เสียงหอน ของรถยนต์ คืออะไร? สามารถบ่งบอกว่าชิ้นส่วนไหนกำลังจะพัง

เสียงหอนเป็นลักษณะ เสียงของชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนที่ผิดปกติจากรถยนต์ ส่วนมากมักจะเป็น พวกลูกปืน หรือมูเล่ ต่างๆ ภายในรถยนต์
วันนี้ผมจะรวบรวมปัญหา เฉพาะเสียงหอนของรถยนต์มานำเสนอให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ
ก่อนอื่น เพื่อนๆต้องหาเสียงหอนให้เจอว่า ทิศทางมาจากส่วนไหนของรถ
โดยผมจะแบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้
1.บริเวณ ด้านหน้ารถ
2.บริเวณ กลางรถ
3.บริเวณ ท้ายรถ

1. ด้านหน้ารถ
ถ้าเสียงหอนเกิดจากด้านหน้ารถ ให้ตรวจสอบว่า เสียงหอน เมื่อรถเคลื่อนที่ หรือ หยุดนิ่ง
1.1 ถ้าเสียงหอนเกิดขึ้นหลังจากการสตาร์ทเครื่องยนต์นิ่งๆทิ้งไว้ส่วนมมาก จะเกิดจาก จุดหมุนต่างๆที่เชื่อมต่อกับ เครื่องยนต์ อาจจะเป็น คอมแอร์ ปั้มลม ปั้มน้ำ หน้าเครื่อง อาจจะเป็นไปได้หมดครับ
1.2 ถ้าหอนจากการที่รถเริ่มเคลื่อนที่ จะพบอยู่ด้วยกัน 2 ปัญหา นั้นก็คือ ลูกปืนล้อหน้า หรือ ยาง
ถ้าปัญหาเกิดจากลูกปืนล้อหน้า ให้เพื่อนๆยกรถขึ้นโดยให้ล้อหน้าทั้งสองลอยจากพื้น แล้วใช้มือทั้งสองจับยางให้มั่น โยกดู2ที ซ้าย ขวา และก็ บนล่าง เมื่อขยับดู ยางจะต้องแน่น ห้ามมีช่องว่างให้ขยับได้
ถ้าปัญหาการหอน เกิดจากยาง ให้ไปสังเกตุ หน้ายางรถของท่านว่า หน้ายางมีลักษณะการกินยางไม่เท่ากันอยู่หรือเปล่า ยางมีอาการบวมตึงหรือไม่ หรือ ดอกยางมีอาการสึกหรือเปล่า
หากเป็นปัญหาที่เกิดจากยาง ให้ลองสังเกตุว่า ยางมักจะหอนที่ความเร็วไดความเร็วหนึ่ง จากนั้นก็จะหายไป ลักษณะที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเกิดจาก ชิ้นส่วนของยางทั้งสิ้น
แต่ถ้าเป็นยางพวกอ๊อฟโรดนั้น เพื่อนๆไม่ต้องตกใจนะครับ สไตล์นั้นจะหอนเป็นอาชีพ ของเขาอยู่แล้วครับ

2. ช่วงกลางรถ
ซึ่งช่วงกลางรถจะ แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
2.1 ตุ๊กตา เพลากลาง ถ้าหากเพื่อนๆไม่ค่อยมั่นใจว่าสาเหตุเกิดจาก ตุ๊กตาเพลากลางชำรุดหรือเปล่า ให้เพื่อนๆยกรถให้ล้อหลังลอยขั้น หลังจากนั้นลองสตาร์ทใส่เกียร์ตามปกติ แล้วลองฟังเสียงว่ามีลักษณะคล้ายกัน ดังคลิปนี้หรือไม่
ถ้าเสียงมีลักษณะเหมือนในคลิป ส่วนมากจะเกิดจาก ลูกปืนตุ๊กตาเพลากลางแตก เพื่อนๆสามารถ ให้ช่าง เปลี่ยนอะไหล่ตัวนี้ได้เลยครับ ราคาไม่แพงครับ

2.2 ดังมากจากเกียร์ สังเกตุง่ายๆ จากความเร็วที่เพิ่มขึ้นเสียงจะเริ่มหอนและดังขึ้นเรื่อยๆจากบริเวณ ด้านล่างของ ด้ามเกียร์ลงไป ถ้าหากเหยียบคลัช ปลดเกียร์ว่างก็จะไม่มีเสียงหอนเหล่านี้
ซึ่งปัญหาของเสียงที่เกิดขึ้น มี 2 ส่วนดังนี้
2.2.1 ลูกปืนเฟืองเกียร์ชำรุด หรือ ภาษาช่างเรียกว่า ลูกปืนปลายเกียร์ 4 หรือ ลูกปืนฟลายวิล ซึ่งเป็นลูกปืนที่ติดกับฝั่งฟลายวีล โดยมีเพลาของเกียร์สี่สอดแน่นอยู่ในวงด้านในของลูกปืน
ส่งผลให้ลูกปืนหมุนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ลูกปืนเกิดการสึกหรอ จากการเสียดสีในส่วนนี้ วิธีแก้ไขมีอยู่วิธีเดียวคือเปลี่ยนลูกปืนใหม่ ต้องยกเกียร์ลงมาทำครับ
2.2.2 เสียงหอนจากเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง ส่วนมากจะมีอาการหอนจากการ เร่งเครื่อง หรือ ก่อนเข้าเกียร์ ร่วมด้วย ซึ่งปัญหานี้เกิดมาจาก ชุดเกียร์ด้านใน หากจะทำการซ่อมบำรุงเพื่อนๆจำเป็นจะต้องทำการยกเกียร์ลงมา ชำแหละผ่าเกียร์ออกมาดูทีละส่วน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
ส่วนมากถ้าชุดเกียร์ใดเกียร์หนึงเสีย ชุดอื่นๆมักจะตามๆกันไป ถ้าอาการหนักๆส่วนใหญ่ ช่างจะแนะนำให้ซื้ออะไหล่ ชุดเกียร์มือสอง สภาพดี จากร้านอะไหล่เชียงกงมาใส่ใหม่ทั้งเบ้า

3.ถ้าเสียงหอนดังมาจาก ช่วงท้ายรถ ส่วนมากจะพบ หลังจากรถเคลื่อนที่ จะมีอยู่ 3 ส่วนและลักษณะอาการก็ใกล้เคียงกัน ให้เพื่อนๆ จับจุดให้ได้ว่า มันดังมาจากส่วนไหน
3.1 หอนจากยางหลังเสื่อมสภาพ ก็สังเกตุง่ายๆตามข้อ 1.2 ด้านบนได้เลยครับ หรือ ถ้าเพื่อนๆไม่สะดวก สามารถตรวจสอบจากพื้นถนนก็ได้เหมือนกัน โดยถ้าเป็นถนน พื้นปูน ยางจะหอนดังกว่า ถนน ยางมะตอย
3.2 หอนจากลูกปืนล้อหลัง ก็สังเกตุง่ายๆตามข้อ 1.2 เช่นกัน
3.3 หอนจากเพลาท้าย ส่วนมากเกิดจาก น้ำมันเฟืองท้ายที่แห้ง หรือ น้ำมันเฟืองท้ายเสื่อมสภาพ เหนียวข้น จนทำให้เฟือง เดือยหมู หรือ และเฟือง บายศรี ขบกันจนเกิดความร้อนจนทำให้
เฟืองมีระยะห่าง รวมไปถึงเกิดการชำรุดเสียหาย และ เสื่อมสภาพในที่สุด
และถ้าหากพบอาการหลัง จากไปทำเฟืองท้ายมาใหม่ เช่นทดรอบ ก็แสดงว่า แล้วช่างติดตั้งระยะห่างของเฟืองไม่สมบูรณ์

อันนี้แถมให้อีกข้อนะครับ
ข้อที่ 4. มีเสียงหอน หลังจาก นำรถไป เข้าศูนย์
อาการนี้น่าจะเกิดจาก ช่างที่ศูนย์อาจจะสลับยาง หน้า หลัง เนื่องจากถึงระยะที่กำหนด ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าเขาจะมีกฎระเบียบของบริษัทที่จะต้องสลับยางในทุกๆกี่กิโล
จดในใบบันทึกเอาไว้ ไม่ใช่ช่างนึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน ตามอำเพอใจ นะครับ เหตุผลที่สลับก็เพื่อจะให้ยาง เสื่อมสภาพการใช้งานไปพร้อมๆกันทั้ง 4 เส้น ยังไงละครับ
ส่วนมากจะไม่เป็นอันตรายครับ เมื่อใช้ไปสักระยะ ยางก็จะเริ่มสึกเท่ากัน เสียงที่เคยหอนก็จะหายเอง ครับ