เราไม่ได้ภาวนาเพื่อสนองกิเลส :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 เม.ย. 2567

Описание к видео เราไม่ได้ภาวนาเพื่อสนองกิเลส :: หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 27 เม.ย. 2567

ตัวผู้รู้เราก็ไม่รักษา
แต่มันต้องพัฒนาให้มีขึ้นมาเพื่อใช้งาน
เราก็จะเห็นว่าตัวผู้รู้เองก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์
อย่างจิตเราโกรธ พอเรารู้ว่าโกรธ
จิตโกรธดับ จิตผู้รู้เกิด
มีอารมณ์มากระทบทางหู มีเสียงเพลงเพราะๆ
จิตเกิดราคะขึ้น สติระลึกรู้
จิตที่มีราคะก็ดับ จิตที่รู้ก็เกิด
จิตรู้มันจะคั่นจิตที่หลง นานาชนิด
มันจะมีตัวรู้แทรกๆๆๆ เข้ามา
แล้วมันก็จะทำให้เราเห็นว่า
จิตมีราคะอยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ
จิตมีโทสะ จิตมีโมหะ จิตฟุ้งซ่าน จิตหดหู่
อยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ
จิตสุข จิตทุกข์ อยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ

เราจะเห็นอย่างนี้ แล้วเราก็เห็นลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง
จิตผู้รู้เองก็เกิดดับ เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ เดี๋ยวก็เป็นผู้หลงไปดูรูป
เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ เดี๋ยวก็หลงไปฟังเสียง ไปดมกลิ่น
ไปลิ้มรส ไปรู้สัมผัสทางกาย ไปคิดนึกทางใจ
เห็นมันเกิดดับอยู่ทางทวารทั้ง 6
พอมันกระทบอารมณ์ทางทวารทั้ง 6 แล้ว
มันก็จะเกิดสุข เกิดทุกข์ เกิดกุศลอกุศลขึ้นมา

ค่อยๆ มีสติตามรู้จิตของตัวเองไปเรื่อยๆ
ทีแรกเราก็สามารถแยกจิตกับเจตสิกออก
เราก็เห็นจิตสุข จิตทุกข์ จิตดี จิตชั่ว
ล้วนแต่เกิดแล้วดับทั้งสิ้น
พอสติเราเข้มแข็ง เราก็เห็นจิตผู้รู้ก็เกิดดับ
เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็เป็นผู้รู้ที่มีความสุข
ผู้รู้มีอารมณ์ มีความรู้สึก มีเวทนา
เกิดร่วมกับจิตผู้รู้ 2 ชนิด คือ
โสมนัสเวทนา คือความสุข กับอุเบกขา
เพราะฉะนั้นบางทีเราฝึกมา
จิตเราเป็นผู้รู้ บางทีเป็นผู้รู้เฉยๆ มีอุเบกขา
บางทีก็มีความสุขแทรกขึ้นมาพร้อมๆ กัน

หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
27 เมษายน 2567

อ่านถอดบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.dhamma.com/do-not-practic...
สารบัญวีดีโอ
0:00 อารัมภบท
6:07 พัฒนาให้มีจิตผู้รู้ขึ้นมาเพื่อใช้งาน
21:18 จิตยินดีให้รู้ทัน จิตยินร้ายให้รู้ทัน
30:20 สิ่งใดเกิด สิ่งนั้นดับ ไม่ละเว้นกระทั่งจิตผู้รู้
39:26 เราภาวนาเพื่อลดละกิเลส
46:24 ช่วงส่งการบ้าน

Комментарии

Информация по комментариям в разработке