แก้วเจ้าจอม ต้นไม้แห่งชีวิต มีดีที่พุ่มใบเขียว ดอกสวยสด Guaiacum officinale

Описание к видео แก้วเจ้าจอม ต้นไม้แห่งชีวิต มีดีที่พุ่มใบเขียว ดอกสวยสด Guaiacum officinale

๐ แก้วเจ้าจอม

๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Guaiacum officinale ชื่อพ้อง Lignum vitae, Bulnesia sanctum, Bulnesia benedichum
ชื่อสกุล “Guaiacum” มาจากคำในอเมริกาใต้ “guaiac” หมายถึง ต้นไม้แห่งชีวิต อันเนื่องมาจากเป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณทางยาอย่างมาก และถูกใช้ไปในหลายตำรับยา
ชื่อชนิดพันธุ์ “officinale” เป็นคำในภาษาละติน หมายถึง “มีสรรพคุณทางยา”
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Lignum Vitae, Guaiac Wood, Guayacan
๐ ชนิด (Type): ไม้ยืนต้นขนาดกลางไม่ผลัดใบ (Medium evergreen tree)
๐ วงศ์ (Family): Zygophyllaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : อเมริกากลาง ทะเลแคริบเบียน อเมริกาเหนือ โคลัมเบีย เวเนซุเอลา ได้รับการจัดเป็นไม้ประจำชาติของจาไมก้า มีเกร็ด เรื่องเล่าว่าถูกนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยพร้อมกับการเสด็จประพาสชวาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 3 -12 เมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 3 -12 เมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว 3 ถึง 5 ดอกประจุบริเวณปลายยอด มีกลีบดอกห้ากลีบเกสรเพศเมียมีปลายแยกเป็นห้าแฉกรโดยมีเกสรตัวผู้ 10 อันแยกจากกัน ดอกสีฟ้าอ่อนจนถึงสีฟ้าเข้ม หรือฟ้าอมม่วง
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวัน ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันเป็นลำดับแรก กรณีที่มีแดดบางส่วนของวันอาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตบ้างรวมไปถึงการให้ดอกด้วย จึงไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ร่มรำไรหรือมีแสงแดดน้อย ออกดอกช่วงเดือนมกราคม จนถึง เมษายน
๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลาง สามารถรักษาความชื้นของวัสดุปลูก ควรให้น้ำทุกวันเพื่อนำไปใช้ในการบวนการเจริญเติบโตของพืช
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ตัดแต่งทรงพุ่มให้สวยงามตามความต้องการ
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ไม้ยืนต้นให้ดอกในบางฤดูกาล ไม้ยืนต้นขนาดเล็กให้ร่มเงา เนื้อไม้และยางไม้มีสรรพคุณทางยาหรือเป็นพืชสมุนไพร มีฤทธิ์เป็นยาขับเสมหะ ยาระบาย รวมถึงใช้ร่วมกับยาฟอกเลือดด้วย นอกจากนี้แล้วด้วยความที่เป็นไม้ทนเคมจึงมีการนำมาใช้ประกอบกับเพลาเรือเดินทะเลด้วยและอุปกรณ์ต่างๆของชาวประมง
๐ ใบไม้ (Leaf): เป็นต้นไม้ที่มีทรงพุ่มแผ่ขว้าง มีพุ่มแน่น ลำต้นและกิ่งมีเปลือกสีน้ำตาลอ่อนลอกร่อน เผยให้เห็นกิ่งหรือลำต้นสีเขียวที่อยู่ด้านใน และจะพัฒนามาเป็นเปลือกสีน้ำตาลใหม่เมื่อเติบโตขึ้น มีใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ โดยมีใบย่อย สองถึงสามคู่ขึ้นเรียงตรงข้ามกัน ใบย่อยมีรูปไข่กลับอาจมีรูปปรีผิดรูปใบไม่สมมาตรบ้าง ปลายใบขายขว้างมน มีโคนสอบเข้าหาปลายใบ ใบมีสีเขียว
ปริมาณคู่ใบในใบย่อยนี้มีการนำมาจำแนกสายพันธุ์ด้วย โดยแบ่งเป็นแก้วเจ้าจอม
๐ 4ใบ (2 คู่) เป็นสายพันธุ์ที่โตช้ามีมีรูปทรงพุ่มแผ่กว้างเป็นทรงร่ม
๐ 6 ใบ (3 คู่) เป็นสายพันธุ์ที่ให้ดอกดกมากและออกดอกรวดเร็วภายในหนึ่งปี
๐ 8 ใบ (4คู่) มีดอกเล็กและใช้เวลาออกดอกนาน มีส่งต้นขนาดใหญ่ฟอร์มสวย เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจึงมีปริมาณในตลาดน้อยหายากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และ
๐ 6-10 ใบ (5 คู่) รูปทรงแผ่กว้างเป็นทรงร่ม ให้ดอกดก

๐ การเพาะปลูก (Culture)
ในธรรมชาติแก้วเจ้าจอมเกิดขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งซึ่งมีอาการแห้งสลับชื้น เป็นต้นไม้ที่โตช้า เติบโตได้ดีในดินร่วน ดินร่วนปานกลางรวมไปถึงดินเหนียว แต่ต้องมีคุณสมบัติระบายน้ำดีมากด้วยเช่นเดียวกัน เป็นต้นไม้ที่ชอบความชื้นสูงพอสมควร อย่างไรก็ตามก็เป็นพืชที่สามารถทนต่อการขาดน้ำเป็นระยะเวลาหลายวันได้ นอกจากนี้แล้วสามารถเติบโตได้ในพื้นที่ดินเค็ม หรือพื้นที่ริมทะเลได้ดี เป็นพืชทนลมแรง การปลูกควรขุดหลุมกว้างและปรุงดินให้มีอินทรีย์วัตถุสูงดินร่วน ระบายน้ำดี การขยายพันธุ์ที่ได้ผลดี และนิยมก็คือการใช้เมล็ด

๐ ปัญหา (Problems)
ถึงแม้เป็นต้นไม้ที่สามารถทนทานต่อการขาดน้ำได้เป็นระยะเวลานานแต่การขาดน้ำเป็นระยะเวลานานหลายวันจะทำให้ลำต้นโทรมใบเหลืองร่วงหล่น

Комментарии

Информация по комментариям в разработке