จ่าอย่าทำหนู ! ตำรวจหึงโหด ชักปืนขู่ชาวบ้าน บุกกระทืบกิ๊กสาวปางตาย ก่อนหายลึกลับ

Описание к видео จ่าอย่าทำหนู ! ตำรวจหึงโหด ชักปืนขู่ชาวบ้าน บุกกระทืบกิ๊กสาวปางตาย ก่อนหายลึกลับ

ตร.หึงโหด ควงปืนบุกที่ทำงานกิ๊กสาวกลางดึก ลากมากระทืบปางตาย แม้ร้องขอชีวิตก็ยังไม่หยุด ต้องคว้ามีดจี้คอตัวเองขู่ฆ่าตัวตาย ฝ่ายชายถึงยอมปล่อย ก่อนวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
.
อ่านต่อ https://teroasia.com/news/229311

ช็อตเด็ด นาทีเดือด!

00:00 ตำรวจหึงโหด บุกกระทืบกิ๊กสาวปางตาย
02:10 กิ๊กสาวหายตัวลึกลับ!
03:05 วันเกิดอะไรขึ้น?
08:18 เปิดคลิป 'จ่าเชิด' ชักปืนบุกหลังบ้าน
10:18 อย่างกับในหนัง กระโดดถีบประตูพัง
15:20 เปิดคลิป เสียงร้องโหยหวน จ่าเชิดอย่าทำหนู!!
17:00 แฉจ่าเชิด เป็นคนสนิทบิ๊กตำรวจ?
18:12 สุดโหด ใช้หม้อทุบหัวจนบุบ เลือดกระเซ็น
21:26 เปิดนาที กิ๊กสาวดิ้นหลุดเผ่นแน่บหนีตาย
23:52 ผู้เสียหายเล่า นาทีตำรวจมาถึง โคตรพีค!
28:14 กลัวจนต้องไปเช่าโรงแรมนอน
34:47 ทนายสงกาญ์ ชำแหละคดีนี้ ทำอย่างไรได้บ้าง?
37:00 ต่อสายบิ๊กตำรวจชุมพร จะอุ้มลูกน้องหรือไม่?

วันที่ 1 พ.ย.2564 นายธนะโรจน์ จันทรโชติวิสิฐ หรือ โชค หนึ่งในพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าถึงวันที่เกิดหตุว่า วันนั้น ลูกสาว, ลูกเขย และ ผู้เสียหาย กำลังนั่งเรียงใบกระท่อมเป็นมัดบรรจุลงกล่อง เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า ส่วนตนเองกำลังสวดมนต์อยู่ด้านหลัง แต่งานยังไม่ทันเสร็จ ก็มีผู้ชายคนนึงถือปืนเข้ามา เคาะประตูกระจกเรียกให้เปิดประตู เราได้ยินเสียงโวยวายข้างนอกก็เลยออกไปดู ปรากฎว่า นางบี (นามสมมติ) ผู้เสียหายก็วิ่งสวนเข้ามา ชายคนดังกล่าวได้เดินไปที่ด้านหลังบ้านแล้วเปิดประตูเข้ามา

น.ส.พิมนภัทร์ พรอริยวัฒนกิจ หรือ เเป้ง และ นายพัสกร ขุนนุช หรือ บอย พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าเสริมว่า ชายที่บุกเข้ามาเป็นตำรวจ ยศนายดาบ ซึ่งคนนี้เคยมาบ้านหลายรอบแล้ว เคยเจอกันอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง ปกติเขามาก็คุยดี จะมาเรียกหาพ่อเรา มีรอบนี้ที่มาแปลก ตอนนั้นนั่งเรียงใบกระท่อมกันอยู่ หันไปก็เห็นว่าเขาเคาะประตูเรียกให้เปิด แล้วชักปืนขึ้นมาเลย เราก็เลยรีบวิ่งหนี พร้อมทั้งตะโกนว่าอย่ายิงๆ เราวิ่งไปหาที่ซ่อน ปิดประตูหนี ระหว่างนั้นเราก็พยายามโทรหาตำรวจ แต่ยังไม่ทันโทรติด เขาพังประตูเข้ามาก่อน ตอนนั้น เริ่มรู้สึกสติแตก เตรียมวิ่งแล้ว

นายธนะโรจน์ เล่าต่อว่า ช่วงนั้นก็เกิดเหตุชุลมุน มีการปัดป้อง หลังจากเห็นชายคนนั้นพยายามจะหยิบปืนอีกกระบอก เขาเอาปืนมาตบ ซึ่งจังหวะนั้น นางบี ก็วิ่งหนีออกไป เขาเห็นนางบีวิ่งหนี เขาก็วิ่งตามไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงนางบีร้องโหยหวนอยู่ตลอด ซึ่งพอตนเองหลุดมาจากชายคนนั้นได้ ก็พยายามหาลูก เดินวนทั้งบ้าน ร้านกาแฟ ก็ไม่เจอ เลยเดินกลับเข้าบ้านหาโทรศัพท์โทรหาตำรวจ ระหว่างนั้น เขาก็ยังทำร้ายนางบีตลอดเวลา ได้ยินเสียงดังโหยหวนไปไกลกว่า 300 เมตร เขาทำร้ายนางบีเป็นชั่วโมงได้ เขาตีจนหนำใจแล้ว นางบีก็หนีออกมาได้ แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากปั๊มน้ำมันข้างๆ พอสักพักผู้ก่อเหตุก็เดินไปที่รถที่จอดอยู่ริมถนน แล้วขับรถเข้ามาจอดหน้าบริษัท ลงจากรถแล้วเข้ามาในออฟฟิศ ตนพยายามโทรหา 191 เป็นร้อยสาย แต่ก็ไม่มีใครรับสาย กว่าจะโทรติด แต่ก็ยังไม่มา มาตอนที่เหตุการณ์สงบแล้ว ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเกิดความหึงหวง หรือเมา เพราะก่อนหน้านี้ เขาก็เคยมาทะเลาะกับนางบีที่นี่ แต่ยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เขาเป็นตำรวจในพื้นที่ และได้ข่าวว่าเป็นอดีตพลขับของผู้บังคับการ จ.ชุมพร ด้วย ก็น่าจะมีอิทธิพลอยู่เหมือนกัน เขาคงมั่นใจว่าเขามีพาวเวอร์มากพอ และไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ถึงได้ก่อเหตุอุกอาจอย่างนี้ พอสักพักตำรวจมา ตนก็ลุ้นมากว่าตำรวจคงจับเขาไป แต่ปรากฎว่า เขากับตำรวจก็ทักทายเฮฮากันตามปกติ เขาเอาปืนไปเก็บ ตนและลูกเขยแอบอยู่ตรงห้องน้ำ ส่วนลูกสาวอยู่ในออฟฟิศตรงที่ตำรวจอยู่ ปรากฎว่าผู้ก่อเหตุมาข่มขู่ชี้หน้าลูกสาวบอกว่า "อย่าให้เจอที่ไหนนะ" พูดต่อหน้า ตร.คนอื่นๆ ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อนเลย ก่อนหน้านี้ที่เจอก็พูดจากันดีมาโดยตลอด ตอนนี้ครอบครัวกลัวกันมาก หลังจากโดนข่มขู่ ไม่กล้าพักอยู่ที่เดิม ต้องไปเช่าเกสต์เฮ้าส์นอน

หลังจากนั้น มีนักข่าวมาพร้อมตำรวจ มาเก็บรายละเอียดที่ออฟฟิศ ตำรวจก็ฟังแต่ไม่ได้จดอะไร แล้วบอกว่าอีก 2-3 วัน จะเรียกไปสอบปากคำ แต่พอกลายเป็นข่าว ก็เรียกสอบปากคำในวันถัดไปเลย

ด้าน ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น สองเรื่องใหญ่ๆ บุกรุกบ้านคนอื่น และทำร้ายร่างกายผู้หญิง ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่อุกอาจมาก เป็นตำรวจแล้วบุกบ้านประชาชนยามวิกาล สำหรับกรณีน้องผู้หญิง เหี้ยมมาก ขนาด ม.ม้าหายไปเลย เขาต้องโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย โทษจำคุก 10 ปี ปรับ 1-2 หมื่นบาท สำหรับกรณีคุณโชค เขาจะต้องโดนข้อหาบุกรุกในยามวิกาล พกพาอาวุธปืน และทำร้ายร่างกาย ถ้าผู้การ ไม่ขัดข้อง ผู้ร้องอาจจะขอโอนคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม เพราะกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีสี ถ้าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ข่มขู่ เราสามารถไปยื่นคำร้องต่อศาลได้เลย หากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เราสามารถยื่นขอคัดค้านการประกันตัวได้

สำหรับความคืบหน้าทางด้านคดี พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เผยว่า ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหา สอบสวนปากคำ และนำผู้ต้องหาฝากขังต่อศาล จ.ชุมพร ทำตามขั้นตอนของการสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อหา บุกรุกในเคหะสถานในเวลากลางคืน พกพาอาวุธปืน ประทุษร้าย ทำร้ายร่างกาย ส่วนจะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ต้องรอดูการตรวจร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และมีการแจ้งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งมีการยึดอาวุธปืนไว้แล้วเพื่อใช้ในการสอบสวน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนและเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความสบายใจ พร้อมกับมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ

#เรื่องนี้ต้องดู #ตำรวจหึงโหด #ตำรวจมีกิ๊ก #Ch7HD #Ch7HDNews #TERODigital

Комментарии

Информация по комментариям в разработке