สอบเครียด 8 ลูกเรือน้ำมันเถื่อน รับทำงานให้ "เสี่ยโจ้" | ห้องข่าวภาคเที่ยง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บวัตถุพยานเพิ่มเติม บนเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ ส่วนผู้ต้องหาถูกสอบสวนจนถึงเช้า ก่อนไต้ก๋งเปิดปากรับทำงานให้ เสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน หลังซื้อเรือต่อจากนายทุนคนหนึ่ง

สอบเครียดลูกเรือน้ำมันเถื่อน รับทำงานให้ เสี่ยโจ้
ความคืบหน้าหลังค่ำเมื่อวานนี้ ตำรวจน้ำควบคุมเรือขนน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ สถานีตำรวจน้ำสงขลา ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้แจ้งข้อหากับลูกเรือ 8 คน ที่พบบนเรือทั้ง 3 ลำ และเป็นคนไทยทั้งหมด ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และข้อหาลักทรัพย์ ก่อนที่ทั้ง 8 คน ถูกนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจน้ำสงขลา จนถึงเช้าวันนี้

ก่อนที่จะนำตัวไปควบคุมที่ สภ.เมืองสงขลา เพื่อรอนำตัวเดินทางไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับปราบปราม ช่วงเย็นวันนี้ เพื่อหาตัวของนายทุนผู้บงการลูกเรือทั้งหมดให้นำเรือออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

ซึ่ง พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าสอบปากคำ นายสุนทร ไต้ก๋งเรือ ด้วยตัวเอง ที่ สภ.เมืองสงขลา

เบื้องต้น ไต้ก๋งเรือ อ้างว่า เดิมเรือขนน้ำมันเป็นของนายทุนคนหนึ่ง แต่ เสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน ติดต่อขอซื้อเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งพวกตนเป็นไต้ก๋งเรือและลูกเรือ ได้เงินเดือน 40,000 บาท ก็ทำหน้าที่ประจำเรือต่อให้เสี่ยโจ้ โดยมี นายเอก เป็นคนสั่งการทั้งหมด และวันที่นำเรือออกจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ นายเอกก็เป็นคนสั่งการ แต่พวกตนไม่เคยพบหน้านายเอก

จากนั้นมีเรืออีกลำมาสูบน้ำมันออกจากเรือ 3 ลำ และนำสีมาให้ทาเปลี่ยนสีเรือ แต่เมื่อรู้ว่าถูกกดดัน ก็ไม่กล้าอยู่ในน่านน้ำกัมพูชา จึงต้องล่องลงใต้ ก่อนถูกตำรวจน้ำควบคุม ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะต้องรอการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

ส่วนบริเวณท่าเทียบเรือ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เก็บวัตถุพยานเพิ่มเติมบนเรือขนน้ำมันเถื่อน โดยมีเรือตำรวจน้ำจอดประกบอยู่ชั้นนอก ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกเป็นกลุ่มงานตรวจที่เกิดเหตุ และชุด 2 เป็นกลุ่มงานเคมีฟิสิกส์ ตรวจสีบนเรือ ที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพ

นอกจากนี้ ตำรวจน้ำสงขลาหาอาหารมาให้สุนัขที่อยู่บนเรือทั้ง 3 ลำ ประมาณ 10 ตัว และลูกสุนัขอีกจำนวนหนึ่ง ได้กินประทังชีวิ ระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี

กองปราบฯ และ ปอศ. ประชุมร่วมอัยการชี้คดีเรือน้ำมันเถื่อน
ส่วนสำนวนคดีจับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนในพื้นที่กรุงเทพฯ เช้าวันนี้ พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ร่วมกับ พันตำรวจเอก ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผู้กำกับการ 2 บก.ปอศ. พร้อมคณะ เข้าประชุมร่วมกับ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานฝั่งอัยการ ในคดีจับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน และกรณีที่เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ที่จับกุมได้ หายไปจากท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 11 มิ.ย.

กองปราบฯ และ ปอศ. ประชุมร่วมอัยการเอาผิดคดีเรือน้ำมันเถื่อน
เบื้องต้น พันตำรวจเอก เอนก บอกว่า ตำรวจกองปราบ และ ปอศ. จะประชุมร่วมกับอัยการ 3 ส่วน คือ

1. ส่วนของคดีจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ก่อนที่จะส่งมอบข้อมูลให้พนักงานสอบสวน ปอศ. ไปดำเนินคดีเรื่องเกี่ยวกับภาษี

2. ประเด็นการขยายผลเครือข่ายและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน

3. เป็นเจ้าของคดีเรือที่หายไป 3 ลำ ภาพรวมจะเป็นการหารือในเรื่องรูปสำนวนให้รอบด้าน และการขยายผลจากกลุ่มผู้ต้องหาเดิม ซึ่งทางตำรวจก็มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงตัวบุคคลในส่วนหนึ่งอยู่

ขณะที่ พันตำรวจเอก เอนก บอกว่า คดีจับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน เกิดขึ้นในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล เป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงต้องให้อัยการเข้าร่วมการสอบสวน ซึ่งประเด็นหารือวันนี้เป็นรายละเอียดทางคดีทั้งหมดตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงเมื่อวานนี้ที่มีผู้ต้องหามารายงานตัว

กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com

#ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS

ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero