รีวิว Harley-Davidson FXFBS Fat Bob รถที่ขี่ดีทั้งในเมืองและในเขตภูเขา

Описание к видео รีวิว Harley-Davidson FXFBS Fat Bob รถที่ขี่ดีทั้งในเมืองและในเขตภูเขา

Brand : Harley-Davidson
Model : FXFBS Fat Bob
Year : 2019
ราคาเริ่มต้น : 1,049,000 บาท

จุดเด่นของรถ
📌 FXEF Fat Bob เคยเกิดขึ้นในยุคของ Shovel Head
📌 และ FXEF Fat Bob ก็จบลงในยุคของเครื่องยนต์​ Evolution ปีแรก
📌 ในปี 2008 FXDF Fat Bob ได้กลับมาอีกครั้งในยุคของ Twin Cam 96
📌 เมื่อตระกูล Dyna ถูกยุบไปรวมกับ Softail ในปี 2018 ก็ได้เกิด FXFBS Fat Bob ขึ้น
📌 นับได้ว่า Fat Bob ในยุคปัจจุบันเป็นโมเดลที่ดุดันและให้สมรรถนะในการขับขี่สูงระดับต้นๆของตระกูล Softail

ต้นตระกูลของรถขนาดกลางของ Harley-Davidson เริ่มขึ้นในปี 1971 ด้วยรหัส FX โดยนำเอาส่วนผสมของเฟรมขนาดใหญ่ในตระกูล FL มาผสมกับแผงคอหน้าของเฟรมขนาดเล็กในตระกูล XL ทำให้เกิด FX Super Glide ขึ้นมาครั้งแรกด้วยเครื่องยนต์ในยุคของ Shovelhead

รหัส FXE ถูกนำออกสู่ตลาดในปี 1974 ด้วยการติดตั้งระบบสตาร์ทไฟฟ้าเพิ่มเติมเข้าไป จนมาถึงปี 1979 จึงได้เกิดรหัส FXEF Fat Bob ขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยชื่อของ Fat Bob นั้นเป็นชื่อของถังน้ำมันแบบแยก 2 ใบแล้วนำมาประกบเข้าด้วยกันพร้อมกับเรือนไมล์ที่ติดตั้งบนถัง ซึ่งโดยปกติจะถูกใช้อยู่ในรถตระกูล FL เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

เมื่อมาถึงปี 1985 ซึ่งเป็นปีแรกที่เครื่อง Evolution ถูกนำมาใช้กับรถในตระกูล FX ทำให้ FXEF Fat Bob ได้ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่เป็นครั้งแรก และก็เป็นปีสุดท้ายที่ได้เห็น FXEF Fat Bob อยู่ในสายการผลิต เพราะเมื่อเข้าสู่ปี 1986 รถในตระกูล FX ก็เหลือแค่เพียง FXWG Wide Glide เท่านั้น เพราะ FX ถูกแทนที่ด้วยตระกูล FXR ที่เปิดตัวเมื่อปี 1982 และ FXWG ก็หายไปจากสายการผลิตในปี 1987

การกลับมาของชื่อ Fat Bob เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2008 เมื่อ Harley-Davidson นำเอารหัส FXDF Fat Boby เข้าสู่ตลาดด้วยเครื่องยนต์ Twin Cam 96 กับสไตล์ตัวรถที่ดูบึกบึน ล้อแม๊คหน้าหลังขนาด 16” แฮนด์ทรง Drag พร้อมตุ๊กตาจับแฮนด์ และไฟหน้าคู่ที่ไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นในตระกูล Dyna

เมื่อ Dyna ถูกยุบนำมารวมกับ Softail ในรถโมเดลปี 2018 ชื่อที่ยังคงเหลือรอดมาจากฝั่ง Dyna นั้นได้มี FXFBS Fat Bob ติดมาด้วย แต่รูปลักษณ์ของตัวรถในยุคปัจจุบัน ดูดุดันกว่ารุ่นพี่ๆที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้าจนแทบจะเทียบกันไม่ได้ แม้เฟรมของ Softail ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ จะนำมาใช้กับรถทุกรุ่นในตระกูล แต่ Fat Bob ให้อารมณ์การขับขี่แตกต่างจากพี่น้องคันอื่นอย่างสิ้นเชิง ด้วยอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน Harley-Davidson ที่ตั้งใจเน้นเรื่องสมรรถนะอย่างเต็มที่

ระบบโช๊คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 mm. ของ Showa พร้อมระบบ Dual Bending Valve ภายใน ทำให้การขับขี่เข้าโค้งที่รุนแรงทำได้มั่นใจมากขึ้น ส่วนระบบเบรคที่ให้มาเป็นแบบดิสท์คู่หน้า พอมารวมเข้ากับระบบโช๊คและองศาแผงคอขนาด 28 องศาแล้ว แทบจะเรียกได้ว่า Fat Bob มีระบบเบรคที่ตอบสนองได้ดีที่สุดในตระกูล Softail เลยทีเดียว

เครื่องยนต์ Milwaukee Eight ขนาด 114 cu.in. ที่ให้มาเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับรถในปี 2019 และกรองอากาศแบบ Hi Flow ทำให้ได้แรงบิดมหาศาลในทุกย่านความเร็ว ยิ่งถ้าได้เอาไปลองขี่ในเส้นทางภูเขาแล้วหล่ะก็ จะยิ่งสัมผัสได้ถึงสมรรถนะของ Fat Bob ที่ถูกรีดออกมาจากการการขับขี่ได้อย่างเต็มที่


ต้องขอขอบคุณ Harley-Davidson of Bangkok หรือ Power Station พระราม 9 ที่เอื้อเฟื้อรถมาให้ทำการทดสอบขับขี่ในเขตเมืองกันบ้าง สำหรับท่านใดสนใจอยากทดลองขี่ หรือกำลังหาโปรโมชั่นพิเศษของรถรุ่นนี้ สามารถโทรติดต่อได้ที่ 099-339-1888 หรือ   / hdbkk   หรือแวะไปนั่งเล่นที่โชว์รูมบนถนนพระราม 9 ได้ทุกวันครับ 😊

#HDPlayground #HDP #HighwayDragsterPlayground #HDPLive #LifeAndKustom #TwoWheels #Motorcycle #Riding #Bangkok #Thailand #harleydavidson #harleydavidsonasia #harleydavidsonthailand #vtwin #milwaukee #FXDF #FXEF #FXFBS #FatBob #PowerCruiser #MilwaukeeEight #M8 #Harley-DavidsonOfBangkok #PowerStation #HDBKK

Комментарии

Информация по комментариям в разработке