‘บิ๊กโจ๊ก’ เดินหน้าฟ้อง 3 บิ๊ก ตร. 'ต่อ-เต่า-ต่าย-เศรษฐา' หากไม่ได้กลับ สตช.

Описание к видео ‘บิ๊กโจ๊ก’ เดินหน้าฟ้อง 3 บิ๊ก ตร. 'ต่อ-เต่า-ต่าย-เศรษฐา' หากไม่ได้กลับ สตช.

'บิ๊กโจ๊ก' เดินหน้าฟ้อง “บิ๊กต่อ-เต่า-ต่าย และนายกฯ” หากไม่ได้กลับ สตช. ลั่นไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง ใครไม่โดนกับตัวไม่รู้ ย้ำยังมีสถานะเป็น รอง ผบ.ตร. อยู่ หากได้กลับไปจะไปดูคำสั่งให้ออกจากราชการที่มีตำรวจถูกสั่งให้ออกราชการ 70-80 นายก่อนหน้านี้เป็นธรรมหรือไม่

วานนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ตัวเองเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกล่าวหาตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง เบื้องต้นทราบว่าฝั่งของ พล.ต.ต.จรูญเกียติ ขอเลื่อนการนัดไต่สวน คาดว่าจะมาไต่สวนในครั้งหน้า ส่วนที่มีการจงใจใส่ความหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้น เนื่องจากผู้ถูกฟ้องได้นำข้อมูล ซึ่งอยู่ในสำนวนไปให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทั้งที่รู้ว่าจะต้องมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มีหน้าที่เป็นเพียงพนักงานสอบสวน สิ่งที่ทำได้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 คือการรวบรวมข้อมูล และส่งสำนวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไม่ได้มีอำนาจในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนรวมถึงแสดงความคิดเห็นเชิงวินิจฉัยหรือพิพากษาคดี

โดยการให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาส่งผลทำให้สังคมเชื่อว่าตัวเองเป็นผู้กระทำผิดไปแล้ว จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องเพื่อ คืนความยุติธรรมให้กับตัวเอง อีกทั้งที่ผ่านมาเคยมีคำวินิจฉัยของศาลฎีกา เคยสั่งจำคุกคดีที่มีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือวินิจฉัยคดีชี้นำสังคมในลักษณะนี้มาแล้ว ยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความ หรือไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึง กรณีที่ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า หากได้กลับเข้ามาสู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถอนฟ้องคดีความทั้งหมด แต่กลับยังเดินหน้าฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงนายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ใช่การกลืนน้ำลาย แต่ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง และยืนยัน ไม่ได้เล่นปาหี่ แต่ขณะนี้คำสั่งที่ให้ตนเองออกจากราชการ ซึ่งกฤษฎีกามีคำวินิจฉัย ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปดำเนินการแก้ไขนั้นยังคงอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้รอให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ดำเนินการแก้ไข ตั้งแต่ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการ ผบ.ตร. แล้ว แต่กลับยังเพิกเฉย

ในวันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. จึงจะเดินทางไปร้อง ปปช. เอาผิดมาตรา 157 กับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เพราะคำสั่งดังกล่าว จะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนก่อนทำให้คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนกรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่กลับเข้าสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว หากยังไม่ดำเนินการเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามหน้าที่ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีอำนาจ ก็จะเดินหน้าฟ้องร้องในสัปดาห์หน้าด้วย

ส่วนกูรูที่พยายามออกมาให้คำแนะนำข้อกฎหมายกับอนุฯ ก.ตร. ว่าคำสั่งของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐนั้นชอบด้วยกฎหมายนั้น ซึ่งขัดกับคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ซึ่งถือเป็นมือกฎหมายของรัฐบาลนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตามหลักกฎหมานอนุฯ ก.ตร. ไม่มีหน้าที่วินิจฉัยคำร้องทุกข์ แต่เป็นอำนาจของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่มีอำนาจใช้ระบบการไต่สวนฟังความทั้ง 2 ด้าน ไม่เหมือนอนุฯ ก.ตร. ที่ฟังความข้างเดียว จึงต้องไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ ก.พค.ตร. เพราะสามารถทำได้ 2 ช่องทาง ทั้ง ก.ตร. และ ก.พค.ตร. และเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ซึ่งมีอำนาจนำเรื่องเข้าที่ประชุมและพิจารณาได้ ว่า เห็นด้วยหรือไม่ได้ แต่หากนายกรัฐมนตรีเพิกเฉยในการพิจารณา ก็จะดำเนินคดี ม.157 กับนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน

ส่วนกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่ามีมติ 10:0 ว่าคำสั่งดังให้ตัวเองออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมติดังกล่าวจะทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับมาทำหน้าที่ รอง ผบ.ตร.เลยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ส่วนตัวไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ เพราะถือเป็นศาลปกครองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีอำนาจชี้ว่าจะให้กลับไปทำหน้าเลยได้หรือไม่

แม้ว่าผลของกฤษฎีกา จะไม่มีผลทางกฎหมาย แต่กฤษฎีกาถือเป็นมือกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาในคดีอื่นๆ ศาลก็รับฟังความเห็นของกฤษฎีกา พร้อมย้ำว่า อย่าลืมว่า องค์คณะกรรมการกฤษฎีกามีใครบ้าง มีทั้ง อดีตประธานศาลฎีกา/อดีตเลขากฤษฎีกาและปลัดกระทรวงยุติธรรมฉะนั้นมติ10:0ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)

วันที่ 25 มิถุนายน 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook :   / morningnewstv3  
Twitter :   / morningnewstv3  
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok :   / morningnewsch3  

#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์

Комментарии

Информация по комментариям в разработке