HISTORY of MOD @ The Legend on the Wheel

Описание к видео HISTORY of MOD @ The Legend on the Wheel

M O D

แฟร์ชั่น “สุดล้ำ” หรือ อันธพาล “สุดขั้ว”

“Mod” (Modernist) วัฒนะกลุ่มที่ก่อตัวอย่างเป็นรูปธรรมในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปลายยุคปี 1950 และโด่งดังสุดขีดถึงกลางปี 1960 ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นกับหนุ่มสาววัยเจริญพันธุ์ที่พิศมัยเรื่องของ “แฟร์ชั่น” จนเข้าเส้น เสื้อสูทชุดหรูแบรนด์ดังจากอิตาลี กับดนตรีที่เสนาะโสตที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า British beat music และ R&B (อัฟริกัน อเมริกัน เรียก Soul, จาร์ไมก้า เรียก Ska) โดยยึดโลเกชั่นดังประจำย่าน เนรมิตรเป็นฟลอร์เต้นรำและปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยงในทุกค่ำคืน วัฒนธรรม “Mod” แบบนี้ กระทั่งผู้สันทัดกรณียังไม่สามารถหาคำจำกัดความได้อย่างถูกต้องแม่นยำ มันชัดเจน แต่ไม่มีรูปแบบตายตัวและยากที่จะคาดเดา และถือเป็นเรื่องที่น่าพิศวงของโลกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ (Mysterious semi-secret world)

Fashion : มีคนกล่าว่า “Mod” คือ “ลัทธิ” ด้วยนิยามที่ย้ำเหตุผลที่ว่าคือ กลุ่มคนที่ถูกครอบงำด้วยแฟร์ชั่น และใช้ชีวิตแบบหนุ่มสาวเจ้าสำราญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอนในยุคหลังสงคราม หนุ่ม-สาว เหล่านี้ออกจากบ้าน และหาเลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องต้องอาศัยเงินจากครอบครัว เหตุนี้จึงไม่ต้องฟังเสียงท้วงติงใดๆ จากผู้ใหญ่ให้ขุ่นจิต...“Mod” เริ่มต้นด้วยเครื่องแต่งกายที่เป็นเอกลกัษณ์ ที่หาซื้อได้จากช็อปดังย่าน Carnaby Street และ King Road ในกรุงลอนดอน ซึ่งดีไซน์เนอร์ดังแห่งยุคสำหรับท่ายช่วยคือแบรนด์ของ Maverick ส่วนสาวเจ้าก็คลั่งมินิสเกิร์ตผลงานการออกแบบของ Mary Quant และ John Stephen ที่ทำสินค้าขายในแบรนด์ของ “His Clothes”

กลางปี 1960 ในยุคที่ “Mod” นั้นโด่งดังสุดขีด หลังสือพิมพ์ของอังกฤษได้ให้ความสนใจอย่างมาก จากข้อสงสัยที่ว่าสูทหรูๆ และเครื่องแต่งกายหราๆ สินค้านำเข้าจากอิตาลีและฝรั่งเศสนั้นมีราคาแพงเหลือเกิน พวกเขาจัดหามันมาได้อย่างไร หลังจากเก็บข้อมูลอยู่นาน ก็ต้องตกใจ ทว่า พอสรุปเป็นถ้อยวลีสั้นๆ ได้ว่า “ยอมอดอาหาร เพื่อเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้า” (go without food to buy clothes) ฟังดูพิลึก ทว่า คือ...เรื่องจริง!!!!

Scooter : รถสกู๊ตเตอร์ถือเป็นขนส่งมวลชนที่สาวก “Mod” จัดหามาสนองนีทสำหรับการเดินทางไปในที่ต่างๆ เพราะพึงใจในแฟชั่น รถแนวๆ อาร์ตๆ อย่าง Vespa และ Lambretta ที่มีเส้นสายงานออกแบบที่สะดุดตาเลยถูกเรียกมาใช้ในหว่างขา ทว่า หากจะพให้โดนใจสุดๆ มันก็ต้องมีการปรับแต่งอีกเล็กน่อย เพื่อให้โดดเด่นเตะตาตามคาแรคเตอร์ รถเดิมๆ มักได้รับการสาดสีใหม่ในแบบทูโทน ที่เพิ่มเกล็ดระยับกับงานโครมเมี่ยมเข้าไปร่วม ตะแกรงหน้าหลัง กันล้ม ของแต่งครอบโน่นนี่จึงได้รับการอัพเกรด

ในอังกฤษยุคต้น 1960 การขนส่งมวลชนกลางคืนนั้นหยุดเดินทางเร็วมาก มันมืดและหนาวเหน็บจากสภาพอากาศที่แปรปรวน “Mod” ไม่กัว สภาพอากาศนั้นเล็กกว่าเรื่องเอนเตอร์เทน เสื้อ Fishtail Parkar เลยเข้ามาเป็นพระเอกที่ช่วยหาสาวก “Mod” อบอุ่น และช่วยไม่ให้สูมหรูๆ นั้นต้องราคีจากฝุ่นผง ในเวลานั้นข้อกำหนดสาธารณะผ่านมติพอดี มันกระทบกับชาว “Mod” โดยตรงเหมือนกัน รถจักรยานยนต์ต้องมีไฟส่องสว่างที่ชัดเจนและต้องมีกระจกส่องหลังเพื่อความปลอดภัย เพราะไม่กินเส้นกับภาครัฐอยู่เป็นทุน...ได้... “Mod” จัดให้!!! กระจก-ไฟ จะ 1...2...4...10...หรือ กระทั่ง 30 ถูกติดตั้งตามแรงประชดประชั้น มันกลายเป็นวัฒนะธรรมของ “Mod” รวดเร็วเหมือน...ไฟลามทุ่ง!!!

Fishtail Parka : โคทยาวสีมอที่เสมือนเป็นลายเซ็นต์ของ “Mod” ที่เด่นตา Fishtail Parka คือเครื่องกันหนาวของทหารอเมริกา (United States Army) สำหรับภาระกิจต่อสู้ในสงครามเกาหลี ในปี 1951 ซึ่งมีใช้ด้วยกัน 2 แบบคือ M-51 และ M-65 ซึ่ง M ก็คงหมายความถึง Military นั่นเอง ที่เรียกว่า Fishtail (หางปลา) นั่นก็หมายถึงชายของเสื้อโค้ทที่ด้านหลังนั้นจะยาวกว่าทางด้านหน้า เพื่อป้องกันความหนาวเหน็บให้ต้นขา ป้องกันลม และสามารถกันน้ำได้ดี และสามารถนั่งทับได้บนหิมะ M-51 นั้นมีฮู๊ด (Hood) ที่สามารถพับเก็บเข้าไปด้านหลังเสื้อได้ ในขณะที่ M-65 นั้นสามารถถอดส่วนของฮู๊ดออกได้เลย หากไม่ต้องการใช้ Fishtail Parka ถือป็นเพื่อนคู่กายที่ “ทหารราบ” ยุคนั้นรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี

Комментарии

Информация по комментариям в разработке