Скачать или смотреть การตัดสินพระทัยครั้งสำคัญของรัชกาลที่6 ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของสยาม สงครามโลกครั้งที่ 1

สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นมหาสงครามที่ยืดเยื้อกินเวลาเกือบ 4 ปี โดยเริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2457 จนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 สงครามนี้เกิดจากความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่างเยอรมนีกับฝรั่งเศส ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายต้องหาแนวร่วมและพันธมิตร จนนำไปสู่การแบ่งขั้วของมหาอำนาจเป็นสองฝ่ายสำคัญ
ฝ่ายแรกคือฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งมีฝรั่งเศส จักรวรรดิบริทิช (รวมถึงประเทศในเครือจักรภพ) รัสเซีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมตัวเป็นฝ่ายเดียวกัน ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามคือมหาอำนาจกลาง นำโดยเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิออตโตมัน และบัลแกเรีย การสู้รบครั้งนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก ทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แปซิฟิก และบางส่วนในเอเชีย สงครามครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในสงครามที่มีการสูญเสียมหาศาล โดยมีทหารเสียชีวิตถึง 9 ล้านนาย บาดเจ็บ 23 ล้านนาย และพลเรือนที่เสียชีวิตอีกประมาณ 5 ล้านคน นอกจากนี้ ยังมีการกระทำที่ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคน
ในส่วนของสยามหรือประเทศไทยในขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงประกาศให้สยามดำรงความเป็นกลางในช่วงเริ่มต้นของสงคราม ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการสื่อสารกับพระสหายในยุโรปซึ่งเป็นเพื่อนเรียนเก่า กระทั่งเมื่อสงครามดำเนินไปได้ประมาณ 3 ปี โดยไม่มีฝ่ายใดมีทีท่าว่าจะชนะเด็ดขาด ในปี พ.ศ. 2460 รัชกาลที่ 6 จำเป็นต้องตัดสินพระทัยเกี่ยวกับทิศทางของสยามในการร่วมสงคราม ทรงเรียกประชุมเสนาบดีสภาเป็นการลับเพื่อพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับอนาคตของสยาม
จากพระปรีชาทางการทหารที่ได้ศึกษามา พระองค์ทรงวิเคราะห์อย่างละเอียดว่ากลุ่มมหาอำนาจกลาง
ภายใต้การนำของเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการี ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะหมดหนทางที่จะชนะสงครามโลกครั้งนี้ แต่หากสยามยังคงรักษาความเป็นกลางเอาไว้ ผลลัพธ์ที่คาดไว้ก็อาจจะเพียงแค่เสมอตัวหรือขาดทุน แต่หากเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรแล้ว ก็อาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เพราะเมื่อสงครามสิ้นสุด หากสยามอยู่ในฝ่ายที่ชนะ ก็สามารถใช้สถานะนี้ในการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาที่ถูกเอาเปรียบจากมหาอำนาจตะวันตก เช่น อังกฤษและฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตหรือการแก้ไขพิกัดภาษีศุลกากร เมื่อที่ประชุมมีความเห็นพ้องต้องกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงตัดสินพระทัยให้สยามเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร
การตัดสินพระทัยครั้งนี้ถือเป็นการเดิมพันที่สำคัญ เพราะสยามมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งฝ่ายเยอรมนีและสัมพันธมิตร พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์เคยศึกษาในประเทศอังกฤษ จึงมีความผูกพันอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ที่สำเร็จการศึกษาจากเยอรมนีและได้รับการฝึกฝนแบบทหารเยอรมัน นอกจากนี้ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในราชการก็ล้วนมาจากเยอรมนี สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความเห็นต่างในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์
ในขณะนั้น ชาวสยามส่วนใหญ่มีความรู้สึกดีต่อชาวเยอรมันมากกว่าฝ่ายอังกฤษและฝรั่งเศส ก่อนสงครามจะเริ่มขึ้น ธุรกิจเยอรมันในสยามมีความเจริญรุ่งเรือง มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างสยามกับเยอรมนีสูงถึง 22 ล้านมาร์ก หรือประมาณ 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งหากเปรียบเทียบเป็นค่าเงินในปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 170 ล้านบาท ชาวเยอรมันเองก็ไม่ถือเนื้อถือตัว มีความใกล้ชิดและพยายามเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อให้มีความสัมพันธ์อันดีกับคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ เยอรมนียังไม่เคยเข้ามารุกรานหรือเอาเปรียบสยามต่างจากอังกฤษและฝรั่งเศสที่เข้ามายึดครองดินแดนและใช้กลอุบายแย่งดินแดนของสยาม ความเจ็บปวดจากการถูกรุกล้ำนี้ยังคงฝังลึกในใจคนสยาม
การตัดสินพระทัยสำคัญของรัชกาลที่ 6: ทิศทาง #สงครามโลกครั้งที่1
รัชกาลที่ 6 และการตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1
การตัดสินพระทัยครั้งประวัติศาสตร์ของสยามในสงครามโลกครั้งที่ 1
สยามในสงครามโลกครั้งที่ 1: การตัดสินใจของรัชกาลที่ 6
#รัชกาลที่6 และความสำคัญของการเลือกข้างในสงครามโลกครั้งที่ 1

รัชกาลที่6, สงครามโลกครั้งที่1, #สยาม , ตัดสินพระทัย, #ราชวงศ์จักรี , สัมพันธมิตร, เยอรมนี, การตัดสินใจ, ประวัติศาสตร์ไทย, #ทหารไทย , สยามในสงคราม, สงครามโลก, สยามเข้าร่วม, พระมงกุฎเกล้า, กองทัพไทย, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ออสเตรีย, อาณานิคม, การเมืองไทย, พระบรมราชโองการ, การฝึกทหาร, การต่อสู้, ทหารอาสาสยาม, ประวัติศาสตร์สงคราม, ทหารบก, การตัดสินใจทางการทหาร, ไทยใน#สงครามโลก , ความสัมพันธ์ไทย, ยุโรป, การสู้รบ, ทหารการบิน, การทูต, ความยุติธรรม, การช่วยเหลือสงคราม, ทหารสยาม, ประสบการณ์สงคราม, เจรจาสงคราม, สนธิสัญญา, การฝึกทหารไทย, การสนับสนุน, กองทัพสัมพันธมิตร, สนามรบ, ภูมิภาคเอเชีย, ทหารบกยานยนต์, สยามในยุโรป, สงครามระหว่างประเทศ, วีรกรรมทหาร, ปฏิบัติการสงคราม.
#เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ