รวมอาณาจักรที่หายสาบสูญ ทางเหนือไทยลาวและบางที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน

Описание к видео รวมอาณาจักรที่หายสาบสูญ ทางเหนือไทยลาวและบางที่ยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในปัจจุบัน

#โยนกนคร ตำนานเวียงหนองหล่ม
สปป. #ลาวขุดพบพระพุทธรูป ใต้น้ำโขง เชื่อว่าคือ #พระพุทธเจ้าล้านตื้อ ที่สูญหายจริงหรือ..? #ตำนานเมืองเชียงแสน #ลาว #พระพุทธรูปองค์ใหญ่
โยนกนครไชยบุรีราชธานีศรีช้างแส่น หรือ แคว้นโยนก (พ.ศ. 1200–1650) เป็นรัฐของชาวไทยวน ชาวไทยวนเป็นประชากรที่พูดภาษาตระกูลภาษาขร้า-ไทกลุ่มหนึ่ง ตั้งถิ่นฐานทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรล้านนา
เป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร ปัจจุบันชาวไทยวนเป็นพลเมืองหลักในภาคเหนือของประเทศไทย มักเรียกตนเองว่า "คนเมือง"
ซึ่งเป็นคำเรียกที่เกิดขึ้นในยุคเก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง เพื่อฟื้นฟูประชากรในล้านนาหลังสงคราม โดยการกวาดต้อนกลุ่มคนจากที่ต่าง ๆ
เข้ามายังเมืองของตน
โยนกนครที่ตั้งอยู่แถบลุ่มน้ำโขงตอนกลาง
อันเป็นที่ราบลุ่มของน้ำแม่กก เป็นที่ตั้งแหล่งชุมชนที่มีมาอย่างช้านานซึ่งเป็นอาณาจักรแรกของชนชาติไทย ตั้งแต่ประมาณปี 1200-1650
อาณาจักรโยนก ก็ล่มสลายลงเมื่อเกิดการแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จากการล่มสลายของเวียงโยนกไชยบุรีศรีช้างแส่น และสิ้นราชวงศ์สิงหนติแล้ว ขุนพันนา
และนายบ้านกลุ่มชนที่เหลือรอดได้อพยพมาสร้างเมืองใหม่
นำโดยขุนลัง ริมฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งตะตก และอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโยนกนครฯ เรียกว่าเวียงเปิกสา (เวียงปรึกษา) หรือเวียงเชียงแสนน้อย
โดยผู้ที่ครองเวียงเปิกสานั้น จะต้องได้รับการเปิกสา(ปรึกษา) คัดเลือกจากประชาชนในเมืองทั้งหมด คล้ายกับแนวทางของระบอบประชาธิปไตย เรียกว่า
ไพร่แต่งเมือง รวมเป็นขุนผู้ครองเวียงเปิกสา 16 คน แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีในเวียงเปิกสา(ปรึกษา) มีความเก่าถึงแค่ยุคล้านนาเท่านั้น ไม่ได้มีอายุเท่าตามที่ตำนานอ้าง
..............................................................................................................
#สุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณที่สาบสูญก่อนมีประเทศไทย! “สุวรรณโคมคำ” กำเนิดจากแม่ลูกถูกลอยแพ
นี่ไม่ใช่นิทาน และไม่ใช่นิยาย แต่เป็นเรื่องราวของเมืองโบราณ ที่กรมศิลปากรได้จัดแปลมาจากภาษาไทยเหนือ รวมอยู่ในประชุมพงศาวดารเป็นภาคที่ ๗๒ ในชื่อ
“ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ” เป็นเมืองหนึ่งซึ่งได้กลายเป็นอาณาจักรที่สาบสูญไปก่อนที่จะมีประเทศไทย
แม้ในตำนานนี้จะไม่ได้ระบุชัดว่าเมืองสุวรรณโคมคำเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ใน “ตำนานสิงหนวัติ” กล่าวว่า ในสมัยต้นพุทธกาล สิงหนวัติกุมาร
โอรสของพระเจ้าเทวกาลแห่งนครราชคฤห์ ได้เสด็จออกจากเมืองมาทางตะวันออกเฉียงใต้จนใกล้แม่น้ำโขง ถึงแคว้นที่มีชื่อว่าสุวรรณโคมคำซึ่งเป็นเมืองร้างไปแล้ว
และได้สร้างเมืองโยนกเชียงแสนขึ้นตรงนั้น
แสดงว่าเมื่อสมัยต้นพุทธกาล เมืองสุวรรณโคมคำก็เป็นเมืองร้างไปแล้ว
จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งศึกษาตำนานเมืองสุวรรณโคมคำและตำนานสิงหนวัติ เชื่อว่าเมืองสุวรรณโคมคำอยู่บนเกาะใหญ่ในแม่น้ำโขงชิดไปทางฝั่งประเทศลาว
ตอนดอนมูลปากแม่น้ำแม่กกไปทางใต้เล็กน้อย ตรงข้ามกับบ้านสวนดอก อำเภอเชียงแสนในปัจจุบัน
“ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ” กล่าวถึงองค์อินทร์ปฐมราช เจ้าเมืองโพธิสารหลวง มีมเหสีชื่อว่าพระนางอุรสาเทวี มีโอรสด้วยกัน ๖ พระองค์แล้ว
ต่อมาพระนางอุรสาเทวีก็ทรงครรภ์อีกเป็นครั้งที่ ๗ องค์อินทร์ทรงโสมนัสยินดีพระทัยดำรัสให้พระนางรักษาครรภ์ให้ดี เมื่อกำหนดครบทศมาส
นางก็เจ็บครรภ์พร้อมกับเกิดแผ่นดินไหว นางสนมทั้งหลายจึงเอาถาดทองคำมารองรับพระกุมารที่คลอดออกมา แต่พระกุมารก็ไม่ได้คลอดเหมือนมนุษย์ธรรมดา
ประสูติออกมาทางมุขทวารของพระมารดา และไม่มีโลหิตแปดเปื้อนแต่อย่างใด เหมือนล้างไว้แล้วฉะนั้น
เมื่อพระนางอุรสาเทวีให้นางสนมไปกราบทูลพระสวามีให้ทรงทราบ องค์อินทร์ปฐมราชก็อัศจรรย์พระทัย รับสั่งให้พราหมณ์ปุโรหิตมาเฝ้า แล้วดำรัสถามว่า
บุตรของเราเกิดมาในวันนี้ไม่เหมือนมนุษย์ทั้งหลาย เกิดมาทางมุขทวารของมารดา ฉะนี้จักเป็นร้ายประการใด
.......................................................................................................
#ตํานานกว๊านพะเยา | พระพุทธเจ้าเคยมาประทับที่นี่จริงหรือ..?
ก่อนที่จะเป็นกว๊านพะเยาในวันนี้ พื้นที่แห่งนี้เดิมมีสภาพเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำอิง
ที่ประกอบไปด้วย“บวก”อันเป็นพื้นที่น้ำขังขนาดเล็ก และ“หนอง”
ที่เป็นพื้นที่น้ำขังขนาดใหญ่ โดยมี “หนองเอี้ยง” เป็นหนองน้ำที่สำคัญที่สุด
หนองเอี้ยงได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของกว๊านพะเยา ซึ่งในนิทานกว๊านพะเยา
ได้เล่าถึงชื่อของหนองเอี้ยงว่ามีที่มาจากสองเรื่องเล่าด้วยกัน
เรื่องแรก เล่าว่า คราวเมื่อพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญานกเอี้ยงสีทอง
กว๊านพะเยาเป็นทะเลสาบน้ําจืดที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือตอนบน
และใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไทยโดยมีบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์
ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง หนองหานจังหวัดสกลนคร ใหญ่เป็นอันดับสอง
และบึงระหาร ที่จังหวัดชัยภูมิใหญ่เป็นอันดับสามและใหญ่เป็นอันดับสี่
ก็คือที่กว๊านพะเยาจังหวัดพะเยานั่นเอง กว๊าน เยามีพื้นที่มากถึง
หนึ่งหมื่นสองพันแปดร้อยสามสิบเอ็ดไร่หรือประมาณยี่สิบจุดห้าตารางกิโลเมตร
คําว่ากว้านตามภาษาพื้นเมืองในทางภาคเหนือนั้นหมายถึงบึง หรือหนองน้ําขนาดใหญ่
ซึ่งเพี้ยนมาจากคําว่ากว้านแปลว่า รวบรวม รวมสิ่งต่าง ๆมาไว้เป็นจํานวนมาก
อาศัยอยู่ในกว๊านพะเยาแห่งนี้ด้วยเหตุที่กว๊านพะเยามีปลามากมายหลายชนิดเช่นนี้
จึงทําให้เมืองพะเยาเป็นแหล่งผลิตปลาส้มที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว
กว๊านพะเยาแต่ก่อนนั้นเป็นที่ราบลุ่มต่ํามีหุบมีหนอง มีทางน้ําไหลผ่านมีลําห้วยลําธาร
มีแม่น้ําเชื่อมถึงกันเป็นจํานวนมากถึงสิบแปดสายมีแม่น้ําสายหลักก็คือแม่น้ําอิง

เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ

Комментарии

Информация по комментариям в разработке