ระหว่าง ทดเฟืองเกียร์5 Vs ทดเฟืองท้าย วิธีไหนลดรอบเครื่องได้ดีที่สุด ??

สวัสดีครับเพื่อนๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ช่อง mr.108car
ผมเชื่อว่าความฝันของใครหลายๆคนคงต้องการรถกระบะสักคันที่ สามารถใช้ประสิทธิภาพได้สูงสุด แต่ คุณรู้หรือไม่ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้รถกระบะประหยัดน้ำมันและลดการสึกหร่อของเครื่องยนต์ นั้นก็คือ อัตราการทดของเฟืองโดยมันทำหน้าที่ลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลงเมื่อความเร็วเท่าเดิม แล้วรถกระบะที่ใช้กันมานานมีอายุหลายปี ทำไมเกียร์สุดท้ายรอบเครื่องยังสูงรอบเครื่องยังจัดอยู่ หรือพูดง่ายๆว่า รอบยังเหลือๆ ต้องบอกอย่างงี้ครับ ว่าทางโรงงานผู้ผลิตเขาก็อยากที่จะทำให้รถของตัวเองประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่งไม่ว่าจะค่ายไหนๆก็ตาม เพราะจะได้โฆษณาได้เพื่อเพิ่มยอดขายที่มากขึ้นไง แต่ยุคสมัยนั้นเครื่องยนต์ยังพัฒนาไม่เต็มที่จึงทำให้ กำลังส่งของเครื่องยนต์ณ ตอนนั้นยังมีไม่มากพอ
วันนี้ทางทีมงาน จะมาอธิบายวิธีการลดรอบเครื่องยนต์ว่าวิธีไหนเหมาะสำหรับรถของคุณมากที่สุด
ส่วนใหญ่จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบนั้นก็คือ
1.ทดเฟืองเกียร์ 5
2.ทดเฟืองท้าย
วิธีแรกคือ การทดเฟืองเกียร์ 5
เหมาะสำหรับ
รถที่มีรอบเครื่องที่สูงในเกียร์สุดท้าย เช่นความเร็ว 100km/hรอบเครื่องสูงถึง 3,000 รอบและรอบเครื่องยนต์ ยังเหลือพอที่เหยียบไปต่อได้อีก
วิธีการทำ มันก็คือการเปลี่ยนเฟืองเกียร์ 5 ใหม่ โดยการเปลี่ยนรอบฟันเฟืองเกียร์5คู่ใหม่ ให้มีขนาดอัตราช่วงทดขยายที่มากขึ้น มีผลทำให้ท๊อปสปีดต่ำลง
ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง ก็เหมือนเฟืองล้อหลังของจักรยานที่ไล่เฟืองใหญ่ไปเกียร์หาเฟืองเล็ก
ข้อดี
1. ได้รอบเครื่องที่ต่ำลง และช่วยให้ประหยัดเชื่อเพลิงได้มากขึ้น
2. เสียงของเครื่องยนต์ที่เข้าห้องโดยสารเบาลง
3. เกียร์ 1-4 ก็ยังคงให้ความเร็วที่กระฉับกระเฉงปกติ
ข้อเสีย
1. เฟืองเกียร์ของแท้มีราคาแพง (แต่ส่วนใหญ่จะใช้อะไหล่เทียบซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า)
2. ข้อนข้างยุ่งยากในการถอดประกอบเพราะต้องยกเกียร์ลงมาทำทั้งลูก
3. ระยะชิดของเกียร์ที่ห่าง อาจจะทำให้รถวู้บหรือรอบกำลังตกฉับพลัน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่มีกำลังส่งแคบๆ ( โดยมันเทคนิคก็คือ ลากรอบเกียร์4ให้สูงกว่าเดิมแล้วสับเปลี่ยนเกียร์ให้ไวขึ้น) ก็จะช่วยได้
วิธีที่ 2 ทดรอบเฟืองท้าย
วิธีนี้ก็จะคล้ายๆกับการทดรอบเฟืองเกียร์5 เพียงแต่จะเปลี่ยนเป็นเฟืองท้าย โดยส่วนใหญ่เราจะเปลี่ยน จานเดือยหมู และบายศรี ใหม่ การเปลี่ยนในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นตัวกำหนดรอบล้อหลังโดยตรง คล้ายกับกับเปลี่ยนล้อหลังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่รถออกตัว อืดขึ้นทุกเกียร์
วิธีนี้เหมาะสำหรับรถที่ไม่ได้บรรทุก รอบเครื่องยังเหลือหรือยังสูงพอในระดับหนึ่งประมาณ 4 พันรอบขึ้นไป
ข้อดีของการทดเฟืองท้าย
1.อัตราการทดจะเห็นผลทันทีทุกเกียร์
2.ประหยัดน้ำมันขึ้น แต่แลกกับความอืดที่ได้มา
ข้อเสีย
1. ไม่เหมาะสำหรับรถที่บรรทุกของหนัก สำหรับ เครื่องยนต์ที่มีกำลังเครื่องไม่สูงพอ
2. ความเร็วไมล์เพี้ยน
3. อัตราการตอบสนองคันเร่งต่ำลง เวลาแซงมีเสียวสันหลัง ต้องรอดูจังหวะให้ดี
สรุปว่าวิธี แรกเหมาะสำหรับ เพื่อนๆที่ยังคงต้องการความแรงของรถในรอบเกียร์1-4 สามารถขึ้นเขาลงห้วยได้ปกติ รอบเครื่องจะลดลงเฉพาะในเกียร์5ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นในเกียร์สุดท้าย
สรุปวิธีที่ สอง การทดเฟืองท้าย จะส่งผลไปยังทุกเกียร์ๆอืดขึ้นในตอนต้น ปลายจะไหล เหมาะสำหรับขับทางไกลและไม่ค่อยได้บรรทุกหนัก
สำหรับสองวิธีนี้ แนะนำให้เลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่งในการทำเท่านั้น
เพราะถ้าหากต้องการ ทดเฟืองเกียร์5 และทดเฟืองท้าย
ไปพร้อมๆกัน อย่างน้อยรถของคุณต้องมีแรงบิดแรงม้าที่มากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
เช่น ใส่เครื่องใหม่ที่นิยมก็วางเครื่อง J ติดแก๊ส, แต่งปั้ม , เพิ่มเทอร์โบ, ใส่กล่อง, ดันราง เป็นต้น. ขอบคุณทุกท่านที่กดติดตาม หากมีข้อสงสัยสามารถแสดงความคิดเห็นใต้คลิปนี้ได้เลยครับ