ชาติปิ ทุกขา ชราปิ ทุกขา มรณัมปิ ทุกขัง โสกปริเทว ทุกขะ โทมะนัสสะ อุปาทายา ตีติ

Описание к видео ชาติปิ ทุกขา ชราปิ ทุกขา มรณัมปิ ทุกขัง โสกปริเทว ทุกขะ โทมะนัสสะ อุปาทายา ตีติ

เทศนาธรรมยามบ่ายวันพระ วันธรรมสวนะ วันอังคารที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๗ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาวัชราจารย์ วิ. (สุทัศน์ โกสโล ตามภานนท์) เมตตาเป็นองค์แสดงธรรม
หัวข้อธรรม ชาติปิ ทุกขา ชราปิ ทุกขา มรณัมปิ ทุกขัง โสกปริเทว ทุกขะ โทมะนัสสะ อุปาทายา ตีติ

ท่านเจ้าคุณเมตตานำเข้าสมาธิ นั่งให้ตรง ทำจิตให้ว่างจากทุกอย่าง ที่ไม่ว่างคือรูปนั่งหรือกายนั่ง กายสงบ วาจาสงบ นี่คือศีลของพวกเธอ แต่จิตยังไม่สงบ ให้รวมสติเข้ากับลมหายใจ หายใจเข้าให้ยาว ให้แรง ตามรู้ตลอดสาย พอหายใจเข้าสุด ให้พักลมพักจิตนิดนึง หายใจออกให้ยาว ให้แรง ตามรู้ตลอดสาย พอหายใจออกสุด ไม่ต้องพัก รีบหายใจเข้า ให้รู้ ให้ตื่น ให้สดชื่น ให้เบิกบาน เรื่องอื่นให้ว่างให้หมด ที่ไม่ว่างคือลมหายใจ ลมหายใจเป็นธรรมเครื่องระงับสังขาร
ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ เป็นธรรมเครื่องระงับจากสังขารทั้งปวง พวกเธอจงทำจิตให้ว่างจากทุก ๆ อย่าง ที่ไม่ว่างคืออานาปานสติ จนกว่าจิตจะอิ่ม เพราะอานาปานสติเป็นอาหารของจิต ทำให้จิตอิ่ม เกิดปีติ ๕ ประการ ภายในจิต เกิดอย่างไร รู้อย่างนั้น จนกว่าปีติจะคลายไป สงบไป ทำให้จิตมีความสุข ไม่มีสุขใดในโลกที่จะเสมอความสุขของสมาธิจิต
ประคองจิตตั้งไว้ให้ตรง ในสุขของจิต ถ้าความสุข ความทุกข์ดับไป ความดีใจ ความเสียใจ ดับไปก่อน จะเป็นเหตุให้จิตมีอุเบกขา คือจิตตรง อบรมสติสัมปัชชัญะให้บริสุทธิ์ สติสัมปัชชัญญะเมื่อบริสุทธิ์ก็หยั่งรู้ในรูปขันธ์ เห็นรูปขันธ์ว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน เห็นความเกิด ความเสื่อมในรูปขันธ์ เห็นความเกิด เห็นความเสื่อมในนามขันธ์ จนเกิดญาณทัศนะ ตัวสัมปัชชัญญะเมื่อบริบูรณ์ ไม่มีอุปทานก็เกิดเป็นญาณเครื่องรู้ ตัวสติเมื่อไม่มีอุปาทานก็เป็นวิญญาณ การหยั่งรู้ในเบญจขันธ์
ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัญหา ไม่มีทิฐิ จะไม่เข้าไปยึดถือ ไม่เข้าไปยึดติด
ถ้าเวทนาเกิดในขณะนั่งสมาธิ ให้ทำจิตกำหนดรู้เวทนาในเวทนานั้น เป็นประจำ แม้เวทนาจะมาก และขึ้นสูงสุด อย่าได้คลายความเพียร อย่าได้เปลี่ยนอิริยาบถ กำหนดรู้ทุกข์ที่เป็นอุปาทาน จนกว่าทุกข์เป็นอุปทานจะดับไป จะเห็นทุกข์ที่เป็นอริยสัจ การเห็นทุกข์ในอริยสัจ มันจะว่างจากทุก ๆ อย่าง ที่ไม่ว่างคือทุกข์อันประเสริฐ เป็นอะภิปปะโมทะยัง
คือจะบันเทิงในทุกข์ที่เป็นธรรม ผู้เห็นทุกข์ที่เป็นธรรม จะนั่งตลอดวัน ตลอดคืน ก็ได้ เพราะไม่มีตัวตน หยั่งรู้เวทนาที่อยู่ในฐานกาย จนกว่าเวทนาที่อยู่ในฐานกายจะเข้าไปถึงจิต ให้รู้จิตในจิต ที่เป็นทุกข์อันประเสริฐ คือเป็นทุกข์ของอริยสัจ เป็นทุกข์ของสมุทัย ที่เกิดในจิต เห็นความเกิดดับที่มีความว่างจากอุปาทาน ดูที่มโนสัมผัสชาเวทนา เกิดทางซ้าย หรือเกิดทางขวา กว่าจะส่งขึ้นเป็นวิญญาญ เพราะวิญญาณมี ๒ แถบ มโนสัมผัส ก็มี ๒ แถบ รู้มโนสัมผัส จนรู้มโนวิญญาณ เข้าในฐานธรรมในธรรม วิญญาณจะออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือ เกิดจากวิญญาณทางใจ นี้เกิดความว่างอันประเสริฐ เกิดความว่าง จากอัตตาตัวตนอย่างประเสริฐ

Комментарии

Информация по комментариям в разработке