตนได้ขาดแล้ว"

".ช่อง ธรรมะ. พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
..วัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ ธรรมะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา เพื่อเทิดทูนเคารพบูชา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า {ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แสงสว่าง บนผืนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง} เพื่อเป็นอานิสงส์เป็นประโยชน์แก่พุทธมามกะ พุทธบริษัทชาวพุทธสืบต่อไปฯ
..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ตลอดทั้งผู้มีส่วนทุกท่าน ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย
"จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
[จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตโต]

Комментарии

Информация по комментариям в разработке